เปิดตัวได้สวยทีเดียวสำหรับดีกรีพระเอกป้ายแดงของ เตียวหุย-เพชรปรัชญา เหลืองเดชานุรักษ์ ที่ประเดิมละครเรื่องแรก “ตำย่าบอก” ประกบกับ เบสท์-รักษ์วนีย์ คำสิงห์ ที่กำลังออนแอร์ทางช่องวัน 31 ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกจับตาว่าจะไหวมั้ย เพราะเมื่อมองย้อนกลับไปแล้ว เตียวหุย เป็นสายสปอร์ต ตอนเรียนก็เอาแต่เล่นฟุตบอลจนเป็นตัวสโมสร มีจุดชีวิตหักเหเมื่อถูกแมวมองชักชวนมาเข้าประกวดร้องเพลงรายการ “La Banda Thailand S2” ต่อด้วยเวที “เดอะสตาร์ ไอดอล” ปรากฏว่าออร่าเข้าตาเลยถูกช่องวันดึงตัวมาเล่นละคร ประเดิมเรื่องแรกก็ดันให้เป็นพระเอก “ตำย่าบอก” วันนี้เลยคว้า เตียวหุย มาเปิดใจ ฟีดแบ็กจาก “ตำย่าบอก” เป็นยังไงบ้าง?“ดีมากเลยครับ ล่าสุดกลับไปบ้านที่เชียงใหม่มา ไม่คิดว่าจะมีคนจำเราได้ขนาดนี้ แบบว่าไปเดินตลาดแล้วเจอบรรดาแม่ค้าทักว่าใช่พระเอกตำย่าบอกรึเปล่า เค้าบอกเนี่ยดูอยู่นะ เราก็บอกใช่ครับ ฝากละครผมด้วยนะครับ ถือโอกาสฝากละครไปด้วยเลย”มาเล่นละครเรื่องแรกก็เป็นพระเอกเลย มีความกดดันบ้างมั้ย?“โห มีสิครับ มีความกดดันมากในระดับนึงเลย ด้วยความใหม่ของเรา เราก็กังวลไปหมดว่าจะเล่นได้มั้ย จะเทกบ่อยรึเปล่าจะทำให้นักแสดงคนอื่นมารอเราคนเดียวมั้ย กลัวกองถ่ายเค้าเสียเวลาเพราะเราคนเดียว เรียกว่าคิดเยอะมากไปต่างๆ นานาเลยครับ” บรรยากาศในกองถ่ายเป็นไง?“หลายอารมณ์มากครับทั้งเครียดทั้งกดดันทั้งเฮฮา มีหมดเลย บางทีเจอซีนยากๆหรือว่าต้องแข่งกับเวลาเพราะเรื่องของแสงก็จะตึงนิดนึงครับ เพราะทุกคนตั้งใจอยากให้ถ่ายทัน แต่ก็มีเวลาเฮฮาเหมือนกันครับ บางทีผมก็เอากีตาร์ไปกองเพราะมีซีนร้องเพลง แต่เวลาพักเราก็เอามานั่งเล่นร้อง เพลงเล่นกันไปครับสนุกสนาน มีพี่อู๊ด เป็นต่อ มาเล่นแจมบ้าง พี่จอย ทีสเกิร์ตมาช่วยร้องบ้าง ถ้าเบสท์ว่างก็เคยมานั่งร้องด้วย มีการขอเพลงจากช่างหน้าช่างผม บางทีแม่เบสท์ก็ขอเพลงก็มีครับ”พูดถึงเบสท์หน่อย เข้าฉากด้วยกันเป็นยังไงบ้าง?“ผมรู้สึกว่าน้องเบสท์เล่นเก่งมากครับ ทั้งที่เล่นเป็นเรื่องที่สองเอง น้องเล่นเป็นธรรมชาติมาก พลังน้องเยอะ เยอะจนบางทีเรายังสู้ไม่ไหว แต่ก็ต้องสู้ครับ เพราะในเรื่องกรณ์จะแพ้มะนาวไม่ได้ ต้องสู้แบบสูสีทันกันตลอด”แล้วเบสท์ได้ช่วยหรือแนะนำอะไรมั้ย?