PUN ABBEYROAD
ชำแหละ 4 ประเด็นสำคัญหลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พลาดท่าบุกไปแพ้ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-2 ตกรอบ 3 เอฟเอ คัพ ไปแบบสุดช็อก....
1.การจัดทีม
คลอปปป์จัดทีมเน้นส่งตัวสำรองผสมดาวรุ่ง ลงสนามในระบบ 4-3-3 ฟาบินโญ ยืนเซ็นเตอร์คู่ เดยัน ลอฟเรน แบ็กขวาเป็น ราฟาเอล คามาโช และแบ็กซ้ายเป็น อัลเบร์โต โมเรโน กองกลาง 3 คนมี เจมส์ มิลเนอร์ ,นาบี เกอิตา และ เซอร์ดัน ชาคิรี ส่วน 3 ประสานแนวรุกเป็น เคอร์ติส โจนส์, ดิวอค โอริกี และ เดเนียล สเตอร์ริดจ์ แต่เริ่มเกมไปแค่ 5 นาที ต้องเปลี่ยนตัวเอา คี ยานา โฮเอเวอร์ ลงมาแทน ลอฟเรน ที่มีอาการบาดเจ็บ ซึ่งต้องยอมรับหลังจบเกมว่ามีแค่ ฟาบินโญ คนเดียวที่เล่นดี นอกนั้นห่วยหมด
2.รูปเกม
เริ่มเกม 15 นาทีแรก เห็นได้ชัดว่าลิเวอร์พูลมีปัญหากับการโดน วูล์ฟแฮมป์ตัน โต้กลับ เพราะมี เจมส์ มิลเนอร์ คอยสกรีนก่อนถึงแนวรับแค่คนเดียว จนทำให้กองกลางจอมขยันโดนใบเหลืองไปด้วย รูปเกมส่วนใหญ่เป็นวูล์ฟแฮมป์ตันที่เหนือกว่าพอสมควร เพรสซิ่งหนักมากจนลิเวอร์พูลหาจังหวะยิงประตูแทบไม่ได้เลย และสุดท้ายนาทีที่ 38 ก็มาโดนหมาป่าลงโทษจากความผิดพลาดที่ โมเรโน จ่ายบอลคืน มิลเนอร์ ไม่ค่อยดีและถูกแย่งบอลจิ้มบอลต่อไปให้ ราอูล ฆิเมเนซ โซโล่เดี่ยวเข้าเขตโทษก่อนซัดเต็มข้อเข้าไปตุงตาข่ายขึ้นนำ 1-0 ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ส่วนครึ่งหลัง นาทีที่ 51 ลิเวอร์พูล ตีเสมอ 1-1 อย่างรวดเร็วหลังอึดอัดกันมานาน จากจังหวะ ดิวอค โอริกี ได้บอลแถวเขตโทษ ก่อนหาจังหวะยิงลอดขา เลอันโดร เดนดองเกอร์ เสียบมุมเข้าไป แต่พอตีเสมอได้เกมของลิเวอร์พูลก็ไม่ได้ดีขึ้น กลับกลายเป็นวูล์ฟที่ยังเหนือกว่าซะอย่างนั้น จ่ายบอลกันไปมาอย่างแม่นยำด้วยความอดทน และมาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 หลังโดนตีเสมอไปแค่ 4 นาที จากจังหวะที่ รูเบน เนเวส ยิงไกลเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างเฉียบขาด และนาทีที่ 68 ลิเวอร์พูลน่าตีเสมอจากฟรีคิกของ เซอร์ดัน ชาคิรี แต่โชคร้ายโดนปัดไปชนสามเหลี่ยม
คลอปป์เริ่มอยู่ไม่ไหว นาทีที่ 70 เปลี่ยนตัว 2 คนสุดท้าย ส่ง ซาลาห์ กับ เฟอร์มิโน ลงมาแทน สเตอร์ริดจ์ กับ โจนส์ แต่มันก็ดูเหมือนว่าจะสายเกินไปแล้ว เพราะวูล์ฟเล่นรัดกุมมากขึ้น ประคองตัวเองไปจนจบเกมและเอาชนะไปได้ 2-1 เขี่ยลิเวอร์พูลตกรอบ 3 เอฟเอ คัพ ทำให้หงส์แดงตกรอบเป็นรายการที่ 2 ในซีซั่นนี้ต่อจาก คาราบาว คัพ
3.วิเคราะห์ฟอร์มนักเตะ
เกมนี้แบ็ก 2 ฝั่งของลิเวอร์พูลอย่าง คามาโช และ โมเรโน เติมเกมแทบไม่ได้เลยและมีข้อผิดพลาดในเกมรับให้เห็นอยู่เรื่อยๆ การตัดสินใจต่างๆทั้งการยิงและการจ่ายบอลยังเทียบกับพวกตัวจริงไม่ได้ ส่วนโฮเอเวอร์ก็ยังต้องสะสมประสบการณ์ต่อไป ดีที่นัดนนี้มีพี่ฟาบินโญช่วยประคอง ด้าน เจมส์ มิลเนอร์ วันนี้เป็นเดอะแบกอย่างแท้จริง ต้องเล่นเป็นกลางรับ แต่ก็ต้องลงหลังไปช่วยประคองพวกดาวรุ่งด้วย ดังนั้นไม่ใช่เรื่องน่าตกใจที่เขาจะมีข้อผิดพลาดจนนำมาซึ่งการเสียประตูในครึ่งแรก ส่วน ชาคิรี นอกจากจังหวะฟรีคิกก็มีส่วนร่วมน้อยเกินไป เคอร์ติส โจนส์ กับ นาบี เกอิตา ก็ติดเลี้ยงเยอะเกินไป ไม่มีการทำชิ่งกับเพื่อนร่วมทีมเหมือน มาเน ส่วนโอริกีนอกจากจังหวะทำประตูได้ ก็ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ขณะที่ สเตอร์ริดจ์ ไม่นับแล้วกัน นึกว่าไม่ได้ลง
4.คลอปป์อาจมอง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สำคัญกว่า
ดูจากการจัดตัวผู้เล่นคงต้องใช้ประโยคว่า "ถ้วยนี้พี่ไม่เน้น" อย่างแท้จริง แต่ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นเพราะถ้าเกิดส่งพวกตัวจริงลงแล้วเดี้ยงอีกคงไม่ดีแน่ เพราะตอนนี้ก็เดี้ยงไปหลายคนแล้ว แต่บางทีพวกตัวสำรองที่ลงไปก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่การที่ไม่ค่อยได้เล่นร่วมกันแถมต้องเล่นกับดาวรุ่งอีกมันก็เลยสะเปะสะปะอย่างที่เห็น ถ้ามองโลกในแง่ดีก็คงต้องเดินหน้าต่อไปกับอีก 2 ถ้วยที่เหลือ แต่ตอนนี้เข้าใจตรงกันแล้วว่าไปแล้ว 2 แชมป์
PUN ABBEYROAD