ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ลุ้นกันสุดๆกับ 2 คู่สุดท้าย ศึกลูกหนังยูโร 2024 รอบ 16 ทีม เมื่อ “กังหันลมสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ ที่ต้องเก็บชัยชนะเพื่อล้างอายจากฟอร์มแย่ในรอบแรกเจอกับ “ผีดิบ” โรมาเนีย นัดนี้ โรนัลด์ คูมัน กุนซือชาวดัตช์ จัดทัพเต็มที่ ส่วนอีกคู่ “แข้งลุ่มแม่น้ำดานูบ” ออสเตรีย ดวลกับ “ไก่งวง” ตุรกี ที่จัดเต็มเหมือนกันทั้งสองทีมเพื่อโอกาสทะลุเข้าสู่รอบ 8 ทีม โดยพีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 และทรู วิชัั่นส์ 603 ถ่ายทอดทั้งสองคู่
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ปี 2024 หรือ “ยูโร 2024” ที่ประเทศเยอรมนี รอบน็อกเอาต์ หรือรอบ 16 ทีม ในค่ำคืนวันที่ 2 ก.ค. เป็น 2 คู่สุดท้ายของรอบนี้ คู่แรก “ผีดิบ” โรมาเนีย แชมป์กลุ่มอี จะดวลกับ “กังหันลมสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ ทีมอันดับ 3 ของกลุ่มดี ฟาดแข้งกันที่อลิอันซ์ อารีนา, เมืองมิวนิก เริ่มเตะ 23.00 น. พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 และทรูวิชั่นส์ 603 ถ่ายทอดสด
“ผีดิบ” โรมาเนีย ผ่านเข้ารอบมาในฐานะจ่าฝูงของกลุ่มอี นัดนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งานของนิคูซอร์ บันคู ที่ติดโทษแบนหลังสะสมใบเหลืองครบตามโควตา แต่ไม่ส่งผลต่อการจัดทัพของเอ็ดเวิร์ด ยอร์ดาเนสคู เทรนเนอร์ชาวโรมาเนียแต่อย่างใด แนวรับวางราดู ดรากูชิน, อังเดร บูกา ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ส่วน อันเดร ราติอู, วาซิเล โมกอส เป็นแบ็กขวาและซ้าย มาริอุส มาริน ปักหลักตัดเกม ราซวาน มาริน ที่ซัดไป 2 ตุงในทัวร์นาเมนต์นี้ขับเคลื่อนเกมกลางสนามร่วมกับนิโคเล สแตนซิอู กัปตันทีม แนวรุก เดนนิส แมน ผนึกกำลังฟลอริเนล โคมาน เดินเกมรุกทางปีกขวาและซ้าย แดนหน้าวางเดนนิส กรากุช ยืนหน้าเป้าคอยจบสกอร์
ส่วน “กังหันลมสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ ฟอร์มย่ำแย่ในรอบแรกจนหล่นมาจบอันดับ 3 เกมนี้ โรนัลด์ คูมัน เฮดโค้ชชาวดัตช์ จะยึดผู้เล่นหน้าเดิมๆลงวาดลวดลาย บาร์ต เวอร์บรูคเคน ผู้รักษาประตูลงเฝ้าเสา แนวรับวางเดนเซล ดุมฟรีส์ รับหน้าที่วิงแบ็กฝั่งขวา เวอร์จิล ฟาน ไดก์, สเตฟาน เดอ ฟราย ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เนธาน อาเก ดูแลฝั่งซ้าย แดนกลาง ซาบี ซิมมอนส์ จะกลับมาคุมเกมกลางสนามร่วมกับ ติยานี ไรจ์นเดอร์ส และเจอร์ดี ชูเตน อีกครั้ง แนวรุก เฌเรมี ฟริมปง, เมมฟิส เดปาย และโคดี กักโป ยืนเป็น 3 ประสานแดนหน้า
