ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ค่ำคืนวันที่ 1 ก.ค. ศึกลูกหนังยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย มีฟาดแข้ง 2 คู่ 2 สนาม ไฮไลต์อยู่ที่ “ตราไก่” ฝรั่งเศส รองแชมป์กลุ่มดี พบกับ “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม รองแชมป์กลุ่มอี ทั้งสองฝ่ายฟอร์มไม่ดีในเกมแรก นัดนี้ต่างต้องการแก้ตัวเพราะถ้าพลาดตกรอบทันที ส่วนอีกคู่ “ฝอยทอง” โปรตุเกส จ่าฝูงของกลุ่มเอฟ ที่พลาดท่าพ่ายมาในเกมนัดสุดท้าย เจอกับสโลวีเนีย ทีมอันดับ 3 ของกลุ่มซี ทำให้ต้องเก็บชัยชนะหวังล้างอาย จึงจัดดรีมทีม นำโดยคริสเตียโน โรนัลโด, แบร์นาร์โด ซิลวา และราฟาเอล เลเอา ยืนเป็น 3 ประสานล่าตาข่าย ขณะที่สโลวีเนียไม่น้อยหน้า จัดเต็มที่เช่นกัน
เข้มข้นขึ้นสำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ปี 2024 หรือ “ยูโร 2024” ที่ประเทศเยอรมนี รอบน็อกเอาต์ หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยในค่ำคืนวันที่ 1 ก.ค. มีฟาดแข้งกัน 2 คู่ 2 สนามเหมือนเดิม คู่เอก “ตราไก่” ฝรั่งเศส รองแชมป์โลกปี 2022 และรองแชมป์กลุ่มดี จะพบกับ “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม รองแชมป์กลุ่มอี ฟาดแข้งกันที่เมอร์คูร์ สปีล-อารีนา เมืองดุสเซลดอร์ฟ เวลา 23.00 น. พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 และทรูวิช่ันส์ ช่อง 603 ถ่ายทอดสด
จากที่ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ทำได้ไม่ตามเป้าคว้ารองแชมป์กลุ่มดีเท่านั้น ทำให้นัดนี้ต้องมาเน้นกันเป็นพิเศษ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือคนเก่งสภาพทีมไม่มีปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บหรือติดโทษแบนแต่อย่างใด เกมนี้จะลงเล่นในระบบ 4-3-3 ไมค์ เมนยอง ผู้รักษาประตูจากเอซี มิลาน แนวรับวาง ฌูลล์ กุนเด แบ็กขวา ดาโยต์ อูปาเมกาโน, วิลเลียม ซาลิบา ยืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เตโอ เฟร์นานเดซ ดูแลฝั่งซ้าย เอ็นโกโล ก็องเต รับบทผึ้งงานคอยวิ่งไล่ตัดเกม อองตวน กรีซมันน์, อาเดรียง ราบิโอต์ คอยสร้างสรรค์เกม แดนหน้าวางคีเลียน เอ็มบัปเป กองหน้ากัปตันทีมตัวเก่งจะสวมหน้ากากผนึกกำลัง อุสมาน เดมเบเล, มาร์คัส ตูราม ลงล่าตาข่าย

ด้าน “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม ถือว่าผิดฟอร์มไปเยอะ ผ่านเข้ารอบมาเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มอี ทำได้แค่ 4 แต้มในรอบแรกเท่านั้น เกมนี้จะได้โดดี ลูเคบาคิโอ พ้นโทษแบนกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง โดมินิค เตเดสโก เทรนเนอร์คนเก่งจะจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดในระบบ 4-4-2 แนวรับวางทิโมธี กาสตาญ, อาร์ทูร์ เธียเต, เวาส์ ฟาเอส, แยน แฟร์ตองเกน ยืนเป็นแผงแบ็กโฟร์ เควิน เดอ บรอยน์ กัปตันทีมผนึกกำลังยูรี ติเลมันส์ และอมาดู โอนานา ขับเคลื่อนเกมกลางสนาม แดนหน้าวางเฌเรมี โดกู, เลอันโดร ทรอสซาร์ รับบทปีกขวาและซ้าย แดนหน้าวางใจโรเมลู ลูกากู กองหน้าร่างยักษ์ ลงยืนหน้าเป้าต่อไป
