ตอนที่ 1
ดวงโกรธมากที่เด่นชิงเงินรางวัลหนีไปได้ พาลพาโลกับเดือนดาราเพราะหาที่ลงไม่ได้
“นังดารา เอ็งจงใจให้ไอ้เด่นชิงเงินไป เอ็งต้องโดนตีให้หลังลาย”
“ใครอยากให้มัน มันแย่งไปเองต่างหาก ป้าดวงอย่ามาโทษหนู”
“โกหก ข้าอุตส่าห์พาเอ็งมาหาค่าเลี้ยงดู”
“หนูหาค่าเลี้ยงดูให้ป้าเกินคุ้มมานานมาก ตอนนี้กำไรแล้วด้วยซ้ำ ป้าค้ากำไรโดยใช้หนูมากเกินไปแล้ว ถ้าหนูไม่สวย หนูรำมิได้ ร้องไม่เป็น หนูน่าเกลียด ป้าคงฆ่าหนูตายไปนานแล้วกระมัง”
“อีปากหิด ปากเหา อีเนรคุณ กูสุดจะทนแล้ว...นี่แน่ะๆ! เอ็งจงใจช่วยให้มันหนี ให้เงินมันไปใช้จ่าย นังเด็กเนรคุณ ติดหนี้ข้าวแดงแกงร้อนแล้วยังไม่ทดแทนอีก”
“ป้าละมั้งที่ติดหนี้หนูโดยไม่ทดแทน ใช้หนูยิ่งกว่าขี้ข้า เอาเงินของหนูไปใช้ทุกบาทไม่ยอมแบ่งปัน”
“ต๊าย...นังนี่เถียงคำไม่ตกฟาก ข้าจะตีเอ็งให้ตาย”
“ก็ลองดูว่าใครจะตายก่อนกัน ป้าแก่เหนียงยานจนลุงมิ่งเมินไปนานแล้วนะ”
มิ่งที่เพิ่งกลับมาจากตามหาตัวเด่นแต่ไม่พบ โมโหแทนเมีย โพล่งใส่หน้าเดือนดารา
“ไอ้เด่นมันหายตัวไวนักตามหากันไม่พบ ถ้าอย่างนั้นนังดารา...แกต้องโดนฐานเอาเงินให้มันไป”
“ลุงกับป้านั่นแหละ ก่อกรรมทำเข็ญ ขอให้งูกัดตาย!”
จบคำเดือนดารา สำลีที่แอบดูเหตุการณ์อยู่แล้วเพราะถูกชะตาเดือนดาราอย่างบอกไม่ถูก ก็เสกงูโยนเข้ากลางวงทำให้ดวงกับมิ่งวิ่งหนีกลับบ้านแทบไม่ทัน
เดือนดาราปิดตาแน่น เมื่อลืมตาเห็นงูกลายเป็นเชือกมะนิลาสีดำก็ตกใจมาก
“งู...งู...ทำไม...ทำไมมัน”
สำลีปรากฏตัวให้เห็นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ทำไมมันกลายเป็นเชือกงั้นเหรอ”
“ลุงทำใช่ไหม ลุงเล่นกลเก่งจัง”
“จะว่ายังงั้นก็ได้อีหนู เล่นกลช่วยให้เอ็งกับน้องรอดตัวจากพวกคนใจร้ายไงล่ะ เมื่อกี้เอ็งขอให้ไอ้อีแก่ใจร้ายสองคนนั่นมันโดนงูกัดตายนี่นา”
“ขอบคุณลุงมากจ้ะที่เล่นกลช่วยหนู ไม่ตายหนูคงได้ตอบแทนลุงสักวัน”
“ขอบใจมาก สักวันคงได้เจอกันอีก จำคำพูดไว้ให้ดีด้วย”
“จำแน่จ้ะ ลุงอยู่แถวนี้หรือจ๊ะ ไม่เคยเห็นหน้า”
“ผ่านมาน่ะ ไปก่อนนะ อย่าลืมคำพูดของเอ็งล่ะ เราจะเจอกันอีกเมื่อถึงเวลา”
“ลุงไม่ได้อยู่แถวนี้เราคงไม่ได้เจอกันหรอกจ้ะ”
“ถ้าเราถูกกำหนดให้เจอกันมันก็เจอกันจนได้ การเจอกันของคนเรามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ อย่างเช่นวันนี้...เราก็ถูกกำหนดให้มาพบกัน สังหรณ์นะว่าเราจะต้องได้เจอกันสักวันแน่นอน กลับไปบ้านซะ... ระวังไอ้อีแก่ใจดำสองคนนั้นไว้ให้ดี หน้าตาท่าทางมันไม่เคยปรานีใคร จำไว้...ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”
