งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ชีวิตนักฟุตบอลก็เหมือนกับคนวัยทำงาน ที่ต้องเลือกเดินไปในเส้นทางใหม่เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้กับชีวิตของตนเอง แม้การตัดสินใจจะยากลำบากแค่ไหนก็ตาม 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา การแข่งขันฟุตบอลของลีกต่างๆ ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมา เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างหนักในหลายๆประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแถบยุโรป ที่มี 5 ลีกใหญ่ของโลก ซึ่งประกอบไปด้วย พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลาลีกา สเปน, บุนเดสลีกา เยอรมนี, กัลโช เซเรียอา อิตาลี และ ลีกเอิง ฝรั่งเศส 

แม้จะไม่มีฟุตบอลให้ได้รับชม แต่ข่าวซื้อขายตัวผู้เล่นก็ยังถือเป็นจุดขายสำคัญสำหรับวงการลูกหนังและสื่อกีฬาทั่วโลก ซึ่งอาจจะมีบิ๊กดีลสำคัญเกิดขึ้นอีกครั้งในอนาคตก็เป็นได้ เฉกเช่นเดียวกับปี 2017 ที่ปารีส แซงต์ แชร์แมง เคยระเบิดคลังทุ่มซื้อ เนย์มาร์ จากบาร์เซโลนา ด้วยค่าตัว 222 ล้านยูโร ซึ่งเป็นการทำสถิติโลกเดิมของ พอล ป็อกบา ที่ย้ายจากยูเวนตุส กลับมาสู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง เมื่อปี 2016 ที่ค่าตัว 105 ล้านยูโร (89 ล้านปอนด์)

แน่นอนว่าไม่มีใครคาดคิดว่านักเตะเหล่านี้จะย้ายออกจากทีมที่ถูกเลี้ยงดูฟูมฟักเขามาเป็นอย่างดี กรณีเดียวกันกับนักเตะตำนานดังหลายๆ คน ที่สุดท้ายเลือกย้ายออกจากทีมในช่วงปลายอาชีพ เพื่อไปกอบโกยเงินในลีกจีน, สหรัฐอเมริกา หรือ กาตาร์

แม้แต่ศึกลูกหนังไทยลีกเองก็เคยมีนักเตะชื่อดังมาแขวนสตั๊ดที่นี่แล้วหลายคน ซึ่งชื่อที่แฟนลูกหนังไทยคงจำได้เป็นอย่างดี นั่นคือ ร็อบบี ฟาวเลอร์ อดีตหัวหอกทีมชาติอังกฤษ ที่โด่งดังเป็นพลุแตกกับลิเวอร์พูล ในช่วงปี ค.ศ. 1993–2001 โดยที่สุดท้ายที่เขาเลือกมาประกาศรีไทร์ที่สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อปี 2011–2012

ขณะที่ไอคอนของสโมสรลิเวอร์พูลอีกหนึ่งคนคือ สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่พาทีมหงส์แดงเถลิงแชมป์ยูฟ่า แชมเปียน์ลีก สมัยที่ 5 ในค่ำคืนแห่งอิสตันบูลเมื่อปี 2005 จนแฟนๆ ต่างยกให้เป็นสัญลักษณ์ของทีม แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะไปแขวนสตั๊ดกับแอลเอ กาแล็กซี ในเมเจอร์ลีก สหรัฐฯ

"เงินทองเป็นของนอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้" วลีที่คนไทยคุ้นชินเป็นอย่างดี แต่กลับตรงกันข้ามกับการใช้ชีวิตของมนุษย์โลกในทุกๆ วันนี้ ที่เงินทองคือปัจจัยในการอยู่รอด แล้วความสุขถึงจะตามมา จึงทำให้เป็นที่เข้าใจได้ว่านักเตะหลายๆ คน ที่ยอมทิ้งความฝันเพื่อไปตักตวงความสุขให้แก่ชีวิต เนื่องจากไม่มีใครยากลำบากในยามแก่เฒ่า โดยเฉพาะอาชีพนักกีฬาที่มีอายุการใช้งานถึงราวๆ 30-35 ปี เพราะฉะนั้นอย่าได้แปลกใจ ถ้าวันใดวันหนึ่งนักเตะที่เรารักอาจต้องเลือกทางเดินที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง 

ไม่มีใครรู้ว่า ซาดิโอ มาเน จะอยู่กับลิเวอร์พูลไปจนถึงแขวนสตั๊ดเลยหรือไม่ หรือแม้แต่ แฮร์รี เคน ที่จะอยู่ล่าตาข่ายให้กับ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ไปจนถึงอายุ 33 ปี หรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่คงไม่มีใครรู้อนาคตที่แน่นอน นอกเสียจากโดราเอมอนที่นั้งทรานแมชชีนไปยังโลกอนาคตได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาเหล่านั้นมาถึง มันคงเป็นเวลาที่ยากลำบากในการตัดสินใจของคนคนนั้นอย่างแน่นอน ไม่ว่าเขาจะเลือกไปทางไหนก็ตาม และนั่นคือเส้นทางที่ตัวเขาได้เป็นคนกำหนดมันเอง

Pic : europe1