ตอนที่ 12
ooooooo
เนื่องจากไม่ไว้ใจเต็งล้อ ฮัวและเหล่าสมุนนาโอกิจึงมายืนเฝ้าเอาไว้ เต็งล้อชวนคุยโน่นคุยนี่เพื่อเบนความสนใจ นาโอกิหันมองอีกทีไม่เห็นฮัวอยู่แถวนั้น ถามเสียงเครียดว่าเธอหายไปไหน
“ก็คงอยู่แถวนี่แหละ” แววตาเจ้าเล่ห์ของเต็งล้อยิ่งทำให้นาโอกิหวาดระแวง อีกมุมหนึ่งห่างออกมา จางเหาซึ่งตามหลิวมาตั้งแต่ออกจากบ้าน เฝ้ามองเข้ามาในร้านด้วยความเป็นห่วง...
ฝ่ายวาตานาเบ้เลิกอ้อมค้อม สั่งให้หลิวถอนตัวจากการประชุมร่วมกับ 14K แม้เธอจะไม่ยอมทำตามที่เขาต้องการ แต่ก็ไม่คิดจะหักดิบ หยิบกล่องของขวัญที่เตรียมไว้วางลงบนโต๊ะตรงหน้าเขา
“เพื่อให้เห็นถึงไมตรี ฉันอยากให้เราเป็นมิตรกัน”
แทนที่จะรับไมตรีจากหลิว วาตานาเบ้ปัดกล่องของขวัญกระเด็นเผยให้เห็นว่ามีมีดสั้นอยู่ในนั้นพร้อมกระดาษโน้ตเขียนด้วยลายมือจากเต็งล้อ มีข้อความให้ฆ่าวาตานาเบ้ เขาเห็นเข้าก็โกรธคิดว่าเธอวางแผนจะลอบฆ่าตนเอง หยิบมีดเล่มนั้นพุ่งเข้าหา หลิวคว้ามือเขาไว้ยื้อแย่งมีดสุดฤทธิ์ เขายิ่งโกรธต่อยท้องจนจุกตัวงอ
“สิ่งที่พ่อแกทำ แกต้องชดใช้แทนพ่อแก” วาตานาเบ้เงื้อมีดจะแทงหลิว แต่กลับเปลี่ยนใจ การตายมันง่ายเกินไปสำหรับลูกศัตรู จึงใช้ปลายมีดตัดกระดุมเสื้อเธอแทน หวังจะข่มขืน “ไอ้ตี๋ซุ้งมันต้องได้เห็นลูกของมันทรมาน” วาตานาเบ้เห็นหลิวดิ้นหนี ลากขากลับมาแล้วฉีกเสื้อขาดวิ่น วางมีดไว้ข้างๆกันก่อนจะขึ้นคร่อม
ความกดดันที่จะถูกข่มขืนทำให้อาการปวดหัวของหลิวกำเริบ พลันภาพตอนที่ท่านเวคินพยายามจะทำแบบนี้เช่นกันผุดขึ้นมาในความคิด สัญชาตญาณการเอาตัวรอดผุดตามมา เธอคว้ามีดที่วางอยู่แทงอกเต็มแรง ผู้จู่โจมถึงกับชะงักเลือดสดๆไหลทะลักออกจากบาดแผล เดินกุมอกโซเซไปที่ประตูห้อง
อีกมุมหนึ่งไม่ห่างกันนัก เต็งล้อกับนาโอกิที่ยืนหยั่งเชิงกันอยู่ ฝ่ายแรกมองไปที่ประตูห้องวีไอพี
แล้วพูดขึ้นลอยๆว่าน่าจะได้เวลาแล้ว นาโอกิไม่เข้าใจที่เขาพูดแต่อดเป็นกังวลไม่ได้ ตัดสินใจเดินไปดู จางเหาซึ่งเฝ้าสังเกตการณ์อยู่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น นาโอกิยังไม่ทันจะผลักประตูเข้าไป วาตานาเบ้ล้มโครมออกมานอนแน่นิ่งเลือดท่วมตัว นาโอกิเห็นเสื้อผ้าและมือหลิวเต็มไปด้วยเลือดก็รู้ทันทีว่าเจ้านายตัวเองเสียทีให้เธอเสียแล้ว
“แกทำอะไรนายท่าน”
หลิวยังไม่ทันจะว่าอะไร เต็งล้อที่ตามเข้ามาตะโกนเรียกให้เธอมาหา แต่นาโอกิขวางไว้ ฮัวกับสมุนที่ซุ่มรออยู่ออกจากที่ซ่อนระดมยิงใส่นาโอกิไม่ยั้ง
