ตอนที่ 12
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะวรรณามารับช่อเอื้อง คำปันและกลองจะพาไปส่งถึงแม่อาย ทรงวุฒิเข้ามายื้อแย่งกระเป๋าเสื้อผ้าที่อยู่ในมือวรรณาไม่ยอมให้ใครไปไหนทั้งนั้น วรรณาเองยื้อไว้สุดฤทธิ์ไม่ให้เขาแย่งไปได้ ก่อนเรื่องราวจะบานปลาย แม่นมน้อยเข้ามาถามเสียก่อนว่านั่นจะขนกระเป๋าไปไหน
“วรรณามาช่วยหนูเก็บของน่ะค่ะ หนูจะขอพาพ่อกลับบ้านวันนี้”
“ยังไปไม่ได้ คุณทรงพลบอกให้อยู่รอก่อน คุณดาวนิลกำลังมาที่นี่” แม่นมน้อยเห็นสีหน้าเป็นกังวลของ ช่อเอื้องปลอบว่าไม่ต้องกลัว ตนจะไม่ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นมาทำอะไรเธอเด็ดขาด...
ไม่นานนัก ช่อเอื้องมาพบกับทรงพลที่รอท่าอยู่ที่ห้องรับแขกกับดาวนิลและเทวัญ โดยมีทรงวุฒิกับแม่นมน้อยตามมาไม่ห่าง ช่อเอื้องสังหรณ์ใจตงิดๆว่าพี่สาวจะเล่นไม่ซื่อ เป็นอย่างที่เธอคาดไว้ไม่มีผิดเพี้ยน
ดาวนิลโกหกทรงพลว่าที่มีปัญหากับช่อเอื้องเมื่อวานเพราะตนเองจะขอกลองไปเลี้ยงแต่ช่อเอื้องฟังไม่ได้ศัพท์คิดว่าตนจะขอซื้อกลอง แม่นมน้อยสงสัยแค่เจอกันไม่กี่ครั้งทำไมดาวนิลนึกอยากจะรับเด็กคนนี้เป็นลูกบุญธรรม นางเอกสาวอ้างรู้สึกถูกชะตาและเห็นว่าแกน่าสงสาร ช่อเอื้องโพล่งขึ้นทันทีว่าไม่ยกให้ กลองเป็นน้องของตนตนเลี้ยงเองได้ ทรงพลขอให้เธอคิดถึงอนาคตของน้องอย่าเห็นแก่ตัวนัก
“ก็น้องเขาทั้งคนนี่คะ จะไปยกให้อยู่กับคนอื่นง่ายๆได้ยังไง” แม่นมน้อยช่วยช่อเอื้องพูดอีกแรงหนึ่ง
“แต่ดาวนิลตั้งใจว่าจะชวนช่อเอื้องกับพ่ออยู่ด้วยกันนะคะ เมื่อวานยังไม่ทันได้พูดช่อเอื้องก็โมโหไปซะก่อน ถ้าเป็นแบบนี้ดีไหมช่อเอื้อง” ดาวนิลมองหน้าน้องสาวเขม็ง ช่อเอื้องยืนกรานไม่ขอรับความกรุณาของอีกฝ่าย เชิญเธอไปทำบุญกับคนอื่นก็แล้วกัน แล้วขอลาทุกคนตรงนี้เลย ยกมือไหว้เสร็จลุกออกไปเลย
“ขอดาวนิลไปพูดกับแกเองนะคะ” ว่าแล้วดาวนิลเดินตามช่อเอื้อง กล้วยกับอ้อยที่แอบฟังอยู่ด้านนอกจะตามไปฟังต่อแต่ถูกวรรณาเอามือกันไม่ให้ตาม ดาวนิลเดินตามช่อเอื้องทันกันที่ห้องครัว มองซ้ายมองขวาแน่ใจว่าไม่มีใครตามมาก็คว้ามือน้องไว้ ขอร้องให้ทำตามแผนการของตน นี่เป็นทางออกที่จะทำให้เราได้อยู่ด้วยกัน ช่อเอื้องไม่เอาด้วย ความจริงพี่ไม่น่าจะต้องคิดอะไรให้มันซับซ้อนแค่บอกความจริงกับทุกคนไม่ง่ายกว่าหรือ
“ช่อเอื้อง มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น”
“ที่มันไม่ง่ายเพราะพี่กลัวจะเสียทุกอย่างไปใช่ไหมล่ะ ชื่อเสียงเงินทองมันทำให้พี่ไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดี แล้วหรือไง” ช่อเอื้องต่อว่าไม่ไว้หน้า วรรณามาทันได้ยินต้องปรามช่อเอื้องว่าพูดแรงไปหรือเปล่า เธอยืนกรานถ้าไม่แรง หัวใจผู้หญิงคนนี้จะรู้สึกอะไรได้อย่างไร จังหวะนั้น กลองวิ่งโขยกเขยกเข้ามาบอกช่อเอื้องว่าตาตัวร้อนจี๋ให้รีบไปดู ช่อเอื้องกับกลองพากันจ้ำพรวดๆกลับไปที่ห้องโดยมีดาวนิลวิ่งตาม ส่วนวรรณาวิ่งไปอีกทาง...
