ตอนที่ 1
“สกาวเดือน” หรือ “กระต่าย” เดินทางกลับเมืองไทยพร้อมวิสุทธิ์ผู้เป็นบิดา...เป็นครั้งแรกที่กระต่ายได้มาบ้านเกิดของบิดาเพราะเธอเกิดและเติบโตที่ฝรั่งเศส
หลวงราชไมตรีรู้ความจริงที่วิสุทธิ์แอบปกปิดเรื่องลูกสาวนอกสมรส จึงตามวิสุทธิ์และกระต่ายที่กำลังเดินทางโดยรถไฟให้กลับกรุงเทพฯ ด้วยการให้คล้ายกับเทิดคนของตนช่วยกันจับกระต่ายที่พยายามวิ่งหนีไปตามโบกี้รถไฟ
เวลาเดียวกัน “ทรงกลด” หนุ่มรูปหล่อว่าที่ด็อกเตอร์ก็ถูกทรงมณีผู้เป็นแม่หลอกให้กลับมาแต่งงานที่เมืองไทย โดยทรงมณีเล็งเพริดพักตร์ไว้ให้แต่งงานด้วย แต่ในระหว่างเดินทางทรงกลดโดนกระต่ายหยิบเสื้อที่เขาลืมไว้ในห้องน้ำไปใส่ แถมยังเอามีดโกนหั่นผมเปียของตัวเองให้สั้นเพื่อตบตาคนของหลวงราชไมตรีให้จำไม่ได้
ในเสื้อนอกตัวนั้นของทรงกลดมีกระเป๋าสตางค์อยู่ด้วย ชายหนุ่มจึงพยายามตามเอาคืน และรวบตัวกระต่ายได้ในที่สุด แต่เข้าใจว่าเธอคือเด็กผู้ชาย กระทั่งวิสุทธิ์บอกว่าเธอคือลูกสาวของตน ไม่ใช่ขโมย ขณะที่หลวงราชไมตรีรับรองด้วยเกียรติของตน ทรงกลดจึงไม่เอาเรื่อง ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะจับเธอส่งตำรวจ
ทรงกลดจำได้ว่าหลวงราชไมตรีอยู่บ้านติดกัน ยิ่งไม่เอาเรื่องหลานของท่าน บอกลาไปพร้อมเสื้อนอกโดยไม่รู้ว่ากระเป๋าสตางค์หล่นหายเสียแล้ว
วิสุทธิ์กับกระต่ายถูกนำตัวมาที่บ้านหลวงราชไมตรี ท่ามกลางความไม่ชอบใจของใครหลายคน โดยเฉพาะกัณหาลูกสาวคนโตของตระกูล
ความจริงวิสุทธิ์ไม่ได้ตั้งใจจะให้กระต่ายมาอยู่บ้านบิดา แต่จะเอาไปฝากไว้กับท่านชายสดายุ แต่หลวงราชไมตรีไม่ยอม สองพ่อลูกเจรจากันตามลำพังในห้องทำงาน โดยไม่ยอมให้ใครเข้ามาแม้แต่คนเดียว รวมทั้งกระต่ายก็ต้องนั่งรออยู่นอกห้อง
หลวงราชไมตรีโกรธลูกชาย ถามว่าจะหนีไปอีกนานแค่ไหน ทำไมไม่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง
“ผมขอโทษครับคุณพ่อ”
“แกหนีมานานพอแล้ว ตอนนี้ยังพอมีเวลาให้แกแก้ไขความผิดพลาด ฉันจะไม่ยอมให้แกทิ้งอนาคตที่ฉันวางไว้ให้ ฉันส่งแกไปเรียนเมืองนอกหวังจะให้ได้เจอโลกกว้าง เจอสังคมที่ดี แต่แกกลับแอบไปมีเมียแถมมีลูกตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ ฉันผิดหวังในตัวแกเหลือเกิน”
“ผมกราบขอโทษคุณพ่อครับ ผมไม่กล้าบอกความจริงกับคุณพ่อ เพราะผมรู้ตัวดีว่าผมทำให้คุณพ่อผิดหวังมากแค่ไหน”
“แล้วเมียแกอยู่ไหน”
“ผมกับเธอพยายามประคับประคองอย่างถึงที่สุดแล้ว แต่ก็ไปกันไม่รอด เราเลิกกันตั้งแต่กระต่ายยังเล็ก”
“ที่แกไม่ยอมแต่งงานกับลูกสาวท่านทูตเพราะแกมีลูกซ่อนเอาไว้ แกรู้ตัวไหมว่าแกกำลังจะเสียผู้หญิงดีๆ และครอบครัวดีๆที่แกควรมี”
“แต่ผมมีต่ายเป็นครอบครัวและเป็นทุกอย่างในชีวิตผม ผมตั้งใจจะเลี้ยงต่ายด้วยตัวผมเองให้ดีที่สุด”
“ด้วยการพาตะลอนๆไปกับแก แถมไม่ได้เรียนหนังสือเป็นหลักเป็นแหล่งเนี่ยเหรอ”
“แต่ทุกวันนี้เราสองพ่อลูกก็มีความสุขกันดีนะครับ”
“แกนึกบ้างไหมว่าสักวันถ้าแกเป็นอะไรไป แล้วลูกแกจะอยู่กับใคร ในเมื่อแกไม่เคยบอกอะไรฉัน แกทำให้ลูกแกเป็นคนไร้ญาติขาดมิตร คิดแต่จะเอาความสบายใจของตัวเองเป็นหลัก ไม่ได้คิดถึงคนอื่นแม้แต่ลูกของตัวเองกลับไปจัดการเรื่องหนูปานวาดซะ ไปสร้างความมั่นคงให้กับตัวเอง ทำให้ฉันเห็นว่าแกเป็นผู้ใหญ่ เป็นคนมีความคิด สมกับที่เป็นพ่อคน”
ที่นอกห้อง กระต่ายรอจนทนไม่ไหว ตัดสินใจเข้าไปในห้องทำงานและพูดจาก้าวร้าวคุณปู่เมื่อรู้ว่าตัวเองต้องอยู่ที่นี่กับท่านโดยปราศจากพ่อ
วิสุทธิ์จำต้องทิ้งกระต่ายไว้กับบิดา เขาจากไปอย่างเศร้าหมอง ส่วนกระต่ายนั้นวิ่งตามรถที่พ่อนั่งออกไปพร้อมกับร่ำร้องใจแทบขาด
หลวงราชไมตรีหนักใจเมื่อเห็นว่ากระต่ายหัวรั้นกว่าที่คิด กัณหาได้ทีแนะนำบิดาให้ส่งหลานเหลือขอคนนี้ไปให้เพ็ญลักษณ์น้องสาวคนเล็กดูแล ขืนเอาไว้ที่นี่ก็อายคนเปล่าๆ แต่ปัทมากับสินีน้องสาวอีกสองคนของกัณหาไม่เห็นด้วย คิดว่าหลานคงตกใจและเสียใจเพราะไม่ได้เตรียมใจมาก่อนว่าต้องแยกกับพ่อ
หลวงราชไมตรีคิดหนัก เมื่อให้คนตามจับกระต่ายที่จะหนีไปสนามบินกลับมาได้ ท่านจึงตัดสินใจส่งเธอไปอยู่ในความดูแลของเพ็ญลักษณ์เพราะเชื่อว่าลูกสาวคนเล็กจะขัดเกลาหลานให้เป็นคนดีได้
ooooooo