ถูกท้องถึงกับทรุด เสียงปืนทำให้อาการปวดหัวของหลิวหนักมากขึ้น เต็งล้อเห็นอาการของเธอไม่ดีวิ่งไปลากแขนพาหนี จางเหาเห็นสมุนของทั้งสองฝ่ายไล่ตะลุมบอนกันออกมานอกร้าน เป็นห่วงความปลอดภัยของหลิว แต่จะให้เข้าไปแทรกแซงก็ทำไม่ได้
สมุนของหลิวมีมากกว่าจัดการสมุนของวาตานาเบ้ตายเรียบ เหลือเพียงนาโอกิที่ยังคงต่อสู้อยู่กับฮัวแม้จะเหลือตัวคนเดียว แต่นาโอกิแสดงให้ทุกคนเห็นถึงเลือดนักสู้ในตัว ต่อสู้กับศัตรูอย่างไม่คิดชีวิต เขาถูกรุมแทงจนเหลือเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายเดินเซไปหาพวกพ้องที่นอนตายอยู่ใช้มีดปลิดชีพตัวเองตายอย่างสมศักดิ์ศรี เต็งล้อยิ้มพอใจกับชัยชนะ ขณะที่หลิวกลับรู้สึกว่าโลกของมาเฟียนั้นช่างไร้ความเมตตา
ที่ด้านนอกร้านอาหาร จางเหาที่ซุ่มดูอยู่เห็นหลิวปลอดภัยก็ถอนใจโล่งอก...
ทางฝ่ายตรัยฌานทราบข่าววาตานาเบ้กับพวกถูกกวาดล้างไม่เหลือซาก ตระหนักในทันทีว่าประมุขธรรมกุลผู้นี้ไม่ใช่แค่ผู้หญิงธรรมดาๆ
ooooooo
ปราบมาถึงสถานที่เกิดเหตุทันทีที่ได้รับแจ้งว่าวาตานาเบ้ถูกฆ่าตาย เมื่อเข้าไปในห้องวีไอพี
เขาพบเลือดของเหยื่อเปรอะเต็มไปหมด มีข้าวของแตกกระจายเกลื่อนพื้นแสดงให้เห็นว่าต้องมีการต่อสู้กันเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามารายงานเขาว่ากล้องวงจรปิดของที่นี่เสียหมด
“แต่ผมไปตรวจดูแล้วน่าจะเพิ่งมีการตัดระบบก่อนที่แก๊งญี่ปุ่นจะเข้าครับ”
สารวัตรหนุ่มไม่ต้องเดาให้เสียเวลาก็รู้ว่าฝ่ายญี่ปุ่นเล่นไม่ซื่อก่อน แล้วถามว่ามีพยานรู้เห็นบ้างไหม เจ้าหน้าที่ฯสอบถามมาแล้วมีคนเห็นผู้หญิงสาวสวยบุคลิกสง่างามคนหนึ่งเข้าไปพบวาตานาเบ้ก่อนที่จะเสียชีวิต ปราบอดนึกไม่ได้ว่าหลิวอาจจะเป็นหญิงสาวคนนั้น
ที่ด้านหน้าร้านอาหารที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกำลังบ่นให้จ่าฟังว่านับวันพวกมาเฟียยิ่งเหิมเกริมหนักข้อ ยกพวกฆ่ากันกลางวันเสกๆไม่เกรงกลัวกฎหมาย
“เรื่องนั้นผมไม่แปลกใจหรอก ที่ผมอยากรู้คือแก๊งไหนกันแน่ที่กล้ามาฆ่าหัวหน้าแก๊งยากูซ่าที่ใหญ่ติดอันดับต้นๆของญี่ปุ่นอย่างวาตานาเบ้” จ่าพูดยังไม่ทันขาดคำ ปราบเดินออกมาจากด้านในถามจ่าว่าได้เรื่องอะไรเพิ่มเติมไหม จางเหาที่แอบซุ่มฟังอยู่ถึงกับหูผึ่งเมื่อได้ยินจ่าพูดถึง แก๊งยากูซ่า...
