สมาชิก

พรายสังคีต

ตอนที่ 14

ที่แท้ในการซ้อมครั้งหนึ่ง แพรไอและเจ็บคอร้องเพลงไปไอไป จนเมบอกให้แพรพักก่อนดีกว่าเดี๋ยวพวกตนจะซ้อมดนตรีก่อนก็แล้วกัน

“ฉันร้องแทนไอ้แพรก่อนได้ไหมล่ะ”

มิ่งเสนอเพื่อแก้ปัญหาการซ้อม เมถามว่ามิ่งร้องได้หรือ

“ฉันฟังไอ้แพรร้องอยู่ทุกวัน ร้องน่ะร้องได้แต่คงไม่ถึงขนาดไอ้แพรหรอก แต่ก็คงพอช่วยแก้ขัดไปได้ จะเอามั้ยล่ะ”

“ก็ได้ ดีกว่าไม่มีใครร้อง” เมตกลง บอกทุกคนให้เข้าประจำที่ แพรที่ทั้งเจ็บคอและไอไปนั่งตีกรับแทนมิ่ง

มิ่งร้องเพลงอย่างตั้งใจแม้จะร้องได้ไม่เท่าแพรแต่ทุกคนมองทึ่ง โดยเฉพาะเมถึงกับเอ่ยปากว่า

“เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าแกร้องเพลงไทยเดิมได้เหมือนกัน”

มิ่งทำท่ายืดอย่างภูมิใจ แพรบอกว่า “ดีเลยถ้าฉันเป็นอะไรไปแกก็ร้องแทนฉันเลยนะไอ้มิ่ง” เลยถูกมิ่งติง เมก็ว่าเขาไม่ให้พูดเป็นลาง โบราณเขาถือ

“ฉันก็แค่พูดเผื่อไว้น่ะ ถ้าแกได้ฝึกจริงๆจังๆ แกเป็นตัวแทนฉันได้เลยนะไอ้มิ่ง” แพรตัดบทอย่างมั่นใจ

ทบทวนอดีตกันแล้ว เมสรุปว่า “ถึงเวลาที่แกต้องทำหน้าที่แทนไอ้แพรแล้ว”

มิ่งบอกว่าตนกลัวจะทำให้วงแพ้ ยชญ์ที่ฟังมาตลอดปลอบให้กำลังใจว่า

“ไม่ต้องกลัวหรอกนะมิ่ง เราไม่มีเวลาอีกแล้ว ทำให้ดีที่สุดก็พอ ตกลงไหม”

“ตกลงค่ะพี่ยชญ์ ในเมื่อทุกคนไว้ใจมิ่ง มิ่งก็จะทำให้ดีที่สุด” มิ่งฮึดสู้

 เพื่อนๆเฮดีใจวิ่งเข้าไปกอดมิ่ง ยชญ์ถอนใจโล่งอก...

ooooooo

เทิดกับยชญ์พาดวงออกมาจากที่คุมขัง

แต่แล้วทั้งสามก็ชะงักตกใจเมื่อเห็นอีกาฝูงใหญ่บินวนเวียนโฉบลงมาอย่างเร็ว

“อีกาพวกนี้มันมาจากไหน เหมือนพวกมันจะขวางไม่ให้เราไป” พุกมองแปลกใจ

“มันไม่ใช่อีกาธรรมดา มันเกิดจากอำนาจคุณไสย ข้าเป็นคนปลุกมันขึ้นมาเอง มันกำลังย้อนกลับมาเล่นงานข้า...ไอ้พุก ข้าฝากดูแลแม่ดวงด้วย”

“พี่เทิดจะทำอะไร”

เทิดไม่ตอบ มองดวงอย่างรักมากแล้วหันกลับวิ่งไปอีกทาง อีกาทั้งฝูงไล่ตามเทิดไปทันที

“พี่เทิดกำลังล่อพวกมัน” ดวงดูออก

“เพื่อจะให้ข้าพาแม่ดวงหนีไงล่ะ”

“ไม่นะ...เราจะทิ้งพี่เทิดไม่ได้นะพี่พุก” ดวงเขย่าแขนพุกอย่างร้อนใจ พุกได้แต่มองดวงลังเล

ปกรณ์นั่งสมาธิอยู่ในห้องพระที่บ้าน รู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ลืมตาขึ้นอย่างกังวล...

