สมาชิก

บุพเพสันนิวาส

ตอนที่ 6

“ถามเอง...ถามเมื่อไหร่ล่ะคะ จะพบหมื่นเรืองที่ไหนล่ะเจ้าคะ คุณพี่...คุณพี่” เกศสุรางค์เดินตามถาม สักพักก็หยุดถอนใจ “เฮ้อ...เล่นตัวจริ๊ง ไม่อยากรู้ก็ได้”

หมื่นสุนทรเทวาหันกลับมาบอกว่า อีกสักครู่หมื่นเรืองจะมา พระวิสุทธสุนทรก็มาด้วย มีข้ออันใดอยากถามก็เตรียมตัวไว้ เกศสุรางค์สีหน้าดีใจ ดีดนิ้วเปาะเมื่อรู้ว่าท่านมาด้วย

ปริกแล่นมารายงานจำปาอย่างหมั่นไส้การะเกดมาก หาว่านั่งหน้าขาวรอหมื่นสุนทรเทวาจนน่าเกลียด จำปาถามได้ยินนางถามเรื่องอวยยศหรือไม่ ปริกตบเข่าตัวเองฉาด

“บ่าวได้ยินแม่หญิงถามท่านหมื่นทันทีที่เหยียบท่าน้ำเลยเจ้าค่ะว่าอวยยศเป็นอะไร แม่หญิงผู้นี้วิปลาสแท้เชียวนะเจ้าคะ เดิมทีดุร้ายหมายหัวคน เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปไม่ดุร้ายเหมือนเดิม แต่ก็สอดส่ายสายตามองโน่นมองนี่อยากรู้ไปเสียทุกอย่าง หามีพอดีไม่เจ้าค่ะแม่นายท่าน”

จำปาย้อนถามว่าอย่างไหนดีกว่ากัน ปริกยอมรับว่าไม่ชอบการะเกดทั้งสองแบบ เพราะไม่เว้นผู้ใหญ่ จำปาข้องใจไม่เว้นอย่างไร ปริกว่าชอบเข้าไปใกล้ชิดซักถามพระวิสุทธสุนทร

พอพระวิสุทธสุนทรมาถึงก็คุยกับการะเกด “อย่าลืมนะ ออเจ้าเคยรับอาสาจะเป็นล่ามให้พวกข้าที่จะไปเรียนเขียนอ่านภาษาฝรั่งเศสที่โบสถ์เซนต์เปาโล”

“ไปเจ้าค่ะ ไปแน่นอน” นัยน์ตาเกศสุรางค์วิบวับเพราะจะได้เที่ยว

หมื่นเรืองมาถึงรีบออกตัวที่มาสายเพราะหน้าวัดไชยมีงานอะไรไม่รู้ เรือแจวแน่นขนัดท้องน้ำ พระวิสุทธสุนทรเคยเจอเวลามีงานบุญใหญ่ หมื่นเรืองหันมาบอกหมื่นสุนทรเทวา

“ต้องให้ท่านขุนศรีวิสารวาจาใช้อำนาจท่านออกญาโหราธิบดีสั่งการไปทางวัดแล้วกระมัง แม่การะเกดรู้หรือยังว่าเพลานี้คู่หมายของออเจ้ามิได้เป็นเพียงหมื่นแล้วหนา หากเป็นถึงท่านขุน หากได้ไปต่างบ้านต่างเมืองกลับมามีผลงาน ก็อาจจักได้เป็นถึงหลวง ออเจ้าดีใจฤาไม่”

“ขุนเรืองอภัยภักดี ออเจ้านี่ช่างไม่รู้จักจำ ติดแต่ปากยั่วเล่น” ขุนศรีวิสารวาจาเหน็บ

“ข้ารู้แล้วค่ะว่าทั้งสองท่านได้อวยยศสูงขึ้น...