ในเวลาไล่เลี่ยกัน แม้หลิวจะอาบน้ำอาบท่าล้างคราบเลือดของวาตานาเบ้ที่เปื้อนมือออกหมดแล้ว แต่ยังล้างภาพตอนที่ตัวเองเอามีดเสียบอกเขาไม่ได้ เสียงเรียกของเต็งล้อทำให้เธอตื่นจากภวังค์ ถามว่ามีอะไร เขาต้องขอโทษเธอด้วย แต่ถ้าไม่ทำอย่างนั้นฝ่ายที่จะพลาดท่าให้กับพวกมันอาจเป็นเรา เธอตัดพ้อว่าสิ่งที่เขาทำ
ไม่ต่างจากส่งเธอให้ไปตาย เขาอ้างว่าทำตามที่ตี๋ซุ้งเคยพูดเอาไว้
“ยิ่งผ่านความเป็นความตาย นายน้อยจะยิ่งแข็งแกร่ง”
“แล้วแปะแน่ใจได้ยังไง ว่าอั๊วจะจัดการวาตานาเบ้ได้”
เต็งล้อมั่นใจเพราะหลิวมีสายเลือดมังกรอยู่ในตัว เมื่อจวนตัวขึ้นมาเธอจะสู้เพื่อให้มีชีวิตรอดไม่ว่าจะด้วยวิธีใด แล้วแกล้งถามว่าตอนนี้เธอจำอะไรๆได้แค่ไหนแล้วเพื่อเช็กดูว่าเธอจำเรื่องที่เขาเป็นศัตรูใกล้ตัวได้หรือยัง
“ก็ยังไม่ทั้งหมด...แปะเต็ง พรุ่งนี้ก็จะถึงวันเข้าประชุมแล้ว เราจะทำยังไง” หลิวเสียงเครียด พลอยทำให้เต็งล้อสีหน้าเคร่งเครียดไปด้วย ครู่ต่อมา ระหว่างที่
เต็งล้อลงมาถึงโถงบันไดชั้นล่าง เหมยเข้ามาขอคุยด้วย แล้วเดินนำไปที่ห้องรับแขก เล่าให้เขาฟังว่าเฮียกวงมาเตือนเธอเรื่องที่ตี๋เล็กไปทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาเฮียไฮ้
“อาซ้อไม่ต้องห่วง เรื่องนี้อั๊วจะจัดการด้วยตัวเอง เพราะยังไงนายเล็กก็เป็น...” เต็งล้อพูดไม่ทันจบ เหมยชิงพูดขึ้นเสียก่อนว่าฝากเขาดูแลเรื่องนี้ด้วย อย่าให้ตี๋เล็กเป็นอะไรเด็ดขาด เขาขอเอาชีวิตตัวเองเป็นประกัน
จะดูแลตี๋เล็กให้ดีที่สุด เหมยพยักหน้ารับรู้ กลับเรือนเล็กด้วยความสบายใจขึ้น
ooooooo
แม้วาตานาเบ้จะถูกฆ่าตายไปแล้ว เจ๊หยกยังคงโทร.มายืนยันกับเฮียไฮ้ว่าแผนการกีดกันไม่ให้หลิวเข้าประชุม 14K ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่ถ้ามันยังดึงดันจะร่วมประชุมให้ได้ก็เท่ากับมันรนหาที่ตาย
“เจ๊หยกพูดแบบนี้แสดงว่าเจ๊หยกก็มีแผนอยู่ในใจ”
เจ๊หยกไม่ตอบอะไรวางสายหน้าตาเฉย เฮียไฮ้ยิ้มพอใจที่เธอจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง ระหว่างนั้นเห็นคุงใช้เดินเข้ามา จึงถามย้ำแน่ใจใช่ไหมว่าหลิวความจำเสื่อมจริงๆ เขาแน่ใจเพราะตอนนั้นมันจำเขาไม่ได้จริงๆ เขาเองยังแปลกใจไม่หาย เฮียไฮ้ไม่วางใจหลิวนัก กำชับคุงใช้ไม่ประมาทไว้ก่อนจะดีกว่า
“ครับนาย...แล้วเรื่องพ่อเลี้ยงสุชัย เฮียจะเอายังไงครับ”...
