ไทยรัฐฉบับพิมพ์
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล และ “สิงห์บลู” เชลซี ต้องลุ้นโควตา ไปเล่นแชมเปียนส์ลีกในนัด ปิดฤดูกาล โดย “แชมป์เก่า” เชลซี ต้องลุ้นถึงสองเด้ง คือนอกจากต้องบุกไปเอาชนะ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ที่เซนต์ เจมส์ พาร์ก ให้ได้แล้ว ยังต้องแช่งให้ “หงส์แดง” แพ้คาบ้านด้วย “สิงห์บลู” ถึงจะแซงเข้าป้ายอันดับ 4 ได้สิทธิ์ไปเล่นแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลหน้า ส่วนลิเวอร์พูลขอแค่เสมอ ในการเปิดบ้านรับมือไบรท์ตันก็เพียงพอที่จะจบฤดูกาลด้วยอันดับ 4 ในศึกพรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล 2017-18 คืนนี้ (อาทิตย์ 13 พ.ค.) ทรูบีอิน สปอร์ต ถ่ายทอดสด ให้ชมทั้งสองคู่ เริ่ม 3 ทุ่มตรง ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ ที่แม้จะคว้าแชมป์ไปแล้ว แต่ยังต้องการชัยชนะเพื่อทำสถิติเก็บครบ 100 แต้ม ในเกมที่พวกเขาจะบุกไปเยือน “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน เริ่มแข่ง 21.00 น. สดทางทรูบีอิน สปอร์ต...
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้ ประจำวันอาทิตย์ที่ 13 พ.ค.เป็นเกมนัดปิดฤดูกาล 2017-18 ซึ่งจะแข่งขันครบทั้ง 10 คู่ 10 สนาม โดยมีโปรแกรมดังต่อไปนี้ (ชื่อแรกเป็นเจ้าบ้าน) เบิร์นลีย์พบบอร์นมัธ, คริสตัล พาเลซพบ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน, ฮัดเดอร์สฟิลด์พบอาร์เซนอล, ลิเวอร์พูลพบไบรท์ตัน (ถ่ายทอดสดทางทรูบีอิน สปอร์ต 1), แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพบวัตฟอร์ด (ถ่าย ทอดสดทางทรูบีิอิน สปอร์ต), นิวคาสเซิลพบเชลซี (ถ่ายทอดสดทางทรูบีอิน สปอร์ต 3), เซาแธมป์ตัน พบแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ยิงสดทางทรูบีิอิน สปอร์ต 4), สวอนซีพบสโต๊ก, ทอตแนม ฮอตสเปอร์พบเลสเตอร์ ซิตี้ และเวสต์แฮมพบเอฟเวอร์ตัน โดยจะเริ่มแข่งเวลา 21.00 น.พร้อมกันทุกคู่
โดยไฮไลต์ของโปรแกรมนัดปิดฤดูกาลอยู่ที่การแย่งโควตาแชมเปียนส์ลีกของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล (ทีมอันดับ 4) และ “สิงห์บลู” เชลซี (ทีมอันดับ 5) ซึ่งสถานการณ์ก่อนแข่งนัดนี้ ลิเวอร์พูลมีคะแนนมากกว่าเชลซีอยู่ 2 แต้ม
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะลงเตะนัดสุดท้ายของซีซัน ด้วยการเปิดรังแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ “นกนางนวล” ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน โดยก่อนหน้านี้ เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ออกมาเผยว่า เกมเจอกับไบรท์ตันนัดนี้จะเป็นแมตช์แห่งฤดูกาลของหงส์แดง เพราะมีความสำคัญต่อทีมมากๆ
คาดว่านัดนี้ เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือหงส์แดง จะจัดทัพใหญ่เต็มสูบลงบู๊ นำโดยโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกจอมถล่มประตูทีมชาติอียิปต์ที่ยิงไปแล้ว 31 ประตูในศึกพรีเมียร์ลีกซีซันนี้ ร่วมด้วยโรแบร์โต ฟีร์มิโน และซาดิโอ มาเน ขณะที่ไบรท์ตัน ซึ่งรอดตกชั้นแน่นอนแล้ว จะส่งเกล็น เมอร์เรย์, โฮเซ อิซเกียร์โด และปาสกาล กรอสส์ เป็นสามประสานแนวรุก อย่างไรก็ตาม นัดนี้ลิเวอร์พูลขอแค่ผลเสมอเท่านั้น จะคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้ทันที โดยไม่ต้องไปสนใจผลการแข่งขันของเชลซี
ทางด้าน “สิงห์บลู” เชลซี จะต้องยกพลบุกไปเยือน “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ที่สนามเซนต์ เจมส์ พาร์ก เกมนี้ แชมป์เก่า เชลซี ต้องลุ้นถึงสองเด้ง คือนอกจากต้องบุกมาเอาชนะนิวคาสเซิลให้ได้แล้ว ยังต้องลุ้นให้ลิเวอร์พูลแพ้ไบรท์ตันคาบ้านด้วย ทีมสิงห์บลูถึงจะแซงเข้าป้ายอันดับ 4 คว้าตั๋วไปเล่นแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลหน้า
ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไปแล้ว แต่ก็ยัง ต้องการคว้าชัยชนะเพื่อทำสถิติใหม่เก็บคะแนนได้ ถึง 100 แต้ม โดยนัดนี้ แมนฯซิตี้ จะยกพลล่องใต้บุกมาเยือน “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ที่สนามเซนต์ แมรีส์
เกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือแมนฯซิตี้ จะยังคงส่งชุดเก่งลงสนาม โดยมีกาเบรียล เชซุส ยืนเป็นหน้าเป้า พร้อมทั้งมีเควิน เดอ บรอยน์, ลีรอย ซาเน, ราฮีม สเตอร์ลิง และดาวิด ซิลบา ช่วยกันปั้นเกมรุก ส่วนเจ้าบ้านเซาแธมป์ตัน ของกุนซือมาร์ก ฮิวจ์ส จะส่งชาร์ลี ออสติน, ดูซาน ทาดิช และนาธาน เรดมอนด์ เป็นสามประสานแนวรุก
ด้าน “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะพักตัวหลักหลายตำแหน่ง ในเกมที่พวกเขาจะเปิดรังโอลด์แทรฟเฟิร์ด รับมือ “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด โดยคาดว่าโจเซ มูรินโญ กุนซือผีแดง จะส่งตัวสำรองอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และอ็องโตนี มาร์กเซียล ลงเป็นคู่กองหน้า