ที่ห้องรับแขก แม่นมน้อยยังแคลงใจคำพูดของดาวนิล ทรงพลไม่พอใจที่ท่านหาเรื่องเธอตลอด คราวก่อนก็เป่าหูทำให้เขาสงสัยในตัวเธอพาลสงสัยพี่เทวัญไปด้วย แล้วถามพี่ชายว่าเธอคุยกับพี่ที่ริมทะเลเรื่องนี้ใช่ไหม
“ดาวนิลเขามาปรึกษาพี่เรื่องกลองที่เขาพูดเรื่องอดีตที่กลัวผมจะรับไม่ได้คืออดีตของกลองใช่ไหมครับ”
แม่นมน้อยเห็นเทวัญนิ่งอึ้ง คาดคั้นว่าจริงหรือเปล่า คุณหมอหนุ่มยังไม่ทันจะตอบคำถาม วรรณาวิ่งเข้ามาขอให้เขาช่วยไปดูคำปันหน่อย เห็นว่าไม่สบายมาก เทวัญรีบลุกออกไปทันที...
ขณะช่อเอื้องกับดาวนิลเข้ามาจับตัวพ่อเพื่อดูว่าตัวร้อนแค่ไหน เทวัญวิ่งตามเข้ามาดูอาการพร้อมด้วย แม่นมน้อย วรรณา กล้วยและอ้อย ดาวนิลกลัวใครจะจับพิรุธได้รีบถอยฉากออกมา
ooooooo
คุณนายติ๊ดอุตส่าห์หลอกใช้นักข่าวมาเป็นเครื่องมือในการเปิดโปงดาวนิลแต่ข่าวกลับเงียบหาย ครั้นเธอยุให้ใส่ชื่อชัดๆไปเลย นักข่าวกลับขอหลักฐานก่อน ผึ้งแนะให้คุณนายเปิดโต๊ะแถลงข่าวแฉมันเองให้สิ้นเรื่องสิ้นราว คุณนายติ๊ดส่ายหน้าขืนทำโดยไม่มีหลักฐานได้โดนฟ้องตาย
“คุณนายก็หลอกขายชุดให้คุณจิไปหลายชุดแล้วนี่คะ ทำไมไม่หยุดยุ่งกับนังดาวนิลมันสักทีล่ะคะ”
คุณนายจอมตืดไม่ยอมหยุดยุ่งง่ายๆ นอกจากจะเล่นงานดาวนิลแล้ว เธอยังหมายหัวหลิวหลิวอีกด้วยขู่ฟ่ออย่าให้เจอหลักฐานเด็ดๆก็แล้วกัน รับรองนังดาวนิลได้ดังสมใจ...
ผู้บริหารช่องอ่านเจอข่าวซุบซิบเรื่องนางเอกโกหกประวัติตัวเอง จึงเรียกหลิวหลิวมาพบเพื่อซักถาม เขาปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และยืนกรานว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับดาวนิล ผู้บริหารช่องดีใจที่ไม่เกี่ยวเพราะละครกำลังจะออนแอร์ ถ้ารู้ปัญหาก่อนจะได้แก้ไขได้ หลิวหลิวรับรองไม่มีปัญหา เอาหัวตัวเองเป็นประกันได้เลย...
