ใครคือคนที่เหมาะสมสำหรับ 'เปเรซ'

แทบไม่น่าเชื่อว่าหลังสิ้นเสียงงานแถลงข่าวที่ซานติอาโก เบอร์นาเบว เมื่อสัปดาห์ก่อน จะเป็นการทำหน้าที่ในฐานะเฮดโค้ชเรอัล มาดริด ครั้งสุดท้าย ของยอดบุรุษลูกหนังอย่าง ซีเนดีน ซีดาน ทั้งที่ย้อนกลับไปไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เขาคือคนที่ช่วยให้ทีมผงาดเจ้าสโมสรยุโรป 3 สมัยติดต่อกัน

อย่าว่าแต่แฟนบอลราชันชุดขาวจะตกใจเลยครับ ไม่ว่าใครที่รักและศรัทธา รวมถึงนิยมชมชอบในกีฬาลูกหลังได้ฟังข่าวนี้ ก็คงต้องช็อกตาตั้งไปตาม ๆ กัน

ถ้าหากนี้คือการเตรียมการของทั้งสองฝ่ายมาสักระยะ ว่าอาจถึงเวลาที่ต้องแยกทาง แน่นอนว่าสื่อในแดนสเปน ต้องปูดข่าวเกี่ยวกับการลาออกมาให้แฟน ๆ ได้ระคายหูบ้าง แต่นี่กลับเงียบเป็นเป่าสาก

หลังข่าวการลาออก ดาวเตะรายหนึ่งของเรอัล มาดริด ได้ออกมาเผยกับสื่อว่า บรรดาสตาฟฟ์โค้ชและนักเตะ ทราบเรื่องก่อนงานแถลงเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งนั้นยืนยันได้ว่า การสวมคอนเวิร์สของ ซีดาน ในครั้งนี้ น่าจะมาจากสาเหตุที่ปัจจุบันทันด่วนจริง ๆ 

การหยิบยกเอาประเด็นนี้มาขึ้นมาเขียน ในใจผมก็ทราบดีว่ามันเป็นเรื่องตกกระแสไปแล้ว เพราะตอนนี้ใคร ๆ ก็ใจไปจดจ่ออยู่กับศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่รัสเซียกันหมด

แต่ในอีกด้านของความคิด ก็ยังฉงนอยู่กับสิ่งต่าง ๆ ว่าทำไม นักเตะอันเป็นที่รักและเทิดทูนของแฟนบอล รวมถึงพาทีมประสบความสำเร็จแบบไม่ว่างเว้น ถึงกล้าที่จะเดินออกมาจากจุดที่ตัวเองกำลังอยู่

หรือว่านี่คือฟางเส้นสุดท้ายระหว่าง ซีดาน กับซินญอร์เปเรซ แล้วจริงๆ เพราะหลังจากการลาออกไม่นาน ก็มีข่าวลือปูดออกมาว่า อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของการไขก๊อก คือประเด็นที่ทั้งคู่หาทางออกเกี่ยวกับการซื้อขายนักเตะไม่ได้

แม้หน้าฉากในงานแถลงข่าว ทั้งคู่จะออกมาตอบคำถามสื่อด้วยความชื่นมื่นปนรอยยิ้ม และไร้ความขัดแย้ง แต่เบื้องหลังอาจพบบรรยากาศมาคุที่ซ่อนอยู่ก็เป็นได้

เพราะถ้าใครจำได้ เมื่อต้นซีซั่นที่ผลงานทีมเริ่มเป๋ แต้มในลีกเริ่มหล่นหายไปเรื่อย ๆ ช่วงนั้นน่าจะเป็นช่วงที่ ซีดาน ควรโบกมือลาทีมมากกว่า

มาดริดในยุคของ ฟลอเรนติโน เปเรซ ขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องของการสะสมดาวดัง ประธานจอมเจ้าเล่ห์รายนี้ ต้องการสร้างทีมให้เป็น "กาลาคติกอส" แบบยุคสู่ยุค เห็นใครดังไม่ได้ต้องซื้อมาไว้ก่อน แล้วค่อยหาวิธีการใช้งานทีหลัง

ขณะที่อีกแง่ โค้ชเองก็ต่างมีแนวทางและกระบวนทัศน์ของตัวเอง ที่จะทำทีมให้ประสบความสำเร็จ การต้อนผู้เล่นฝีเท้าดีมาอยู่รวมในทีมเดียวกัน ไม่ใช่สูตรสำเร็จตายตัว ที่จะช่วยให้ก้าวไปหยิบแชมป์ได้ง่าย ๆ 

แม้ ซีดาน จะผ่านยุคที่ซุปตาร์ลูกหนังถูกต้อนมาชุมนุมกันที่มาดริด แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ศรัทธาในแนวคิดนั้นสักเท่าไรนัก และพยายามสร้างทีมตามอย่างที่ตัวเองต้องการ

หลักฐานที่ชัดเจนคือ การไม่สามารถการันตีตำแหน่งตัวจริงให้กับแข้งที่อุดมชั้นเชิงอย่าง แกเร็ธ เบล, อิสโก้, คาริม เบนเซมา หรือแม้แต่ มัตเตโอ โควาชิซ ได้

ที่สำคัญการที่คว้าแชมป์ยุโรป พ่วงด้วยตำแหน่งอันดับ 3 ในลีก ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเสียหาย จนผู้เป็นกุนซือต้องสังเวยตำแหน่งตัวเองซะเมื่อไหร่

แต่เมื่อในท้ายที่สุด ทั้ง ซีดาน และ เรอัล มาดริด ต่างกลายเป็นอดีตของกันและกัน จึงเป็นคำถามที่เกิดขึ้นมาว่า แล้วกุนซือแบบไหนจะเป็นที่พอใจของผู้บริหารมากที่สุด

เพราะขนาดอดีตนักเตะระดับตำนาน ที่พาทีมประสบความสำเร็จแบบเป็นกอบเป็นกำยังอยู่ไม่ได้ แล้วพ่อยอดขมองอิ่มคนไหนกันล่ะ ที่จะเข้ามาตอบสนองตัณหาและความอยากของประธานรายนี้ได้อีก???

>>LEMON JUICE<<