ขณะที่เฮียไฮ้ออกคำสั่งตายให้กับพ่อเลี้ยงสุชัย หลิวหยิบสร้อยประจำตระกูลขึ้นมาดู คิดถึงการประชุม 14K ที่กำลังจะมีขึ้น อดเครียดไม่ได้ จากนั้นเธอเอาสร้อยประจำตระกูลใส่ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง เหลือบเห็นสร้อยที่อาติยะให้ พลันภาพความหลังเมื่อครั้งที่ความรักระหว่างเธอกับอาติยะยังหวานชื่นผุดขึ้นมาเป็นฉากๆ ความทรงจำเรื่องระหว่างเธอกับจางเหาผุดตามมาด้วย
ทั้งเหตุการณ์ตอนที่จางเหาตัดนิ้วตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้ฆ่าตี๋ซุ้ง และเหตุการณ์ตอนที่เต็งล้อบอกกับเธอว่าจางเหาเป็นคนที่ฆ่าพ่อของเธอก็ผุดขึ้นมาในสมองเช่นกัน ภาพในอดีตที่ประดังกันเข้ามาทำให้เธอปวดหัวแทบระเบิด ทันใดนั้นมีเสียงจางเหาร้องเรียกเธอดังขึ้น หลิวหลุดออกจากภวังค์หันขวับไปถามเขาว่าเข้ามาได้อย่างไร เขาจะมาพาเธอหนี ที่นี่อันตรายเกินไป
“ไม่ ฉันจำได้หมดแล้ว คุณคือคนที่ฆ่าพ่อฉัน”
จางเหาขอร้องให้ไปจากที่นี่ก่อนแล้วค่อยคุยกัน เธอไม่ไปไหนกับเขาทั้งนั้น เธอมีคนรักอยู่แล้ว เขาไม่ได้มาช่วยเธอเพื่อให้เธอรัก แต่เขากลัวเธอจะเป็นอันตราย หลิวยังสับสนกับภาพความทรงจำของตัว ยืนกรานไม่ยอมไปไหนกับเขาทั้งนั้น แถมไล่ตะเพิดไปให้พ้นหน้า จังหวะนั้น ฮัวเคาะประตูห้องขออนุญาตเข้าไป จางเหาเห็นสายตาเย็นชาของเธอที่มองมา ตัดสินใจหลบออกจากห้องได้ก่อนที่ฮัวจะเปิดประตูเข้ามา...