“หลวงปู่ท่านสอนว่าให้อภัยแก่กันมันคือสิ่งถูกต้อง”
สำลีแสยะยิ้ม “พระท่านก็ว่าของท่านไปเราไม่ใช่พระ เราก็ว่าของเราอีกอย่าง หรือว่าอยากจะเป็นวัวเป็นควายให้เขาใช้ทำนาไปจนตาย...เลือกเอานะ”
พูดจบก็ขอตัว เดือนดารามองตามแล้วตัดสินใจตะโกนไล่หลัง
“หนูอยากเล่นกลเสกเชือกให้เป็นงูมาสู้กับป้าลุง...ลุงสอนได้ไหม”
“เมื่อถึงเวลาข้าจะสอนเอ็งทุกอย่างแน่นอน”
ooooooo
สิบปีผ่านไป...ดาราหรือเดือนดารากลายเป็นสาวสวยที่ใครๆต้องมองจนเหลียวหลัง ดวงเที่ยวพาหลานสาวไปประกวด กวาดรางวัลมากมายจนเดือนดาราย่ามใจและมั่นใจในความงามของตนมาก
เดือนดาราเชื่อมั่นในความสวยของตนและไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อยที่ทำให้ชายหนุ่มมากหน้าหลายตาชกต่อยกันเพียงเพื่อจะได้คุยกับเธอ ดวงพอใจมาก แม้จะหมั่นไส้ท่าทางมั่นอกมั่นใจของหลานสาวแต่ก็เห็นเป็นโอกาสงามจะขายอีกฝ่ายให้ไปเป็นนางโลมในสำนักโคมเขียวของเถ้าแก่เต็ง
ดวงแสร้งทำเป็นชื่นชมความงามของหลานสาว แล้วมอบข้าวของและเครื่องแต่งตัวมากมายให้ เดือนดาราถึงกับตาโตเมื่อเห็นของสวยๆงามๆ กระนั้นอดไม่ได้จะกระแนะกระแหนป้าแท้ๆ
“ป้า...หนูตาฝาดหรือป้าเมากันแน่ ทำไมป้าใจดีกับหนูมากมายขนาดนี้”
“ป้ามาคิดดูแล้วนะ ป้าอยากให้เอ็งได้ดี ไม่ต้องมาดักดานทำงานให้ป้าเหมือนขี้ข้าอีกต่อไป เอ็งว่าดีไหม”
“ดีสิป้า ป้าจะให้หนูไปทำงานอะไรเหรอ”
“รออีกหน่อย”
เวลาเดียวกันที่บ้านท่านสิทธิ์กับคุณหญิงตรึงตราที่กรุงเทพฯ แสงที่เรียนจบคณะรัฐศาสตร์ สาขาการปกครองเตรียมตัวไปรับตำแหน่งปลัดอำเภอที่ต่างเมือง ท่านสิทธิ์กับคุณหญิงตรึงตราอยากขวางเต็มแก่แต่พูดอะไรไม่ได้ ได้แต่ส่งคนไปรับใช้ คือนางเอิบแม่นมของแสง นายอ่ำหลานนางเอิบให้ไปเป็นต้นห้องและนายเมฆไปเป็นคนขับรถ
แสงไม่เต็มใจจะให้มีคนติดตามแต่ไม่อยากขัดใจพ่อแม่มากไปกว่านี้ เสริมมองตามรถพี่ชายขำๆ เข้าใจความอึดอัดของอีกฝ่ายดี ก่อนจะตัดสินใจสารภาพเรื่องตัวเองบ้าง
เสริมน้องชายคนเดียวของแสงไม่ยอมสอบเข้าคณะรัฐศาสตร์เหมือนพี่ชาย แต่เลือกสอบเข้าคณะจิตรกรรมตามความชอบของตนเอง เมื่อท่านสิทธิ์กับคุณหญิงตรึงตราทราบเรื่องก็แทบล้มทั้งยืน
คุณหญิงตรึงตรายกมือกุมหัว “ฉันจะเป็นลมตายแล้ว”
ท่านสิทธิ์โกรธมาก ชี้หน้าเอ็ดลูกชายคนเล็ก “แก...แกมันบ้ายิ่งกว่าพี่ชายแกเสียอีก”
“ครับ...ผมยอมรับว่าผมบ้า ผมคงจะต้องบ้าจริงๆถ้าผมฝืนใจเรียนในสิ่งที่ผมไม่ชอบ!”
ooooooo










