ตอนที่ 10
ข่าวและกระแสลบของปิ่นมุกทำลายภาพลักษณ์ซึ่งทางธนานุวัตรสร้างเพื่อเธอในฐานะแบรนด์แอม-บาสเดอร์อย่างราบคาบ คณะกรรมการบริหารออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งและลงมติปลดปิ่นมุกจากทุกตำแหน่งของธนาคาร
เปรมจิตคิดหนักตามประสาคนรักธนาคารมากกว่าสิ่งใด พีระกับเยี่ยมยุทธเตือนให้ใคร่ครวญดีๆเพราะปิ่นมุกคาดหวังกับการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์และโครงการปรับภาพลักษณ์ธนานุวัตรมาก หากหุนหันตัดสินใจปลดอาจทำร้ายจิตใจและทำให้เตลิดมากกว่าเก่า
แฟรงค์รู้จุดอ่อนปิ่นมุกดีและตัดสินใจเดินแผนขั้นถัดไปด้วยการแฉตารางงานของปิ่นมุกเช้าวันรุ่งขึ้น เหล่าแฟนเพจแอนตี้ปิ่นมุกแชร์ตารางงานและนัดแนะกันไปตบอย่างโจ๋งครึ่ม
ปิ่นมุกสติแตกอีกครั้ง เยี่ยมยุทธต้องกล่อมให้ใจเย็นและรับมือสถานการณ์อย่างมีสติ
“ฉันต้องเข้มแข้งไม่ขาดสติอาละวาด”
“ถูกต้อง...นายแฟรงค์และคนอีกมากมายต้องการให้คุณอ่อนแอ หุ้นที่ราคาตกลงเขาจะเข้าซื้อเพื่อยึดทุกอย่างไปจากคุณและแม่คุณ มองไกลเข้าไว้ คิดไกลๆ... อย่าโมโหอีก...ใจเย็นไว้”
เยี่ยมยุทธไม่อยากให้ปิ่นมุกคลั่งเพราะจะเสียแผนและลึกๆก็อดสงสารไม่ได้ พยายามโน้มน้าวใจให้เธอรับมือสถานการณ์ด้วยเหตุผลแต่กระแสต่อต้านและโจมตีก็หนักข้อจนในที่สุดไฮโซสาวก็ทนไม่ไหวยกเลิกตารางงานทั้งหมด!
เปรมจิตรู้เรื่องลูกสาวยกเลิกตารางงานจากแนนก็ของขึ้น เอ็ดเสียงเข้ม
“แกยกเลิกไปออกงานทั้งหมดเพราะเรื่องแค่นี้เองเหรอ ใจคอแกจะอยู่แต่ในบ้านไปตลอดชีวิตหรือไง”
“แต่พวกมันขู่จะทำร้ายหนูนะแม่”
“ไร้สาระ...บอดี้การ์ดเรามีเป็นสิบ พวกมันเข้าถึงตัวแกไม่ได้ด้วยซ้ำจะกลัวไปทำไม”
“แต่ไอ้พวกบ้าของแม่น่ะมีเป็นหมื่น รู้ตารางงานปิ่นทุกอย่าง ถ้าเกิดมันรวมกลุ่มกันการ์ดไม่กี่คนจะช่วยอะไรได้”
“ถ้าแกอ่อนแออย่างนี้แกก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับธนานุวัตร พรุ่งนี้ถ่ายโฆษณาแกไม่ต้องไป”
“แม่! นั่นมันถ่ายในสตูดิโอ หนูจ้างช่างสั่งทั้งชุดจากอิตาลีมาแล้ว หนูเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ธนาคารนะ”
“แบรนด์แอมบาสเดอร์ไม่ใช่แค่ใส่ชุดสวยแบรนด์หรูแต่ต้องสื่อถึงธนาคาร นั่นคือน่าเชื่อถือและมั่นคง”
“แม่! หนูพยายามแล้วนะ พยายามจะทำงานที่ธนาคารบ้าๆนั่นแต่แม่นั่นแหละที่ผลักหนูออกมา!”
ooooooo










