มะระหวาน
มันจบแล้วสำหรับแชมป์พรีเมียร์ลีกไม่มีพลิกโผแน่นอนน่าจะตกเป็นของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นัดล่าสุดเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ไปได้ 2–0 ทำให้ตอนนี้มีแต้มนำห่างรองจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ถึง 13 คะแนน
ตอนนี้เหลือการแข่งขันอีกเพียงแค่ 4 นัดเท่านั้น ขอเพียงแค่ชนะอีกแค่เกมเดียวก็จะแชมป์ทันที ซึ่งเมื่อมาดูจาก 4 นัดที่เหลือ พบกับเชลซี (เหย้า, 8 พ.ค.), นิวคาสเซิล (เยือน, 14 พ.ค.), ไบรท์-ตัน (เยือน, 19 พ.ค.), เอฟเวอร์ตัน (เหย้า, 23 พ.ค.)
ซึ่งดูแล้ว “เรือใบ” คงไม่น่าพลาดแน่นอน และน่าจะปิดจ๊อบได้ในเกมถัดไป หรือดีไม่ดีอาจจะจบลงหลังผลคู่แดงเดือดออกมาก็เป็นได้
กลางสัปดาห์นี้มีเกมไฮไลต์สำคัญในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบตัดเชือก นัดที่สอง ซึ่งจะได้รู้แล้วว่า 2 ยอดทีมของสโมสรยุโรปที่จะได้ผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ
คู่แรกคือวันอังคารที่ 4 พ.ค.นี้ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ว่าที่แชมป์พรีเมียร์ลีก จะได้ลงเล่นในรังพบกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมดังจากเมืองน้ำหอม โดยเกมแรก ซิตี้บุกไปชนะ เปแอสเช 2-1
การกลับมาลงเล่นในบ้านเกมนี้ถือว่า แมนฯ ซิตี้ ก็ได้เปรียบพอสมควร นอกจากจะได้เล่นในบ้าน ก็ยังมีประตูอะเวย์โกลกลับมาถึง 2 เม็ด เรียกได้ว่าแค่ผลเสมอก็เพียงพอต่อการเข้ารอบ
แต่เชื่อว่างานนี้การเล่นเพียงแค่ผลเสมอคงยากกว่าจะหาผลตัดสินแพ้ชนะ
บอกได้เลยว่าเกมระหว่าง “เรือใบสีฟ้า” กับ “เปแอสเช” ห้ามพลาดเพราะถือว่าเป็นทีมที่สุดยอดแนวรุกแห่งยุคมาเจอกัน
และตั๋วผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศนั้นสำคัญกับทั้งสองทีมเพราะต่างฝ่ายต่างยังไม่เคยเป็นแชมป์ นี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะมีโอกาสเถลิงแชมป์เป็นครั้งแรก
ขณะที่อีกคู่ลงฟาดแข้งกันในวันพุธที่ 5 พ.ค. “สิงห์บลู” เชลซี ทีมอันดับ 4 พรีเมียร์ลีก จะเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่จากลา ลีกา สเปน และแชมป์รายการนี้ 13 สมัย
สำหรับคู่เชลซี กำความได้เปรียบอยู่เล็กน้อยหลังบุกไปเสมอ เรอัล มาดริด 1-1 มีประตูอะเวย์โกลกลับมา
แต่ก็ไม่ง่ายสำหรับ “สิงห์บลู” เช่นกัน เพราะ “ราชันชุดขาว” ถือว่าเป็นทีมที่ถูกโฉลกรายการนี้เป็นพิเศษ เพราะมักจะมีแรงผลักดันเสมอยามลงเล่นถ้วยใบนี้
โดยคู่นี้หากเทียบฟอร์มกันแล้ว เชลซีดูเหนือกว่าเล็กน้อยด้วยฟอร์มช่วงหลังที่ร้อนแรงอย่างต่อเนื่องผิดกับชุดขาว ที่อยู่ในช่วงฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ เอาแน่นอนอะไรไม่ได้
แต่อย่างไรก็ตาม ซีเนอดีน ซีดาน นายใหญ่ชาวฝรั่งเศส ยังมีขุมกำลังระดับซุปเปอร์สตาร์ที่อยู่ในระดับเขี้ยวลากดินผ่านความกดดันมาแล้วนักต่อนักน่าจะสามารถเอาความได้เปรียบนี้คอยปั่นหัวแข้งวัยหนุ่มของ “สิงโตน้ำเงินคราม” ได้เช่นกัน
เรียกได้ว่าเกมรอบตัดเชือกนัดสองของศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก นั้นจะพลาดไม่ได้เลยทีเดียว เชื่อว่าน่าจะเป็นความมันระดับ 10 ดาวเลยทีเดียว
เอาเข้าจริงๆ สกอร์นัดแรกนั้นมันจะไม่มีความหมายสำหรับทั้ง 2 คู่ เพราะอะไรมันก็เกิดขึ้นได้เสมอ
ใครจะสามารถคว้าตั๋วไปลุยรอบไฟนอลส์ที่สนามอตาเติร์ก สเตเดียม ในกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี ได้
บอกได้เลยว่าห้ามพลาดทั้ง 2 แมตช์!!
มะระหวาน