หน้าแรกแกลเลอรี่

เป๊ป VS คลอปป์

หมวดแซม

3 เม.ย. 2561 05:01 น.

ตอนนี้สถานการณ์ของ อันโตนิโอ คอนเต กุนซือเชลซี ยิ่งร้อนฉ่าหนักกว่าเดิม หลังจากที่ทีม “สิงห์บลู” พลาดท่าโดน “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส ทีมคู่ปรับร่วมเมืองหลวง บุกมาแซงจิกพ่ายคารังสแตมฟอร์ดบริดจ์ 1-3 ทั้งที่ได้ประตูขึ้นนำก่อน แต่มาโดนสเปอร์สถล่มแซง 3 ลูกรวด ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันอาทิตย์

ความพ่ายแพ้นัดนี้ ทำให้เชลซีแทบหมดลุ้นที่จะติดท็อปโฟร์เพื่อคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลหน้าแล้ว เนื่องจากตามหลังสเปอร์ส ที่ยึดอันดับ 4 อย่างเหนียวแน่น ห่างถึง 8 คะแนนเลยทีเดียว

ช่องว่างที่ห่างถึง 8 คะแนนกับอีก 7 เกมสุดท้ายที่เหลือนั้น ต้องบอกว่าเป็นงานยากสุดๆสำหรับคอนเต และทีมสิงห์บลูของเขา แถมยังมีโปรแกรมหินที่ต้องเจอกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในนัดรองสุดท้ายของฤดูกาล ด้วย

ถ้าเชลซีชวดไปเล่นแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลหน้า มีความเป็นไปได้สูงมากที่คอนเตจะชะตาขาด โดน “เสี่ยหมี” โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีมชาวรัสเซีย ปลดออกจากตำแหน่ง

อย่างที่โบราณกล่าวเอาไว้ว่า “การคว้าแชมป์ว่ายากแล้ว แต่การป้องกันแชมป์นั้นยากยิ่งกว่า” ซึ่งดูเหมือนว่าคอนเตก็หนีสัจธรรมนี้ไม่พ้นเช่นกัน

ที่ผ่านมา มีชื่อของหลุยส์ เอ็นริเก อดีตกุนซือบาร์เซโลนา และโทมัส ทูเคิล อดีตเทรนเนอร์ดอร์ทมุนด์ เป็นตัวเต็งที่จะมาเป็นกุนซือคนใหม่ของเชลซีแทนคอนเต

ส่วนศึกแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย คืนวันพุธ 4 เม.ย.นี้ คู่เอกบิ๊กแมตช์ที่คอบอลทั่วโลกตั้งตารอคอยจะเป็นคู่ไหนไปไม่ได้ นอกจากศึกสายเลือดของ 2 ทีมยักษ์ใหญ่เมืองผู้ดี ซึ่งนัดแรก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะเปิดรังแอนฟิลด์รับมือ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อน

ทั้งสองทีมต่างกำลังอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรงด้วยกันทั้งคู่ แมนฯซิตี้ เพิ่งบุกไปถล่ม เอฟเวอร์ตัน ยับเยิน 3-1 ทำให้ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ขยับใกล้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเข้าไปทุกที

เพราะนัดต่อไป หากแมนฯซิตี้บุกไปคว้าชัยเหนือคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนฯยู ในเกมดาร์บี้แมตช์ที่โอลด์แทรฟเฟิร์ดได้ ก็จะประกาศศักดาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ไปครองทันที

ขณะที่ลิเวอร์พูลก็ใช่ย่อย 5 เกมหลังสุดแพ้แค่นัดเดียว ล่าสุดบุกไปแซงชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 โดยได้ประตูชัยจากโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกทีมชาติอียิปต์ ในช่วงท้ายเกม

เกมนี้จะเป็นการดวลกันของ 2 ทีมที่มีเกมรุกดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดยแมนฯซิตี้ยิงได้มากที่สุดของลีก 88 ประตู ส่วนลิเวอร์พูลทำได้ 75 ประตู เป็นรองทีมเรือใบสีฟ้าอยู่ 13 ลูก

แต่หงส์แดงมี โม ซาลาห์ ปีกจอมถล่มประตูทีมชาติอียิปต์ ที่กำลังนำเป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกที่ 29 ประตู เฉลี่ยยิง 1 ประตู ทุกๆ 86 นาที ซึ่งตอนนี้ลงเล่นไปแล้ว 2,483 นาที เป็นดาราชูโรง

ส่วนแมนฯซิตี้ มีทั้ง เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง, ลีรอย ซาเน และเซร์คิโอ อเกวโร ที่แนวรับหงส์แดงจะประมาทไม่ได้แม้แต่เสี้ยววินาที

นอกจากนั้น เราจะได้เห็นการประชันกึ๋นของ 2 กุนซือชั้นยอดอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา และเจอร์เกน คลอปป์ ที่ต้องชิงไหวชิงพริบในการวางแท็กติกและการแก้เกม

แน่นอนว่า ไม่มีทีมไหนอยากจะพลาดท่าแพ้ก่อนในนัดแรก

แต่เชื่อว่า ทั้ง 2 ทีมจะหวดกันไฟแลบอย่างแน่นอน.

หมวดแซม