ท่านออกพระเจ้าคะ ขุนนางในกรุงศรีอยุธยามีมากไหม เจ้าคะ” เกศสุรางค์หันมาถามพระวิสุทธสุนทร

“มีมากสิออเจ้า เห็นฤาไม่ว่ามีกิจการหลายอย่างที่ต้องมีคนทำ ทั้งในกิจการของราษฎร ทั้งกิจการของขุนหลวง ทั้งยังเรื่องการค้าขายกับพวกฝรั่ง พวกแขก คนจีนก็ค้าขายกับเรา”

“ขุนนางได้เงินเดือนไหมเจ้าคะ”

“ออเจ้าหมายถึงค่าจ้างงั้นฤา” เกศสุรางค์รับว่าใช่ที่ได้ตอนสิ้นเดือน พระวิสุทธสุนทรบอก “ไม่มี ขุนนางจะได้แต่เบี้ยหวัดเงินปีที่ขุนหลวงพระราชทานเท่านั้น”

“ถ้าไม่พอทำยังไงเจ้าคะ”

“ขุนนางได้จากงานที่ทำด้วยนะออเจ้า อย่างกรมกองไหนเก็บส่วยเก็บค่าฤาชาหรือเก็บค่าธรรมเนียมจากราษฎร ขุนนางกรมนั้นก็หักไว้ใช้จ่ายได้ ที่เหลือถึงจะส่งเข้าท้องพระคลังหลวง”

“อย่างนี้มีคอร์รัปชันไหมเจ้าคะ”

ทุกคนหันขวับมองหน้าเกศสุรางค์เป็นตาเดียว หญิงสาวรีบแก้คำใหม่ว่า มีโกงกันไหม ขุนศรีวิสารวาจาแย้งว่าเธอพูดคำประหลาด เกศสุรางค์ขัดว่ากำลังคุยเรื่องใหญ่ อย่าสนใจเรื่องเล็กน้อย พระวิสุทธสุนทรย้อนถามการะเกดคิดว่ามีโกงไหม เธอรับว่าที่ไหนมีผลประโยชน์ที่นั่นมีโกงแน่ พระวิสุทธสุนทรหัวเราะชอบใจ เกศสุรางค์รุกถามว่าจับได้ลงโทษอย่างไร

“มีตั้งแต่โทษเบาๆเรียกว่า กดอุเบกขา จนถึง...” เกศสุรางค์ลืมตัวขัดถามว่าเป็นอย่างไร ขุนศรีวิสารวาจาตำหนิ เธอรีบขอโทษ พระวิสุทธสุนทรไม่ถือโทษอธิบายว่า “เรียกประกันทัณฑ์บนขุนนางผู้นั้น ถ้าทำอีกก็โดนริบเงินประกัน”

“ถ้าผิดเยอะๆ ฆ่าไหมเจ้าคะ” เกศสุรางค์ซัก พระวิสุทธสุนทรบอก ฟันคอริบเรือน เกศสุรางค์ดีดนิ้วเป๊าะ “มันต้องงั้น ขี้โกงนี่เลวมาก ฟันคอยังน้อยไป ต้องฟันทั้งตัว หั่นเป็นชิ้นๆ”

ทุกคนทำหน้าเหวอ พระวิสุทธสุนทรบอกเรื่องผิดของขุนนางมีอีกมากมาย แล้วจะเล่าสู่ในโอกาสต่อไป เกศสุรางค์ไหว้อย่างสวยงาม บอกอยากฟังทั้งเรื่องไพร่ ไพร่สม ไพร่หลวง พระวิสุทธสุนทรยินดีจะเล่าให้ฟัง ขุนเรืองแทรกขำๆว่าตนก็รู้หลายเรื่อง ขุนศรีวิสารวาจาให้พอแค่นี้และให้การะเกดกลับห้อง เธอจำต้องไหว้ลาทุกคน พอเกศสุรางค์คลานออกไปแล้ว ขุนเรืองก็ถาม

“ออเจ้าหงุดหงิดใส่นางได้อย่างไร นางเป็นคนใฝ่รู้ เป็นสิ่งดีแก่ออเจ้าต่อไปเมื่อ...”

บุพเพสันนิวาส

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด