ตอนที่ 6
กิตติยาเงยหน้าขึ้น แว่บแรกก็คิดถึงโซดาทันที เธอสลัดหน้าไปมาเหมือนจะพยายามสลัดบางอย่างออกไปจากหัว
วันต่อมาขณะศรุดากำลังออกแบบหมวก สร้อยคอ ให้เป็นลายประยุกต์ ก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณมณี พอฟังปลายสายศรุดาหน้าตาสดใสขึ้นทันทีบอกว่า เดี๋ยวจะรีบออกไปเลย
เมื่อศรุดาไปตามนัดเป็นบรรยากาศการซ้อมถ่ายโฆษณาสินค้าบนเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา คุณมณีบอกว่า งานของตนมีปัญหาเพราะงานที่ตกลงกันไว้ยกเลิกกะทันหันหมด ตนปวดหัวมากเห็นแต่คุณดาเท่านั้น
ที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ ศรุดาบอกว่าตนเต็มใจ วันนี้มีอะไร ให้ตนช่วยบ้าง
“วันนี้เราต้องลองชุด บล็อกเส้นทางเดินแบบให้เข้ากับกล้องระหว่างเดินแฟชั่นบนเรือเพื่อให้โฆษณาแชมพูน่ะค่ะ ยังไงผมก็ต้องเป๊ะ”
คุณมณีแนะนำให้รู้จักกับทีมงาน ทุกคนตื่นเต้นดีใจที่ได้รู้จักศรุดา ระหว่างคุยกันนั้น คุณมณีคอยชำเลืองไปที่ประตู เห็นกิตติพัศแอบย่องมาพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่ ทั้งสองส่งซิกกัน คุณมณีรีบชี้ให้กิตติพัศหลบออกไปก่อน กิตติพัศจึงวิ่งไปหลังเวที
เมื่อคุยกันแล้ว สตาฟฟ์คนหนึ่งเดินมาหาศรุดา
บอกว่าเราจะเริ่มซ้อมคิวแสดงแล้วทุกท่านนั่งข้างแคตวอล์กได้เลย อีกคนก็บอกพวกนายแบบนางแบบข้างในให้เตรียมตัวเลย
คุณมณีชวนศรุดาและทุกคนไปนั่งชมการรันคิวเดินแฟชั่นข้างแคตวอล์กเหมือนผู้ชมการเดินแบบ
ooooooo
กิตติพัศประคองช่อดอกไม้อย่างถนอมหวงแหนมองหามุมปลอดภัยแล้วไปนั่งอย่างรอคอย
เมื่อถึงคิวกลุ่มสุดท้าย กิตติพัศทำหน้าตายเดินต่อแถวนายแบบนางแบบเป็นคนสุดท้าย หลายคนมองงงๆว่าคนนี้มาจากไหน ส่วนศรุดาพอเห็นกิตติพัศก็ตกใจ
ไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่
กิตติพัศเดินแบบได้ไม่แพ้มืออาชีพ แต่พอมาถึงหน้าศรุดาเขาก็เข้าไปมอบช่อดอกไม้ให้
“กรุณารับดอกไม้แทนคำขอโทษของผมด้วยนะครับ”
ศรุดาตกกระไดพลอยโจน ยิ้มรับดอกไม้แต่แววตาพิฆาต กิตติพัศยิ้มอย่างผู้ชนะ
เมื่อเสร็จงานศรุดากับกิตติพัศเดินที่ดาดฟ้าเรือ ศรุดาถามว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนของเขากับคุณมณีใช่ไหม กิตติพัศตอบหน้าตายว่าตนเป็นนายแบบกิตติมศักดิ์ของคุณมณีต่างหาก
ศรุดาตำหนิว่าเขาไม่เกรงใจเจ้าของงาน ดีที่เป็นคิวซ้อมถ้าเป็นคิวถ่ายจริงป่านนี้ตนคงเสียงานไปแล้ว กิตติพัศบอกว่าแต่คนดูก็ชอบ ที่สำคัญเธอรับดอกไม้จากตนแล้วด้วย
“ที่ฉันรับดอกไม้คุณไม่ได้แปลว่าฉันหายโกรธนะ”
“ไม่ต้องหายโกรธก็ได้ครับ แค่เห็นคุณยิ้มผมก็พอใจแล้ว” พูดแล้วทำหน้ากะล่อนน่ารักใส่ ศรุดาพยายามเก๊กหน้าได้แค่ไม่กี่วินาทีก็ยิ้มออกมา กิตติพัศยิ้มกว้าง บอกว่าถ้าตนไม่ทำแบบนี้เธอก็ไม่ยอมฟังคำอธิบายของตนสักทีว่าตนกับอรจิราไม่มีอะไรกัน










