JUPITER
เกือบได้แข่งบอลเอฟเอ คัพ รอบ 3 อีกนัดซะแล้ว สำหรับพลพรรคหงส์แดง นี่ถ้าไม่ได้ "เฟอร์จิล ฟาน ไดค์" โขกประตูชัยในช่วงท้ายเกมล่ะก็ งานเข้าแน่ๆ...
เปิดตัวนัดแรกได้อย่างเปรี้ยงปร้างจริงๆ สำหรับ "เฟอร์จิล ฟาน ไดค์" กองหลังค่าตัวแพงสุดของโลกที่ราคา 75 ล้านปอนด์ เมื่อแข้งดัตช์รายนี้ได้รับโอกาสให้ลงตัวจริงนัดแรกกับลิเวอร์พูล
ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 ลิเวอร์พูล โคจรมาพบกับ เอฟเวอร์ตัน คู่แค้นร่วมเมือง ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเวลาท้องถิ่นแข่งกันตอน 19.55 น. ตรงกับเมืองไทยก็ 02.55 น.
เยอร์เกน คลอปป์ ตัดสินใจส่ง ฟาน ไดค์ ลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรก ก็เจอศึกเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ ทันที โดยยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ โจเอล มาติป
ส่วนตัวจริงที่เหลือในนัดนี้ก็มี โลริส คาริอุส เฝ้าเสา โจ โกเมซ แบ็คขวา แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้าย เอมเร ชาน เล่นกลางรับคู่กับ เจมส์ มิลเนอร์ ที่สวมปลอกแขนกัปตันทีม
กองกลางตัวรุก 3 ประสาน อเลกซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, อดัม ลัลลานา และ ซาดิโอ มาเน ที่กลับมาจากงานรับรางวัลยอดเยี่ยมทวีปแอฟริกา ได้ทันเวลาพอดี ส่วนกองหน้าตัวเป้า รับผิดชอบโดย โรแบร์โต เฟอร์มิโน ส่วน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ได้รางวัลนักเตะแอฟริกายอดเยี่ยม ก็กลับมาด้วย แต่ยังไม่ฟิต ไม่มีชื่อเป็นตัวสำรองด้วยซ้ำ
ตลอดเกม ฟอร์มของทั้ง 2 ทีมสูสีกันมาก และเกือบจะลงเอยด้วยการเสมอกัน 1-1 แล้วก็ตาม แต่จุดเปลี่ยนของเกมมาเกิดขึ้นในนาทีที่ 84 เมื่อหงส์แดงได้เตะมุม ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน โยนบอลให้ ฟาน ไดค์ ขึ้นโหม่งประตูชัย 2-1 ช่วยให้ต้นสังกัดใหม่ ผ่านเข้ารอบ 4 ได้สำเร็จ และถือเป็นการเปิดตัวได้อย่างสุดติ่งกระดิ่งแมวจริงๆ
จากชัยชนะในนัดนี้ ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ทำสถิติไม่แพ้ใครทุกรายการรวม 17 นัดติดต่อกัน โดยชนะ 12 นัด และเสมอ 5 นัด นอกจากนี้ ยังทำสถิติไม่แพ้เอฟเวอร์ตัน 16 นัดติดต่อกันในทุกรายการรวมกันอีกด้วย โดยชนะกับเสมออย่างละ 8 นัด ส่วนนัดล่าสุดที่แพ้ ต้องย้อนไปถึงเดือนตุลาคม 2010 เลยทีเดียว
และสถิติอีกอย่างที่ยังคงอยู่นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 1992 ก็คือ ถ้าหงส์แดงยิงนำทอฟฟี่สีน้ำเงินได้ก่อน จะไม่แพ้
ตอนนี้ก็มารอลุ้นกันว่า คู่ต่อสู้ในรอบ 4 จะเป็นใคร ถ้าจับเจอคู่แค้นอีกทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงดีไม่น้อย ว่ามั้ย
JUPITER