ตอนที่ 2
ระหว่างที่บัญชากับอลันคุยกันเรื่องการร่วมทุนสร้างท่าเรือในเมืองไทย ว่าจะต้องเติบโตเป็นอย่างดี นักธุรกิจคนอื่นๆที่ฟังอยู่ด้วยก็เห็นจริง สรเดชกลัวโรสแมรี่เบื่อจึงชวนไปเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ เธอจะปฏิเสธแต่อ่อนศรีกลับคะยั้นคะยอให้ไปทำความคุ้นเคยกัน
ดอนยังคงจับตามองกลุ่มบัญชา เอมี่เข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่มแล้วกระซิบบอกว่า อลัน เบื้องหน้าเป็นนักธุรกิจส่งออก แต่เบื้องหลังเป็นมาเฟียค้าขายของผิดกฎหมายทุกชนิด ดอนแย็บถาม
“แล้วผู้หญิงที่มากับนายอลันล่ะ”
“เราไม่มีข้อมูล แต่เท่าที่เห็นน่าจะเป็นผู้หญิงคนใหม่ของอลัน นายคนนี้เปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเชียวล่ะ”
ดอนรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา...ขณะที่วดียืนฟังการสนทนาของกลุ่มอลัน มองไปเห็นฤทธิ์ณรงค์เดินเข้ามาในงานกับหว่องหลีก็ตกใจหาทางหลบ ท่าทางเธอกระวนกระวายแล้วคิดได้ แกล้งทำเครื่องดื่มหกรดตัว อลันจะช่วยเช็ดแต่เธอขยับห่างแล้วขอตัวไปห้องน้ำ พอเดินไปหว่องหลีกับฤทธิ์ณรงค์ก็เข้ามาทักทายบัญชากับอลัน ทั้งสองทำหน้านึกไม่ออกว่าใคร
“หว่องหลีครับ ผมเคยได้ยินชื่อเสียงคุณสองคนมานานแล้ว สวัสดีครับคุณอ่อนศรี”
“สวัสดีค่ะ เราเคยพบกันมาก่อนหรือเปล่าคะ”
ท่าทางอ่อนศรีคุ้นหน้า แต่หว่องหลีปัดว่าไม่เคยเจอกัน แต่ก็พูดเป็นนัยๆว่าหน้าตาอาจจะเหมือนคนที่พวกเขาเคยรู้จัก อลันหันมาทางฤทธิ์ณรงค์ เขาจึงแนะนำตัวและบอกว่าทำธุรกิจท่าเรือ หว่องหลีแกล้งยั่วว่า ไม่คิดว่าบัญชากับอลันจะมาลงทุนในเมืองไทย บัญชาตอบ
“ที่ไหนเศรษฐกิจดี นักลงทุนอย่างเราก็สนใจทั้งนั้นแหละครับ”
“นั่นสินะครับ ผลประโยชน์ทำให้คนเราทำได้ทุกอย่าง แม้แต่หักหลังพวกเดียวกัน” สีหน้าบัญชากับอลันไม่ดี หว่องหลีหัวเราะกลบเกลื่อน “ผมหมายถึงคนอื่นน่ะครับ เพราะคุณสองคนคงไม่เคยหักหลังพวกเดียวกันหรอก จริงไหม ผมขอตัวก่อนนะครับ”
บัญชากับอลันมองตามหลังหว่องหลีอย่างเคืองๆ ไม่อยากคิดว่าเขาจะรู้เรื่องอาเหลียงเพราะได้ฆ่าทุกคนที่เกี่ยวข้องหมดแล้ว อ่อนศรีได้ยินสามีคุยกับอลันเรื่องนี้แล้วมีปฏิกิริยาไม่ดี
วดีเดินเหลียวหน้าเหลียวหลังหลบฤทธิ์ณรงค์ออกมาอย่างไม่ทันระวังตัว จึงชนเข้ากับดอนที่เดินสวนมาอย่างจัง ดอนรวบตัวเธอไว้สบตากันอึ้งๆ พอรู้สึกคุ้นหน้าก็ผละออกจากกัน
“หนีอะไรมาครับ หรือว่า...รถไฟสองขบวนเกิดชนกัน” ดอนแหย่ทันที
“พูดบ้าอะไรของนาย”
“ผมแค่สงสัยว่าทำไมผู้หญิงสมัยนี้ถึงได้ชอบรักเผื่อเลือกกันนัก มันเป็นเทรนด์หรือไง”
“แล้วทำไมผู้ชายอย่างนายถึงได้ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นนักล่ะ เขาเรียกเผือกรู้ไหม”