“น้องก็คอยแนะนำนะครับ บางทีเวลาเข้าฉากด้วยกัน พลังเราน้อยสู้นางเอกไม่ได้ น้องก็ช่วยส่งอารมณ์ ช่วยบิลต์เรา หรือบางทีการสื่ออารมณ์ทางสายตา เราเข้าใจแต่ทำได้ไม่ถึง น้องก็บอกให้ลองมองแบบคนที่คลั่งรักดู ส่งออกมาเยอะๆ อะไรแบบนี้ครับ” ในเรื่องมีฉากเลิฟซีนกันบ้างมั้ย แล้วเราเขินรึเปล่า?“เรียกว่ามีฉากน่ารักๆกุ๊กกิ๊กๆให้ได้เห็นกันมากกว่าครับ บางทีก็มาในรูปแบบของการไม่ตั้งใจ ส่วนเขินมั้ย ก็ไม่ได้เขินอะไรขนาดนั้นนะครับ เพราะเข้าใจว่าเป็นการทำงาน แต่เป็นความไม่เคยชินของเรามากกว่าที่ต้องมาแสดงอะไรแบบนี้ต่อหน้าคนเยอะๆ มันก็จะแปลกๆนิดนึง”ตัวละครกรณ์ใกล้กับตัวเองมั้ย?“มีความคล้ายกันอยู่ครับเช่นความกวนประสาทบ้าง แต่พลังของกรณ์จะเยอะว่าตัวจริงผมเยอะอยู่ครับ เวลาเข้าฉากผมต้องตั้งสมาธิแล้วเรียกพลังออกมาให้ได้เยอะๆ”ประทับใจฉากไหนในเรื่องที่สุด?“ฉากงานแข่งประกวดส้มตำลีลาที่เพิ่งจะออนแอร์ไปครับ นักแสดงทุกคนอยู่ในฉากหมด มันดูวุ่นวายมากแต่สนุกมาก มันได้เห็นการแสดงของแต่ละคนว่าเป็นยังไง ความเป็นมืออาชีพ การเป็นตัวละครนั้นๆของนักแสดงทุกคน คิดว่าน่าจะเป็นซีนที่ใหญ่สุดแล้วในเรื่อง ทีมงานทุกคนก็คือเก่งมากที่ถ่ายออกมาได้ครบทุกคน มันดูไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เลยประทับใจฉากนี้ครับ” ก่อนหน้านี้ชอบเล่นกีฬาฟุตบอล แล้วก็ผ่านเวทีประกวดร้องเพลง ทั้งสองอย่างเมื่อเทียบกับการแสดงละครแล้วอะไรยากกว่ากันสำหรับเรา?“จะว่าไปชีวิตผมก็ค่อนข้างพลิกผันนะครับ ตอนเรียนเอาจริงเอาจังกับการเล่นฟุตบอล เรียนก็เรียนด้านกีฬา ไม่คิดไม่ฝันจะมาทางบันเทิงได้เลย จนมีคนชักชวนให้มาแข่งร้องเพลง แล้วจากร้องเพลง จู่ๆก็ข้ามมาเล่นละครเรื่องนี้ ถ้าถามว่าอะไรยากง่าย ผมรู้สึกว่ายากเหมือนกันหมดครับ ต่างกันแค่ประสบการณ์มากกว่า ทุกอย่างต้องใช้เวลาในการพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ มันก็จะดีขึ้นครับ แต่เรื่องการแสดงผมยังอ่อนประสบการณ์อยู่เยอะครับ แต่ก็จะตั้งใจทำให้ดีขึ้นไปอีกเรื่อยๆครับ”ลองให้คะแนนตัวเองสำหรับละครเรื่องแรกหน่อย?“ขอให้คะแนนความตั้งใจตัวเองละกันครับ เกิน 100 แน่นอน แต่เรื่องคะแนนการแสดงอาจจะต้องให้คนดูเป็นคนให้ครับ เพราะผมยังต้องพัฒนาตัวเองอีกเยอะเลยครับ ยังไงก็ขอฝากละครเรื่องแรกของผม เรื่องตำย่าบอกไว้ด้วยนะครับ ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ หนึ่งทุ่ม ช่องวันนะครับ”.เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