หน้าแรกแกลเลอรี่

เจาะลึก 4 ประเด็นหลังสาวไทยทุบโสมขาว เข้าชิงทอง อชก.

ไทยรัฐออนไลน์

1 ก.ย. 2561 05:30 น.

"วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย" เอาชนะ เกาหลีใต้ ไป 3-1 เซต ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเอเชียนเกมส์ 2018 และนี่คือ 4 ประเด็นสำคัญที่ได้เห็นจากเกมนี้!!!

1.ตบสาวไทยมีความกระหายในชัยชนะ!

เป็นที่เข้าใจกันว่าเอเชียนเกมส์ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของผู้เล่นตัวเก๋าของไทยหลายๆคน ดังนั้นมันคงไม่มีอะไรที่ดีกว่าการจบทัวร์นาเมนต์นี้ด้วยการมีเหรียญรางวัลติดมือ และในที่สุดทุกคนก็แสดงให้เห็นถึงความกระหายในชัยชนะจนสามารถเอาชนะ เกาหลีใต้ ได้สำเร็จ ทั้งที่มีอยู่หลายช่วงในเกมการแข่งขันที่ทีมสาวไทยต้องเป็นฝ่ายตามหลังหลายแต้ม แต่ก็รวมพลังกันสู้จนไล่ตามทัน และคว้าชัยชนะซิวตั๋วเข้าไปชิงเหรียญทองเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ

2.การเลือกใช้งานผู้เล่นและแท็กติกของโค้ชด่วน!

ในระหว่างที่เกมคู่นี้กำลังแข่งขัน จะเห็นได้ว่าคอมเมนต์ของแฟนวอลเลย์บอลไทยบางส่วนค่อนข้างที่จะดุเดือด บอกให้เอาคนนู้นลง คนนี้เอาออกได้แล้ว แต่สุดท้ายคนที่เป็นคนควบคุมทุกอย่างในมือคือ "โค้ชด่วน" ไม่มีใครรู้ศักยภาพของนักกีฬาเท่ากับโค้ชอีกแล้ว เราจะเห็นได้ว่าโค้ชพยายามเปลี่ยนผู้เล่นและแท็กติกระหว่างเกมอยู่เรื่อยๆ แม้จะไม่มี ชัชชุอร โมกศรี แต่ก็ได้ อัจฉราพร คงยศ เข้ามาทดแทนทันเวลา แถมมือตบพลังสูงอย่าง อรอุมา สิทธิรักษ์ ก็มาท็อปฟอร์มในช่วงเวลาที่เหมาะสม ทำให้ผลลัพท์ในเกมนี้ออกมาเป็นบวกตามที่ทุกคนคาดหวัง

3.ทีมชาติเกาหลีใต้ผิดพลาดค่อนข้างเยอะ!

เกมนี้สังเกตุได้ว่าผู้เล่นเกาหลีใต้จะมีช่วงเวลาที่รับบอลแรกไม่ค่อยดี โดยเฉพาะช่วงเซตแรกที่ทีมไทยทำแต้มได้จากการเสิร์ฟได้หลายครั้ง นอกจากนี้ในช่วงเวลาคับขันที่โดนทีมไทยทำแต้มไล่จี้ขึ้นมา สาวโสมขาวจะมีอาการ "รวน" อย่างเห็นได้ชัด ทำให้ทีมไทยมีความมั่นใจในการเล่น กล้าที่จะใช้เทคนิคต่างๆด้วยความเชื่อมั่นว่าจะสามารถคว้าชัยชนะได้ และพวกเธอก็ทำได้สำเร็จ

4.มลิกา กันทอง กุญแจสำคัญพาสาวไทยเข้าชิง!

แม้ว่าช่วงเซตแรก มลิกา จะยังทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก แต่เซตที่ 4 นี่คือสุดยอดเซตของเธอก็ว่าได้ ลงมาในช่วงเวลาที่ทีมกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนักในการที่จะปิดเกมให้ได้เพื่อไม่ต้องไปลุ้นในเซต 5 และ มลิกา ก็ใช้ประสบการณ์ที่มีอยู่มากมายงัดออกมาช่วยทีม จากแต้มที่ดูเหมือนว่าไม่น่าจะได้ แต่พี่ปูก็ทำได้ ต้องยกนิ้วโป้งให้เธอในฐานะผู้เปลี่ยนเกมอย่างแท้จริง

ติดตามชมและเชียร์ทีมชาติไทย เจอกับ จีน ในรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 1 กันยายนนี้ เวลา 16.30 น.