ทั้งนี้ เนเธอร์แลนด์ฟอร์มย่ำแย่ไม่ต่างจากบรรดายักษ์ใหญ่ทีมอื่นๆจนโดนแฟนบอลโห่ใส่ มาในเกมนี้จะเน้นเป็นพิเศษเพื่อหวังจะเรียกฟอร์มเก่งออกมาให้ได้ ขณะที่ ผีดิบ ทำผลงานได้ดีตั้งแต่นัดแรกของทัวร์นาเมนต์นี้ แต่ศักยภาพยังเป็นรองอยู่หลายช่วงตัว รูปเกมจะเป็นทัพ “กังหันสีส้ม” จะเดินเกมรุกกดดันเข้าใส่แบบวันเวย์ แม้ว่าแข้ง “ผีดิบ” จะวางแผนมาเน้นรับและโต้กลับเร็ว แต่ขุมกำลังเป็นรองอยู่เยอะ แนวรุก “อัศวินสีส้ม” ไม่ได้ฮอตเปรี้ยงปร้างก็จริง อย่างไรก็พอฝากผีฝากไข้ได้ ทั้งเฌเรมี ฟริมปง, เมมฟิส เดปาย และโคดี กักโป จะช่วยกันยิงพาทีมเก็บชัยชนะไปได้ในท้ายที่สุด
จากนั้นเวลา 02.00 น. วันที่ 3 ก.ค. เป็นคู่สุดท้าย ของรอบนี้ “แข้งลุ่มแม่น้ำดานูบ” ออสเตรีย ที่พลิกผงาดคว้าแชมป์กลุ่มดีมาครอง จะดวลกับ “ไก่งวง” ตุรกี รองแชมป์กลุ่มเอฟ ฟาดแข้งกันที่เรดบูลล์ อารีนา, เมืองไลป์ซิก พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 และทรูวิชั่นส์ 603 ถ่ายทอดสด
ออสเตรียเพิ่งระเบิดฟอร์มเทพด้วยการโค่น เนเธอร์แลนด์ 3-2 ในเกมนัดสุดท้าย จนผงาดคว้าแชมป์กลุ่มดีมาครอง เกมนี้ราล์ฟ รังนิก เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน จะไม่มีการปรับทัพแต่อย่างใด ผู้รักษาประตูวางแพทริก เพนต์ซ ลงเฝ้าเสา แนวรับวาง สเตฟาน พอช, มักซิมิเลียน โวเบอร์, เควิน ดันโซ, ฟิลลิปป์ เอ็มเวเน ยืนเป็นแผงแบ็กโฟร์ นิโคลัส ไซวัลด์, ฟลอเรียน กริลลิตซ์ คุมจังหวะเกม มาร์เซล ซาบิตเซอร์ กัปตันทีมผนึกกำลังคอนลาร์ด ไลเมอร์, คริสโตฟ เบาการ์ทเนอร์ ปั้นเกมรุก แดนหน้าวางมาร์โก อเนาโตวิช กองหน้าตัวเก่งลงยืนหน้าเป้าคอยล่าตาข่าย
ขณะที่ “ไก่งวง” ตุรกี ผ่านเข้ารอบมาเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เกมนี้ขาด 2 แกนหลักอย่างฮาคาน คัลฮาโนกลู และซาเม็ด อเคย์ดิน ที่ติดโทษแบนพร้อมกันหลังจากสะสมใบเหลืองครบโควตา ทำให้ วิเซนโซ มอนเตลา กุนซือชาวอิตาเลียน ต้องปรับทัพพอสมควร แต่ยังลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 เมิร์ต กูน็อค จอมหนึบตัวเก่งจะลงเฝ้าเสาเป็นมือ 1 แนวรับวางเซกิ เซลิค รับหน้าที่แบ็กขวา อับดุลคาริม บาร์ดัคซี, เมริห์ เดมิรัล ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ส่วนเฟอร์ดี คาดิโอกลู ดูแลทางฝั่งซ้าย ซาลิห์ ออซคาน จะลงคุมจังหวะเกมร่วมกับคาน เอย์ฮาน แทนที่คัลฮาโนกลู แนวรุกวางอาร์ดา กูแลร์ เพลย์เมกเกอร์ดาวรุ่งจะฟิตกลับมาผนึกกำลังออร์คุน ค็อคกู, เคนาน ยิลดิช ปั้นเกมรุก แดนหน้าวางบาริส ยิลมาซ ลงยืนหน้าเป้าล่าตาข่าย
ถือว่าฟอร์มร้อนแรงเกินห้ามใจจริงๆ สำหรับ ออสเตรีย ที่ขุมกำลังค่อนข้างครบเครื่อง โดยเฉพาะการขับเคลื่อนเกมของมาร์เซล ซาบิตเซอร์ กัปตันทีมที่ทำอะไรก็ดีไปหมด ด้านตุรกีฟอร์มโดยรวมถือว่าไม่ขี้ริ้วขี้เหร่เท่าไหร่ แต่การขาดหายไปของคัลฮาโนกลู และอเคย์ดิน ส่งผลต่อทีมมากพอตัว ทำให้เกมนี้จะต้องใช้พลังพอสมควรหากต้องการทะลุไปถึงรอบ 8 ทีม ทั้งสองทีมจะเป็นฝ่ายเปิดเกมแลกกันตั้งแต่ต้นเกม รูปเกมน่าจะออกมาสนุกคู่คี่สูสี สุดท้ายจะเป็นออสเตรียที่ชั่วโมงนี้ครบเครื่องสุดๆจะเบียดเข้าวินไปในท้ายที่สุด
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่