เทิดล่ออีกาหนีไปอีกทางถูกฝูงอีกาโฉบลงมาจิกตี แม้เทิดจะพยายามปัดป้องต่อสู้แต่ก็สู้ไม่ได้

ถูกอีกาจิกจนล้มลง เทิดฉุนขาดตวาดลั่น

“ข้าเป็นคนปลุกพวกเจ้าขึ้นมา แล้วทำไมถึงไม่ฟังคำสั่งข้า ไป...ไปเสียให้พ้น!”

มีเสียงหัวเราะสยดสยองก้องไปทั้งท้องฟ้า

ฝูงอีกายังบินว่อนคอยท่าอยู่ พลันเสียงไสยดำก็ก้องขึ้น

“มึงไม่ใช่นายกู วิชาคุณไสยที่มึงมีก็แค่หยิบมือเดียว มึงใช้มนตร์คาถาได้เพราะกูหลอกใช้มึง ไอ้หน้าโง่ ฮ่าๆๆ”

ทันใดนั้นพุกกับดวงวิ่งเข้ามาหาเทิด เทิดร้อนใจถาม “ไอ้พุก ทำไมเอ็งยังไม่รีบพาแม่ดวงหนีไป”

“ฉันกับพี่พุกจะไม่มีวันทิ้งพี่เทิดอย่างเด็ดขาด”

“แม่ดวงพูดถูกแล้ว ถ้าเราจะรอด เราก็ต้องรอดไปด้วยกัน”

เทิดมองพุกกับดวงอย่างซึ้งใจ

“รักกันมาก...ก็ตายตามกันไปซะ”

ราตรีเห็นภาพทั้งสามคนจากอ่างน้ำมนต์ที่เรือนเล็กคำรามแค้น มองรูปปั้นอัปลักษณ์แล้วเริ่มบริกรรมคาถา

เทิด พุก และดวงมองหน้ากันตกใจ อำนาจไสยดำดึงเทิดให้ห่างออกไป ตัวเทิดไม่อาจฝืนร่างกายตัวเองได้ ฉับพลันนั้นโต๊ะหมู่เก้าและเครื่องเซ่นต่างๆ ที่ใช้ทำพิธีก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเทิด

เทิดตกใจแต่ปากก็เริ่มบริกรรมคาถาไสยดำสาปแช่งอย่างไม่อาจฝืนได้ เสียงซอสามสายบรรเลงเพลงท่วมธรณีดังขึ้นจากทุกทิศ จนเข้าท่อนเนื้อร้อง ดวงถูกอำนาจไสยดำบังคับให้ร้องเพลงท่วมธรณี ดวงพยายามฝืนแต่หยุดไม่ได้

พุกมองเหตุการณ์ตรงหน้าตกใจทำอะไรไม่ถูก แล้วก็ตกใจสุดขีดเมื่อเห็นเลือดเริ่มไหลจากตาจมูกปากและร่างกายของดวงแล้วดวงก็กระอักเลือดตาย แล้วเทิดก็กระอักเลือดตายตามไป

“นี่มันอะไรกัน!!” พุกตะลึงงัน

ครู่เดียวท้องฟ้าก็แปรเปลี่ยนเป็นปกติ เทิดกับดวงค่อยๆฟื้นขึ้น เสียงหัวเราะสยองก้องขึ้นพร้อมคำสาป

“มึงต้องเวียนวนอยู่กับความตายอย่างทุกข์ทรมานชั่วกัลปาวสาน”

ooooooo

พรายสังคีต

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด