ตอนที่ 13
“ผมเหลือทางเลือกเดียว หนีออกนอกประเทศ แล้วต้องหนีภายในอาทิตย์นี้”
“แต่รุทไม่มีพาสปอร์ตจะออกนอกประเทศยังไงคะ”
“เพื่อนพ่อผมคนนึงค้าของเถื่อนอยู่แถวชายแดน เขารับจ้างพาคนหนีออกนอกประเทศด้วย”
“จะให้เขาพาหนีไปอเมริกาเหรอคะ”
“เข้าอเมริกาต้องมีวีซ่า ผมจะไปประเทศอื่นที่ไม่ขอวีซ่า”
“มันเสี่ยงมากนะรุท”
“อยู่ก็เสี่ยง หนีก็เสี่ยง ผมขอหนีไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า มือถือพ่ออยู่ข้างบนผมจะไปโทร.หาเพื่อนพ่อขอให้เขาช่วย”
อนิรุทธิ์ผละไปด้วยความหวัง แต่แสงทองส่ายหน้าไม่เห็นด้วย
ooooooo
ทรงธรรมคิดถึงและสงสารทรงยศที่เดินทางผิด เขาโทษตัวเองเป็นต้นเหตุให้ลูกชายเสียคน แต่แป๋วปลอบว่าพ่อไม่เกี่ยว พี่ยศเลือกค้ายาเอง และคนที่ชักนำเขาก็คือพ่อเลี้ยงอิทธิ แต่ถึงยังไงเธอไม่มีวันทิ้งพี่ชายแน่
ทรงยศยังอยู่ในเซฟเฮาส์ของตำรวจ และพ่อเลี้ยงอิทธิก็กำลังควานหาตัวเขาให้ควั่กเพราะกลัวโดนซัดทอดเรื่องค้ายาเสพติด อิทธิติดต่อตำรวจชั้นผู้ใหญ่รายหนึ่ง ซึ่งทางนั้นบอกว่าขอเวลาสามวันจะสืบข้อมูลให้ แต่มันไม่ทันใจ อิทธิจึงจะหาวิธีสืบด้วยตัวเอง
หลังจากเข้าไปเปิดเซฟในบ้านอิทธิแล้ว
ไม่เจอหลักฐาน คืนนี้เสือโทร.หาแสงทองที่ยังอยู่กรุงเทพฯด้วยความเป็นห่วง เขายังไม่อยากให้เธอกลับมาแพร่ แต่อยากให้เธอช่วยนึกดีๆว่าอิทธิเอาหลักฐานในเซฟไปซ่อนไว้ที่ไหน
“แสงนั่งนึกทั้งวันก็นึกก็ไม่ออกค่ะ บ้านแสงก็ไม่มีห้องลับห้องใต้ดินด้วย หรือพ่อซื้อเซฟอันใหม่”
“ถ้านึกอะไรได้ก็โทร.บอกนะครับ ยังไงช่วงนี้คุณอยู่กรุงเทพฯไปก่อนนะ ไม่ต้องกลับมาแพร่ มันอันตราย”
“ถามจริงเถอะค่ะ ที่ไม่ให้กลับแพร่เนี่ยเป็นห่วงหรือเสือกไสไล่ส่งคะ”
“ผมเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณครับ”
“แสงมากรุงเทพฯตั้งหลายวันคิดถึงกันบ้างไหมคะ” เสือนิ่งเงียบไม่ตอบ แสงทองตัดพ้ออย่างน้อยใจ “พูดให้ชื่นใจมั่งไม่ได้เหรอคะ คุณเคยรักแสงบ้างไหม”
“พักผ่อนนะครับ” เสือพูดแค่นั้นก็วางสายทันที
“คุณไม่เคยรักแสงเลย”
แสงทองสรุปได้ด้วยตัวเอง เธอร้องไห้เสียใจ รู้สึกตัวเองไร้ค่าเหลือเกิน...ขณะเดียวกันนั้นอนิรุทธิ์กำลังกลุ้มใจเพราะกลัวจะไม่ได้ไปเมืองนอกกับแสงทอง เขากำลังหาไฟแช็กจะสูบบุหรี่ แต่รื้อค้นลิ้นชักอยู่นานกว่าจะเจอจนข้าวของหล่นกระจาย
แสงทองได้ยินเสียงรีบลงมาจากข้างบน เธอห้ามไม่ให้เขาสูบบุหรี่เพราะเสียสุขภาพ แต่ตัวเองพลาดเหยียบของมีคมที่เขาทำหล่นจนฝ่าเท้าเลือดซิบ อนิรุทธิ์ตกใจมากรีบทำแผลให้เธออย่างเบามือ
ความใกล้ชิดของหนุ่มสาวทำให้ทั้งคู่เกิดอาการประหม่าและหวั่นไหว มองสบตากันไปมานิ่งนานกว่าจะดึงสติคืนมาและผละออกจากกัน
อนิรุทธิ์พาแสงทองไปส่งห้องนอนแล้วบอกลาอย่างอ้อยอิ่ง ขณะที่แสงทองเองก็ทำท่าเหมือนไม่อยากอยู่คนเดียวตามลำพัง...พอเขาจะหันหลังกลับ เธอสวมกอดเขาแน่นเหมือนต้องการซึมซับไออุ่น
“ไม่มีใครกอดแสงนานแล้ว” เสียงรำพึงนั้นทำให้ฝ่ายชายกอดตอบด้วยความเต็มใจ
“ผมจะกอดแสงทุกวัน”
“แสงอยากมีใครซักคน”
“แสงก็มีผมไง”
“อยู่คนเดียวมันเหงา ว้าเหว่มากเลย”
“เราจะไม่เหงาอีกแล้ว...เราจะมีกันและกัน”
“รุทอย่าทิ้งแสงนะ แสงไม่อยากรู้สึกไร้ค่า”
แท้จริงแสงทองรู้สึกตัวเองไร้ค่าเพราะเสือไม่รับรัก ยามนี้เธอต้องการใครสักคนอยู่เป็นเพื่อน แต่อนิรุทธิ์นั้นรักแสงทองเต็มหัวใจแล้ว ในที่สุดสองคนก็ลงเอยกันบนเตียงด้วยความยินยอมพร้อมใจ