ขณะที่ทุกคนพากันสนใจเรื่องนางเอกจะโดนแฉ วิไลไปซื้อกับข้าวที่ตลาดในตัวเมืองเห็นข่าวนี้จากหน้าหนังสือพิมพ์ก็สนใจเช่นกันคว้าหนังสือพิมพ์ของแม่ค้าติดมือไปให้แม่ซึ่งอยู่ที่บ้านดูว่านี่ใช่ข่าวจะแฉดาวนิลหรือเปล่า ป้าบัวเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วมันเกี่ยวอะไร กับเราด้วย วิไลไม่ตอบทำเหมือนไม่มีอะไร
“ข้ารู้แล้ว ข่าวแบบนี้มันขายได้เงินหรือเปล่าวะ ถ้าแกไปขายข่าวนังดาวนิล”
วิไลไม่คิดจะทำอะไรแบบนั้น ป้าบัวไม่เชื่อ
ในเมื่อเรื่องที่เธอรู้เกี่ยวกับดาวนิลเป็นข่าวเด็ดขนาดนั้น หนังสือพิมพ์จะต้องยอมจ่ายให้แพงๆแน่นอน วิไลกลัวจะโดนเปิดโปงไปด้วย ป้าบัวยุส่งจะไปสนใจทำไมในเมื่อเธอไม่มีอะไรให้เสียอีกแล้ว วิไลไม่เห็นด้วยกับแม่ ตนทำร้ายดาวนิลมามากแล้วมันอุตส่าห์ได้ดีไปแล้ว ป้าบัวโวยอย่ามาทำเป็นดีเอาตอนนี้ได้ไหม เงินจะกินไม่มีอยู่แล้ว...
แม้อาการป่วยของคำปันจะเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา แต่ก็ทำให้การกลับแม่อายของช่อเอื้องต้องเลื่อนออกไปโดยปริยาย ทรงวุฒิดีใจเนื้อเต้นที่เธอยังอยู่ที่นี่ต่อไป...
ดาวนิลกับทรงพลพากลองมาเล่นที่สนามเพื่อไม่ให้เกะกะขณะที่เทวัญทำการตรวจรักษาคำปัน ทรงพลสนับสนุนดาวนิลเต็มที่เรื่องจะรับเลี้ยงกลองเป็นเรื่องเป็นราว เธอดีใจที่เขาไม่รังเกียจเด็กน้อยถึงกับน้ำตาคลอ
ระหว่างนั้นเทวัญเดินเข้ามาโดยมีช่อเอื้องหิ้วกระเป๋าใส่อุปกรณ์การตรวจรักษาตามมาเจอทั้งคู่ก็ชะงัก ดาวนิลหันมาเห็นเขาร้องถามว่าพ่อของช่อเอื้องเป็นอย่างไรบ้าง พอรู้ว่าเป็นไข้หวัดธรรมดาถึงกับโล่งอก
“ฉันอยากให้พักอยู่ที่กรุงเทพฯไปก่อนจนกว่าจะหายดี แกไม่ว่าอะไรใช่ไหมพล”
ทรงพลพยักหน้าอนุญาตตามที่พี่ชายร้องขอ ช่อเอื้องยกมือไหว้ขอบคุณเขาโดยไม่มองหน้าพี่สาวแม้แต่น้อย เทวัญบอกให้ช่อเอื้องส่งแค่นี้พอแล้วคว้ากระเป๋าไปถือเองก่อนจะเดินจากไป ช่อเอื้องไม่อยากอยู่ตรงนั้นนาน ชวนกลองเข้าบ้าน ดาวนิลได้แต่มองตามทั้งคู่ไม่กล้าพูดอะไร...
ฝ่ายวิไลเข้าไปในตัวหมู่บ้านใช้โทรศัพท์ที่ร้านค้าโทร.หาหนังสือพิมพ์ฉบับที่ลงข่าวนางเอกจะโดนแฉ
“ฉันอยากติดต่อนักข่าวสายบันเทิง...ฉันมีข่าวนางเอกที่หนังสือพิมพ์คุณลงข่าวไปเมื่อวันก่อน”