ด้านตี๋เล็กต้องการพิสูจน์ตัวเองให้คนในบ้านเห็นว่ามีดีพอ เพียงแต่การพิสูจน์ของเขาเป็นไปในทางที่ผิดคิดจะค้ายาเสพติดกับพ่อเลี้ยงสุชัยให้เป็นเรื่องเป็นราว ในเมื่อไม่มีเงินค่ายา เขาจึงไปบีบเอาเงินจากบ่อนพนันของตระกูลธรรมกุล คนคุมบ่อนพยายามยื้อถุงใส่เงิน
ไม่ยอมให้ตี๋เล็กเอาไป เขากลับชักปืนขู่ถ้าคนคุมบ่อนไม่ปล่อยมือจากถุงใส่เงิน เขาจะยิงทิ้ง จังหวะนั้น เต็งล้อโทร.เข้ามือถือของตี๋เล็กเพื่อจะเตือนเรื่องเฮียไฮ้
ตี๋เล็กกลับส่งมือถือให้เต็งล้อคุยกับคนคุมบ่อนซึ่งรายงานว่าตี๋เล็กเอาเงินจากในบ่อนไปหมด เต็งล้อขอร้องตี๋เล็กอย่าทำแบบนี้ จะได้ไม่คุ้มเสีย แต่เขาไม่ฟัง ตัดสายไปเลย...
หลิวยังคาใจเกี่ยวกับภาพความทรงจำที่มีอาติยะอยู่ในนั้นด้วย จึงถามฮัวว่ารู้จักเจ้าของสร้อยเส้นที่มีอักษรจีนคำว่า “รัก” หรือเปล่า ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมว่าเขาเป็นใคร ฮัวเล่าให้ฟังคร่าวๆว่าคนให้สร้อยเส้นนี้กับหลิวชื่ออาติยะเป็นคนรักของหลิวเอง เขาหายตัวไปนานแล้วไม่มีใครเจอเขาอีกเลย...
ทางด้านตี๋เล็กเอาเงินที่ยึดได้จากบ่อนพนันจะมาจ่ายค่ายาเสพติดตามที่นัดไว้กับพ่อเลี้ยงสุชัย รออยู่นานสองนานไม่เห็นแม้แต่เงาของอีกฝ่าย ตี๋เล็กก็เลยโทร.ตาม ต้องแปลกใจที่ได้ยินเสียงสายเรียกเข้ามือถือของพ่อเลี้ยงสุชัยดังไม่ห่างนัก สักพัก มีคนเข็นรถเข็นที่มีร่างไร้วิญญาณของพ่อเลี้ยงสุชัยเข้ามา
สมุนกับตี๋เล็กยังไม่ทันจะตั้งตัว คุงใช้สาดกระสุนใส่สมุนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง ตี๋เล็กซึ่งได้รับบาดเจ็บเห็นท่าไม่ดีวิ่งหนี คุงใช้ไม่ปล่อยให้หลุดมือรีบไล่ตาม ตี๋เล็กวิ่งหนีมาตามถนน เห็นผู้โดยสารกำลังลงจากรถแท็กซี่ วิ่งไปกระชากผู้โดยสารพ้นทางแล้วโดดขึ้นรถแท็กซี่
ใช้ปืนขู่โชเฟอร์ให้ออกรถ คุงใช้วิ่งตามแต่ไม่ทันรถแล่นหายไปในความมืดเสียก่อน เขาได้แต่มองตามเจ็บใจ
ooooooo
เฮียไฮ้มีแต่เรื่องขัดอกขัดใจ นอกจากเจ๊หยกยังไม่มีทีท่าจะจัดการกับหลิวได้ คุงใช้ยังกลับมารายงานว่า ตี๋เล็กหนีไปได้ เฮียไฮ้เจ็บใจที่ทำอะไรพี่น้องตระกูลธรรมกุลไม่ได้ แล้วนี่ไอ้คนน้องมันหนีไปซุกหัวที่ไหน
“เรื่องนั้นคงสืบได้ไม่ยากเพราะมันบาดเจ็บ น่าจะอยู่โรงพยาบาลไหนสักแห่ง”
“คงต้องใช้เงินอีกแล้วใช่ไหม” เฮียไฮ้ยิ้มอย่างมีแผนในใจ...
