หมวดแซม
กลายเป็นนายใหญ่คนใหม่ของทัพ “สาลิกาดง” ตามคาด เมื่อสตีฟ บรูซ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกุนซือคนใหม่ของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แทนที่ราฟาเอล เบนิเตซ ที่แยกทางกับทีมเมื่อช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
นิวคาสเซิลไร้กุนซือคุมทัพ นับตั้งแต่ราฟา เบนิเตซ กุนซือชาวสแปนิช แยกทางกับสโมสร หลังหมดสัญญาตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ “สาลิกาดง” จำเป็นต้องเร่งหาผู้จัดการทีมคนใหม่มาสานงานต่อจากเบนิเตซ
เดิมทีตัวเต็งที่จะมาเป็นนายใหญ่คนใหม่ของนิวคาสเซิลตามสายตาสื่อเมืองผู้ดีนั้น ก็คือ มิเกล อาร์เตตา ผู้ช่วยของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยังไม่เคยเป็นกุนซือคุมทีมไหนมาก่อนเลย
นอกจากนั้น ยังมีชื่อของโจเซ มูรินโญ อดีตกุนซือเชลซีและแมนฯยูโผล่เข้ามาเป็น “แคนดิเดต” ร่วมลุ้นเก้าอี้นายใหญ่คนใหม่ของทีมสาลิกาดงด้วย
แต่ “เฮียมู” ออกมาปฏิเสธเสียงแข็งอย่างทันควันว่า เขาไม่สนใจงานคุมทีมนิวคาสเซิล เพราะโค้ชมากฝีมืออย่างเขาต้องคุมทีมที่ได้ลุ้นแชมป์สถานเดียวเท่านั้น
ฉะนั้น ทีมครึ่งล่างของตารางที่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นอย่างนิวคาสเซิล จึงไม่ใช่ทีมที่คู่ควรสำหรับเขาอย่างแท้ทรู
สุดท้ายหวยก็เลยมาออกที่ สตีฟ บรูซ อดีตกุนซือซันเดอร์แลนด์และแอสตัน วิลลา ที่เซย์เยสตอบตกลงรับงานผู้จัดการทีมคนใหม่ของนิวคาสเซิล โดยเซ็นสัญญาคุมทีมในถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ก เป็นเวลา 3 ปีด้วยกัน
ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน บรูซเพิ่งลาออกจากการเป็นกุนซือเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ทีมในศึกเดอะแชมเปียนชิป เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จากนั้นคล้อยหลังแค่สองวัน นิวคาสเซิลก็ยืนยันแต่งตั้งบรูซเป็นกุนซือคนใหม่ของพวกเขา เมื่อวันพุธที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา
บรูซ ยอมรับว่า นิวคาสเซิลเป็นทีมขวัญใจในวัยเด็กของเขา และเป็นทีมโปรดของพ่อเขาอีกด้วย “ผมดีใจและภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเฮดโค้ชของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด นี่คือสโมสรในวัยเด็กของผม และเป็นทีมโปรดของพ่อผมด้วย ดังนั้นนี่คือช่วงเวลาที่พิเศษสุดๆสำหรับผมและครอบครัว”
จากการที่เกิดใกล้กับเมืองนิวคาสเซิล ทำให้บรูซกลายเป็นแฟนบอล “ทูน อาร์มีส์” ของนิวคาสเซิลตั้งแต่ยังเด็ก แต่เขากลับเคยคุมทีม
“แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ซึ่งเป็นคู่ปรับตัวฉกาจในถิ่นภาคอีสานเมืองผู้ดีของนิวคาสเซิล
สมัยเป็นนักเตะ สตีฟ บรูซ สร้างชื่อด้วยการเป็นกัปตันทีม“ปิศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเคยนำทัพ “ผีแดง” กวาดแชมป์มาแล้วมากมาย ทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ, ลีกคัพ และคัพ วินเนอร์ส คัพ โดยบรูซเล่นให้แมนฯยูทั้งสิ้น 309 นัด ยิงได้ 36 ประตู ระหว่างปี 1987-1996
จากนั้นเขาเริ่มต้นเส้นทางการเป็นกุนซือในปี 1998 โดยควบตำแหน่งผู้เล่น-ผู้จัดการทีมของเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก่อนจะทำหน้าที่ผู้จัดการทีมแบบเต็มตัวกับฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ในปี 1999
“บรูซซี” ผ่านประสบการณ์คุมทีมในลีกเมืองผู้ดีอย่างโชกโชน ไม่ว่าจะเป็นวีแกน, คริสตัล พาเลซ, เบอร์มิงแฮม ซิตี้, ซันเดอร์แลนด์, ฮัลล์ ซิตี้, แอสตัน วิลลา ก่อนจะมารับงานคุมทีมเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม สตีฟ บรูซ ต้องเจองานยากในการคุมทีม “สาลิกาดง” เนื่องจากได้งบเสริมทัพจากไมค์ แอชลีย์ เจ้าของทีมนิวคาสเซิล แบบจำกัดจำเขี่ย
ภารกิจสำคัญของบรูซ คือ ต้องนำ “สาลิกา ดง” นิวคาสเซิล ขึ้นมาติด “ท็อปเทน” ในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้าให้ได้.
หมวดแซม