ถือว่าเป็นเกมบิ๊กแมตช์ของรอบ 16 ทีม ในเกมนี้ ฝรั่งเศสเล่นได้ผิดฟอร์มค่อนข้างเยอะจากฟอร์มการเล่น แต่เกมนี้จะต้องเน้นเป็นพิเศษเพราะไม่มีโอกาสได้แก้ตัวแล้วหากผิดพลาดอีกครั้ง เช่นเดียวกับ เบลเยียมที่ไม่สามารถเค้นฟอร์มออกมาได้ทั้ง 3 นัด จนต้องกระเสือกกระสนและผ่านเข้ารอบมาด้วยสถิติเฮดทูเฮด คาดว่าทั้งสองทีมจะเปิดเกมรุกเข้าแลกกันตั้งแต่ต้นเกม เพราะต่างฝ่ายต่างมีแนวรุกระดับพระกาฬทั้งคู่ แต่ด้วยศักยภาพของทั้ง “ตราไก่” และ “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” ที่ไม่ต่างกันนัก หากยังไม่มีประตูในช่วง 45 นาทีแรก ช่วงท้ายเกมรูปเกมจะออกมาแบบน่าอึดอัดใจ เพราะไม่กล้าแลก หากพลาดพลั้งขึ้นมาจะตกรอบทันที ยิ่งท้ายเกมจะยิ่งระมัดระวังเป็นพิเศษ จนมีโอกาสสูงที่จะต้องดวลกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ
จากนั้นในเวลา 02.00 น. วันที่ 2 ก.ค. “ฝอยทอง” โปรตุเกสจ่าฝูงของกลุ่มเอฟ พบกับสโลวีเนียทีมอันดับ 3 ของกลุ่มซี ฟาดแข้งกันที่วัลด์ สตาดิโอน, เมืองแฟรงค์เฟิร์ต พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 และทรูวิชั่นส์ ช่อง 603 ถ่ายทอดสด

“ฝอยทอง” โปรตุเกสเก็บชัยมา 2 นัดติดตีตั๋วเข้าสู่รอบน็อกเอาต์แน่นอนแล้ว เกมนี้จะได้ราฟาเอล เลเอา กองหน้าจากมิลาน พ้นโทษแบนกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง โรแบร์โต มาร์ติเนซ นายใหญ่ชาวกระทิงได้เรียกผู้เล่นตัวหลักๆกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง หลังจากได้พักในเกมแพ้จอร์เจีย 0-2 โดยจะลงเล่นในระบบ 4-3-3 เหมือนเดิม แนวรับวางชูเอา กานเชโล, เปเป, รูเบน ดิอาส, นูโน เมนเดส ยืนเป็นแผงแบ็กโฟร์ บรูโน แฟร์นันเดส กองกลางตัวเก่งผนึกกำลังชูเอา ปาลินญา, วิตินญา แดนหน้าวาง คริสเตียโน โรนัลโด กองหน้าและกัปตันทีม วัย 39 ปี ยังได้รับโอกาสเป็นตัวจริงต่อ แม้ว่าจะยังลั่นไกไม่ได้ แต่ก็จะผนึกกำลังแบร์นาร์โด ซิลวา และราฟาเอล เลเอา ยืนเป็น 3 ประสานคอยกระซวกประตูคู่ต่อสู้
ส่วนสโลวีเนียผ่านเข้ารอบมาในอันดับ 3 จากกลุ่มซี มาติยาซ เค็ค เทรนเนอร์สโลวีเนีย จะไม่มี เอริค ยานซา แบ็กซ้ายตัวเก่งที่ติดโทษแบน 1 นัด หลังจากโดนใบเหลืองครบตามโควตา ทำให้ยูเร บัลโคเวค จะลงคุมแนวรับร่วมกับแซน คาร์นิชนิค, วานซา เดอร์คูซิช, ยากา บิโจล แทน ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ไม่เปลี่ยนแปลง ทิมิ แม็ก เอลสนิค กองกลางตัวเก่ง ขับเคลื่อนเกมร่วมกับเปตาร์ สโตยาโนวิช, อดัม จีเนซดา เซริน และแยน มลาคาร์ แดนหน้าวางเบนจามิน เชสโก กองหน้าตัวเก่งจากไลป์ซิก ผนึกกำลังอันดราซ สปอราร์ ลงล่าตาข่าย
ทั้งนี้ โปรตุเกสเสียท่าต่อจอร์เจียมาในเกมนัดสุดท้ายรอบแรก ทำให้เสียหน้าพอสมควร ทำให้กลับมาเล่นในรอบน็อกเอาต์นี้จะค่อนข้างเน้นเป็นพิเศษเพื่อหวังจะแก้ตัวให้ได้ ด้านสโลวีเนียมี 3 แต้ม และผ่านเข้ารอบมาในฐานะหนึ่งในอันดับ 3 ที่ดีที่สุดก็จริง แต่แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขามีแนวรับที่แกร่งพอตัวที่ไม่ได้ถูกทะลวงเข้าไปได้ง่ายๆ รูปเกมจะเป็น “ฝอยทอง” ที่จะเปิดเกมรุกกดดันเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกม แม้ว่าสโลวีเนีย มีเกมรับที่เหนียวแน่นและวางแผนมาเล่นอย่างรัดกุม แต่แนวรุกแชมป์ยูโรปี 2016 ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทั้งโรนัลโด, เลเอา, แบร์นาร์โด, บรูโน จะอาศัยประสบการณ์และความสามารถส่วนตัว ช่วยกันทะลวงแนวรับสโลวักและตีตั๋วไปสู่รอบ 8 ทีมได้ไม่ยาก
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่