ตอนที่ 9
แทนไทยอมเล่าเรื่องวัยเด็กว่าสุนทรเคยถูกจับข้อหาวางเพลิง แม้ไม่ถูกดำเนินคดีแต่ก็เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากจนคลุ้มคลั่งและเสียสติในที่สุด แทนไทถูกส่งตัวมาบ้านเด็กกำพร้าโดยมีครูอารีช่วยสั่งสอนและดูแล เยี่ยมยุทธถอนใจหนักหน่วงไม่คิดเลยว่าเรื่องจะมาถึงจุดนี้
“เธออายก็เลยไม่ยอมรับว่าเขาเป็นพ่อ”
“ผมแกล้งบอกทุกคนว่าผมจำพ่อไม่ได้ แต่จริงๆ ผมจำได้มาตลอด แต่ทำใจยอมรับไม่ได้ ทำไมคุณต้องสนใจเรื่องนี้ด้วย คุณเป็นใครกันแน่ครับ”
เยี่ยมยุทธไม่ยอมบอกเรื่องสืบหาคนวางเพลิงบ้านพ่อแม่ แต่พยายามคาดคั้นสุนทรอีกครั้ง แทนไทมองพ่อด้วยความเป็นห่วง แล้วก็เป็นเรื่องเมื่อสุนทรถูกเค้นจนเครียดจัดเกิดอาการชักต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล!
ooooooo
สุนทรอาการไม่ดีถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เยี่ยมยุทธ กับแทนไทไปเฝ้าหน้าห้องฉุกเฉินจนกระทั่งหมอมาบอกว่าสุนทรป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง เมื่อเครียดจะเกิดอาการชัก
แทนไทถอนใจยาวด้วยความเป็นห่วงพ่อ ต่างจากเยี่ยมยุทธที่ส่ายหน้าเซ็งๆ
“สรุปว่าเขาบอกอะไรไม่ได้ เอาผิดใครก็ไม่ได้”
“พ่อผมไม่ใช่พวกมือปืน ไม่ใช่พวกรับจ้างทำชั่วใช่ไหมครับ ตอนเด็กๆผมนึกมาตลอดว่าพ่อเป็นแบบนั้น”
เยี่ยมยุทธพยักหน้าเห็นด้วย “พ่อนายน่ะเขารู้สึกผิดที่มีคนตาย เขาเลยกลับไปใช้ชีวิตปกติไม่ได้ ถ้าเขารู้สึกผิดขนาดนี้ พื้นเดิมคงไม่ใช่คนเลวอะไรหรอก แต่ไอ้คนจ้างวานเขาเนี่ยสิ”
“หมอบอกว่าถ้าพ่อเครียดอีกอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต พี่อย่าไปยุ่งกับแกอีกจะได้ไหมครับ”
“ชีวิตของนายสุนทรบ้านแตก เป็นบ้า ลูกชายคนเดียวต้องอยู่อย่างยากลำบาก เขาได้รับกรรมของเขาแล้ว”
“ใช่ครับ...พ่อได้รับกรรมแล้ว พี่สนใจเรื่องนี้เพราะพี่เกี่ยวข้องกับครอบครัวคนตายใช่ไหมครับ”
“แทนไท...นายก็เหมือนกับฉัน เราไม่ได้ทำอะไรผิดแต่ชีวิตเรากลับพังพินาศจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนั้น”
แทนไทนิ่วหน้าไม่เข้าใจแต่เยี่ยมยุทธไม่อธิบายเพิ่มนอกจากทิ้งท้ายเสียงเข้ม
“เพื่อเห็นแก่เธอ...รักษาเขาให้เต็มที่ ฉันจะออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง ฉันสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับเขาอีก”