คุงใช้สืบจนรู้ว่าตี๋เล็กไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลไหน จากนั้นก็ส่งตำรวจในสังกัดของเฮียไฮ้ไปควบคุมตัว อ้างจะต้องเอาตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก ตี๋เล็กไม่วาย
กร่างใส่ สอบเรื่องอะไร ตำรวจแจกแจงมีทั้งเรื่องการตายของพ่อเลี้ยงสุชัย เรื่องยาเสพติด และเรื่องยิงกันเมื่อคืน ตี๋เล็กถึงกับอึ้งหนีไม่ออก...
วันนี้เป็นวันประชุมของเหล่าสมาชิก 14K ผู้ร่วมประชุมจะถูกทาง 14K แยกให้พักตามโรงแรมต่างๆที่กำหนดให้เพื่อความปลอดภัยของทุกคน และสถานที่ประชุมจะแจ้งให้เหล่าสมาชิกทราบก่อนการประชุมหนึ่งชั่วโมง โดยที่หลิวถูกกำหนดให้ไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งริมทะเล กว่าจะถึงเวลานัดประชุมอีกหลายชั่วโมง เต็งล้อจึงบอกให้หลิวไปพักผ่อนก่อน เธอพยักหน้ารับคำ ก่อนจะเดินเข้าห้องพัก
ระหว่างนั้นท่านชาติชายโทร.เข้ามาแจ้งเต็งล้อว่าตอนนี้ตี๋เล็กถูกตำรวจจับตัวไว้แล้ว เต็งล้อถึงกับถอนใจโล่งอก ฝากท่านชาติชายควบคุมตัวเขาไว้ก่อน อยู่ใน
ห้องขังจะปลอดภัยกว่าอยู่ข้างนอก
“แต่ปัญหาก็คือคนที่จับตี๋เล็กไปไม่ใช่คนของอั๊ว ตำรวจที่จับตี๋เล็กไปเป็นคนของเฮียไฮ้” คำพูดของท่านชาติชายทำเอาเต็งล้อถึงกับหน้าถอดสี...
ขณะที่ท่านชาติชายส่งคนไปสืบว่าตำรวจในสังกัดของเฮียไฮ้เอาตัวตี๋เล็กไปไว้ไหน คนที่ท่านกำลังตามหาถูกตำรวจแยกตัวไปขังเดี่ยวด้านในสุดห่างไกลจากผู้ต้องหาคนอื่น ก็เริ่มเอะใจว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น...
ในเวลาเดียวกัน จางเหามีหน้ากากอนามัยคาดเพื่ออำพรางใบหน้า ไปติดต่อขอรับศพซ้อซาจากสถาบันนิติเวช แต่ต้องแปลกใจเมื่อรู้ว่ามีญาติอีกคนหนึ่งมาติดต่อเช่นกัน กำลังคุยอยู่กับเจ้าหน้าที่ที่ด้านใน เขานิ่วหน้าแปลกใจ แม่บุญธรรมตัวเองมีญาติที่ไหนอีก ครั้นมาถึงห้องด้านใน คนที่มาติดต่อขอรับศพซ้อซาไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเหมยนั่นเอง แต่เธอไม่สามารถเอาศพไปได้เพราะซ้อซาบริจาคร่างกายให้กับทางโรงพยาบาลไปแล้ว
เหมยผิดหวังที่ไม่มีโอกาสทำบุญให้ซ้อซา จางเหาที่แอบฟังอยู่รับรู้ได้ถึงความจริงใจของเธอ...
ในเมื่อรับศพมาทำบุญไม่ได้ จางเหาจึงมาที่ศาลเจ้าเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ซ้อซาแทน ระหว่างนั้นปราบโทร.เข้ามือถือของเขาแจ้งว่าตอนนี้หลิวอยู่ที่พัทยา เขาสงสัยว่าปราบโทร.มาบอกทำไม
“นายเป็นคนเดียวที่อาจจะหยุดหลิวได้” พูดจบปราบวางสาย จางเหาหน้าเครียดรู้ดีว่าจะเจอกับอะไร
ooooooo










