ตอนที่ 1
กระต่ายถูกส่งไปอยู่กับเพ็ญลักษณ์ในไร่ราชไมตรีที่ศรีราชา วันแรกที่มาถึงเธอพยศอีกตามเคยเพราะที่นี่ไม่มีพ่อวิสุทธิ์ ร่ำร้องจะไปแต่สนามบินเพื่อกลับไปหาพ่อ
เพ็ญลักษณ์หรืออาเล็กไม่คิดว่าหลานสาวจะโตขนาดนี้ กล่อมให้พูดจากันดีๆแบบผู้ใหญ่ ทำให้กระต่ายค่อยสงบลงที่มีคนพูดดีด้วย ไม่ใช่การบังคับเหมือนที่บ้านคุณปู่
“เดินทางมาไกล ต่ายคงเหนื่อย พักผ่อนก่อน อาจะไปเตรียมของว่างให้ เรียบร้อยแล้วจะมาตาม แล้วเราจะคุยกัน”
“คุยแล้วจะพาต่ายไปสนามบินมั้ย”
“ขึ้นอยู่กับว่าเราจะคุยกันได้รู้เรื่องตลอดรอดฝั่ง ไม่มีใครโวยวายวิ่งหนีออกไปทั้งๆที่คุยยังไม่จบหรือเปล่า”
กระต่ายตกลงทั้งที่รู้สึกตัวเองเคว้งคว้างขวัญเสีย น้ำตาซึมออกมาหลังจากอาเล็กเดินออกไปแล้ว
เพ็ญลักษณ์โทรศัพท์คุยกับบิดา รับคำสั่งว่าจะดูแลหลานให้ดี กระต่ายลงจากห้องมาได้ยินเข้าใจว่าอาเล็กโกหกเหมือนปู่จึงคิดหนีไปจากที่นี่ ด้วยการกระโดดขึ้นหลังม้าของคนงานออกไปอย่างไร้ทิศทาง เพ็ญลักษณ์กับทุกคนตกใจมากให้คล้ายขับรถตามจนถึงไร่บริรักษ์นรากรของทรงกริชที่อยู่ติดกัน แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
สกาวเดือนขี่ม้าอย่างไร้ทิศทาง อยากกลับแต่ฝรั่งเศสแต่ไม่รู้จะกลับไปได้อย่างไร จนกระทั่งค่ำไปเจอป๋อง จ้อน แกละ เด็กชายลูกคนงานในไร่กำลังขุดหลุมดักหนูกันอยู่ กระต่ายขอให้เด็กทั้งสามช่วยพาเธอไปสนามบิน แต่เด็กๆแอบกลับมาบอกเพ็ญลักษณ์ กระต่ายจึงโดนจับตัวกลับมาที่บ้าน
แต่เช้าวันรุ่งขึ้นกระต่ายยังพยายามหาทางหนีอีก เธอหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ของทรงกลดที่ยังเก็บไว้เพื่อเป็นค่าเดินทาง แต่เอากระเป๋าซ่อนไว้ใต้ที่นอน
ooooooo
สายวันเดียวกัน ท่านชายสดายุมาพบหลวงราชไมตรีที่บ้านเพื่อมาแก้ตัวเรื่องกระต่ายแทนวิสุทธิ์ในฐานะที่เป็นคนรู้ปัญหามาตั้งแต่ต้น
“เรื่องของต่าย ถ้าคุณหลวงจะโกรธก็ขอให้โกรธฉัน ฉันเป็นพ่อทูนหัวและเป็นธุระจัดหาคนเลี้ยงต่ายให้ ฉันสนิทสนมกับต่าย จนไว้ใจฉันเหมือนเป็นพ่ออีกคนหนึ่ง คงเพราะเหตุนี้วิสุทธิ์เลยคิดว่ามีฉันเป็นที่พึ่งของลูกอีกคน ไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกซะทีเดียวนัก จึงไม่ได้บอกความจริงกับคุณหลวง”
“กระหม่อมไม่เห็นว่าฝ่าบาทจะทรงทำอะไรผิดที่จะต้องโกรธ ขอประทานอภัยด้วย ถ้ากระหม่อมจะทูลขอ อย่าปกป้องคนผิดเลย แม้จะเป็นพระสหายคนสนิท”
“ฉันก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี ขอให้ฉันได้ทำอะไรเพื่อชดใช้ให้กับเพื่อนและลูกสาวฉันได้ไหม ฉันอยากจะขอรับต่ายเป็นลูกบุญธรรมให้ถูกต้องตามกฎหมาย”
กัณหาเอาน้ำมาให้ท่านชาย พอได้ยินอย่างนั้นก็ชะงักไม่ชอบใจที่ท่านชายเอ็นดูกระต่าย ค่อยๆวางแก้วน้ำลงแล้วถอนสายบัวออกไปแอบฟังที่มุมหนึ่ง
“เห็นทีจะไม่ได้กระหม่อม”
“ฉันรับปากว่าจะช่วยปกปิดเรื่องอดีตทุกอย่าง ไม่ทำให้ครอบครัวคุณหลวงเสียหาย”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท แต่เด็กนั่นเป็นเลือดของราชไมตรี กระหม่อมไม่อาจปัดความรับผิดชอบไปให้ฝ่าบาทได้”
“แต่ฉันไม่เคยคิดว่ามันเป็นภาระหรือความรับผิดชอบ ฉันขอเพราะฉันรักและเอ็นดูต่าย อย่างน้อยตอนนี้ฉันเองก็อยู่ที่นี่ ต่ายจะได้ไม่รู้สึกว่าขาดพ่อ ให้ฉันได้ทำหน้าที่แทนเพื่อนเถอะ”
“นับเป็นพระกรุณาอย่างหาที่สุดไม่ได้ แต่กระหม่อมตั้งใจจะเลี้ยงเด็กนั่นด้วยตัวเอง และถ้าหากมีความจำเป็นไม่ให้เกิดความด่างพร้อยกับวิสุทธิ์ กระหม่อมอาจจะรับสกาวเดือนเป็นบุตรีของกระหม่อมเองก็ได้”
“งั้นขอให้ฉันได้ถามความสมัครใจจากต่ายเองได้ไหม”
“ราชไมตรีไม่ใช่พวกใจแคบไร้น้ำใจ ขอฝ่าบาทวางพระทัยและทรงปล่อยให้พวกเราเป็นคนรับผิดชอบปัญหานี้ด้วยตัวเองเถอะกระหม่อม”
ท่านชายสดายุเห็นหลวงราชไมตรีบอกอย่างหนักแน่นเช่นนั้นก็ต้องยอมปล่อยสกาวเดือนไป แต่กัณหาที่แอบฟังอยู่ไม่พอใจอย่างแรง
“นังเด็กอนาถา อย่านึกนะว่าแกจะมีวาสนาได้อยู่ที่นี่” กัณหาพึมพำสีหน้าเคร่งเครียด คิดหาทางกีดกันไม่ให้หลวงราชไมตรีพ่อของตนรับสกาวเดือนหรือกระต่ายเข้ามาเป็นลูกอีกคน
ooooooo










