เรื่องวุ่นในรั้วโคนม

เชื่อว่าหากใครที่ชื่นชอบฟุตบอลและลงเตะฟาดแข้งไม่ว่าจะเป็นระดับอาชีพหรือสมัครเล่นก็มีความใฝ่ฝันที่จะก้าวขึ้นไปติดทีมชาติ ซึ่งถือว่าเป็นความฝันอันสูงสุดของคนเล่นฟุตบอล

สำหรับนักเตะฟุตบอลคนหนึ่ง ถ้าหากต้องการก้าวขึ้นมาติดทีมชาติได้นั้นหากไม่ได้เป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์สูง ก็ต้องใช้ความสามารถของตัวเองโชว์ลีลาจนให้เตะตาเทรนเนอร์จนเรียกตัวเข้าไปติดทีมชาติในที่สุด

แต่ไม่ใช่ในกรณีของบรรดาแข้งทีมชาติเดนมาร์กในเกมที่ลงสนามพ่ายแพ้ให้กับสโลวะเกีย 0-3 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยในเกมดังกล่าวทัพ “โคนม” ได้เรียกใช้งานนักเตะจากระดับดิวิชัน 3 และ 4 รวมถึงแข้งฟุตซอลลงทำการแข่งขันแทน

เรียกได้ว่าอยู่ดีๆ ก็ส้มหล่นได้รับใช้ชาติแบบไม่ทันตั้งตัว!!

ส่วนสาเหตุหลักที่ทีมชาติเดนมาร์กไม่สามารถใช้งานนักเตะชุดใหญ่ที่ลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซียได้นั้น เนื่องจากสมาคมฟุตบอลเดนมาร์ก (ดีบียู) มีปัญหากับสหภาพนักเตะเดนมาร์กถึงเรื่องสิทธิ์ของนักเตะ

หลังจากที่เหล่านักเตะเดนมาร์กต้องการทำสัญญาเป็นสปอนเซอร์กับบริษัทอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นสปอนเซอร์ของ “ดีบียู” ซึ่งที่จริงปัญหานี้กินเวลามาหลายเดือนแล้ว แต่จนแล้วจนรอดพวกเขาก็ยังหาข้อสรุปร่วมกันไม่ได้สักที

จากเรื่องดังกล่าว ทำให้บรรดานักเตะเดนมาร์กจากชุดฟุตบอลโลก 2018 รวมใจกันไม่เล่นให้บ้านเกิด

ทำให้ต้องเดือดร้อน “ดีบียู” ต้องหานักเตะมาลงสนามแทนบรรดาผู้เล่นตัวหลักที่อยู่ในสหภาพนักเตะ

จึงจำเป็นต้องเรียกนักเตะจากลีกระดับ 3 และ 4 ของประเทศ รวมถึงนักฟุตซอลบางคนมาติดทีมชาติแบบขัดตาทัพไปก่อน ส่วนเรื่องผลการแข่งขันก็อย่างที่กล่าวไปข้างบนการแพ้สโลวะเกีย ด้วยนักเตะชุดนี้เพียงแค่ 0-3 เรียกได้ว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำ

เพราะนักเตะชุดขัดตาทัพส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เล่นบอลเป็นอาชีพหลัก แต่มีอาชีพอื่นๆเป็นหลักแทนไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษาด้านการขาย, นักศึกษา, ช่างไม้, ช่างก่อสร้าง, พัสดี, ช่างต่อเรือ, เซลส์แมน หรือแม้กระทั่งนักฟุตซอลแม้ว่าจะเล่นเป็นอาชีพแต่ฟุตบอลโต๊ะเล็กกับสนามใหญ่ 11 คน ช่างต่างกันเยอะเหลือเกิน

โดยมีเพียงแค่ราสมุส โยฮันส์สัน และแดเนียล โฮม 2 คนเท่านั้นที่เป็นนักเตะอาชีพ

หลายฝ่ายยังคิดเลยว่าในเกม ยูฟ่า เนชันส์ ลีก ลีกบี ที่พบกับทีมชาติเวลส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ยังจะใช้ผู้เล่นชุดนี้ลงสนามหรือไม่ เพราะถ้าลงละก็บอกได้เลยว่ายับเยินแน่นอน เพราะความสำคัญต่างจากเกมอุ่นเครื่องโดยสิ้นเชิง

แต่สุดท้ายสมาคมฟุตบอลเดนมาร์ก ก็ได้บรรลุข้อตกลงชั่วคราวกับสหภาพนักเตะเรียบร้อยทำให้บรรดานักเตะชุดลุยศึกเวิลด์คัพชุดบุกแดนหมีขาวรัสเซียกลับมาสู่ทีมและพร้อมรับมือกับทีมชาติเวลส์

เรียกได้ว่าทันเวลาพอดี เพราะในศึกเนชันส์ ลีก นั้นมีความหมายมากโดยเฉพาะในระยะยาวเนื่องจากมีตั๋วไปลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ “ยูโร 2020” เป็นเดิมพันเลยทีเดียว

หากปล่อยให้ปัญหายืดยาวไปมากกว่านี้มันส่งผลเสียต่อทุกด้านแน่นอน

ส่วนบรรดานักเตะสมัครเล่นทั้งหลายที่ได้ถูกเรียกมาติดทีมชาติไปนั้นเรียกได้ว่าโชคดีมาก อยู่ดีๆก็มีชื่อติดทีมชาติแบบไม่เคยคิดเคยฝัน

แม้ว่าโอกาสดีๆ แบบนี้จะไม่มีอีกแล้วใน ชีวิตนี้

แต่บอกได้เลยว่าครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว!!

มะระหวาน