มะระหวาน
โชว์ฟอร์มได้โหดจริงๆ สำหรับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมเอฟเอ คัพ หลังจากบุกไปถล่ม “เดอะ แฮตเตอร์ส” ลูตัน ทาวน์ ยับเยินคาถิ่น 6-2 ทำให้แมนฯ ซิตี้ ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้ไม่ยาก
โดยในเกมวันนี้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ ที่กดคนเดียว 5 ตุง ทำให้ในฤดูกาลนี้ยิงไป 27 ประตูจาก 30 นัด เรียกได้ว่าร้อนแรงอย่างสุดๆ
นอกจากฮาแลนด์ที่โดดเด่นในเกมลูตัน แล้ว ที่ยังโดดเด่นไม่แพ้กันก็คือ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางทีมชาติเบลเยียมกัปตันทีม ที่โชว์ฟอร์มสุดยอดทำไปถึง 4 แอสซิสต์ให้กับอดีตดาวยิงดอร์ทมุนด์ยิงประตูในเกมนี้
จากฟอร์มการเล่นทั้งฮาแลนด์และเดอบรอยน์ แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขากลับมาฟิตเต็มร้อยอีกครั้ง
การทำ 5 ประตูของฮาแลนด์นั้นก็กลบเสียงบรรดากูรูทั้งหลายที่ออกมาวิจารณ์ดาวยิงวัย25ปี ที่ปืนฝืดไปอยู่ช่วงหนึ่ง ถึงขั้นที่เจ้าตัวต้องออกมาโวลั่นว่าเขากลับมาแล้ว
เช่นเดียวกับ “เคดีบี” ที่ต้องเรียกว่าเป็นยอดมนุษย์ของจริง หลังจากได้รับบาดเจ็บมานานถึง 5 เดือน หลายคนก็ต่างพากันคิดว่ากองกลางทีมชาติเบลเยียมอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะกลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง
แต่อดีตแข้งเชลซีกลับไม่เป็นเช่นนั้น เดอ บรอยน์ กลับมาสร้างผลงานได้ทันทีโดยลงเล่นเกมแรกด้วยการทำแอสซิสต์ทันที ช่วยให้ “เรือใบสีฟ้า” ถล่มฮัดเดอร์สฟิลด์ยับเยิน 5-0 ในศึกเอฟเอ คัพ เมื่อช่วงต้น ม.ค.ที่ผ่านมา
แถมยิ่งเล่นยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากกด 4 แอสซิสต์งามๆไปให้ฮาแลนด์ ทำให้ตอนนี้ “เคดีบี” ลงเล่นให้กับ “เรือใบสีฟ้า” รวมทุกรายการไป12นัดตั้งแต่หายเจ็บกลับมา และทำได้ถึง 11 แอสซิสต์เลยทีเดียว แถมยิงได้อีก 2 ประตู
จากที่ดูแมนฯ ซิตี้ ตั้งแต่เปิดฤดูกาลมาจนถึงตอนนี้ รูปเกมของ “เรือใบสีฟ้า” ในยามที่มี เดอ บรอยน์ กับไม่มีมันต่างกันเยอะจริงๆ โดยเฉพาะ ฮาแลนด์ ที่หาจังหวะทำประตูได้ค่อนข้างเยอะทั้งที่เป็นประตูและไม่เป็นประตู
เรียกได้ว่าตอนนี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับมาฟูลทีมอีกครั้ง และสวมบทผู้ไล่ล่าตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก คืนมาจากลิเวอร์พูลอย่างเต็มสูบอีกครั้ง
และในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แมนเชสเตอร์ซิตี้ มีคิวลงเล่นในเอติฮัด สเตเดียม เจอกับ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกดาร์บี้แมนเชสเตอร์ โดยจะทำการแข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 3 มี.ค.นี้
บอกได้เลยว่าปีนี้ “แมนเชสเตอร์ดาร์บี้” อาจจะไม่ดุเดือดเหมือนเคยก็ได้ เพราะชั่วโมงนี้ทั้งสองฝ่ายช่างต่างกันมากเลยทีเดียว
ด้วยขุมกำลังและฟอร์มการเล่นของแมนฯ ซิตี้ เหนือกว่าทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปอยู่พอสมควร แม้ว่า “ปิศาจแดง” จะฟอร์มกระเตื้องขึ้นมาก็จริง 5 นัดล่าสุดชนะ 4 นัด แพ้เพียงเกมเดียว
แต่จากฟอร์มของ “ปิศาจแดง” ในเกมที่พ่ายแพ้ฟูแลม 1-2 ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดบอกตรงๆ เลยว่าเป็นอีกเกมที่แข้ง “เรด เดวิลส์” เล่นกันได้ห่วยแตกจริงๆ
โดยเฉพาะแนวรุกของ “ผีแดง” หลังการหายไปของราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าทีมชาติเดนมาร์ก ทำให้แนวรุกยูไนเต็ดนั้นไร้ความน่ากลัว แถมแนวรุกเล่นกันแบบไม่เอาอ่าวและปราศจากความอันตรายในกรอบเขตโทษเลย
ด้วยฟอร์มของ “ปิศาจแดง” ที่แย่ขนาดนี้ออกมาเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นัดนี้ดูแล้วคงรอดยาก!!
แม้ว่าหลายคนจะบอกว่าเกมดาร์บี้มักจะมีอะไรพิเศษอยู่เสมอทีมที่ตกเป็นรองมักจะทำได้ดี แต่บอกได้เลยว่าไม่มีทางเกิดขึ้นกับแข้ง “ปิศาจแดง”ชุดนี้
อาจจะไม่ใช่เกมดาร์บี้ที่สู้กันสูสี แต่อาจจะกลายเป็นเกมดาร์บี้ที่ยำใหญ่อยู่ฝ่ายเดียวค่อนข้างจะแน่นอน!!
มะระหวาน
คลิกอ่านคอลัมน์ “ตะลุยฟุตบอลโลก” เพิ่มเติม