ตลอดปี 2560 นอกจากหัวหน้าทีมซอกแซกจะร่วม “ไว้ทุกข์” จากการสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของพวกเราชาวไทยแล้ว ยังต้องอยู่โยงโรงพิมพ์ช่วยเพื่อนพ้องชาวไทยรัฐจัดทำฉบับพิเศษไทยรัฐพูดได้ บันทึกประวัติศาสตร์ ทั้งในช่วงสวรรคตครบ 100 วัน และช่วงถวาย พระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกด้วยมีความเครียดอยู่พอสมควรว่างั้นเถอะดังนั้นเมื่อ “ออกทุกข์” แล้ว จึงถือโอกาสผ่อนคลายแวะไปหาอะไรอร่อยรับประทานที่สิงคโปร์ ได้เรื่องราวของ โทนี่ ทิง และร้านติ่มซำสุดฮิตของสิงคโปร์มาฝากท่านผู้อ่านคอลัมน์ซอกแซกถึง 2 สัปดาห์ซ้อนๆสัปดาห์นี้ก็เป็นเรื่องหนีไปเที่ยวและไป “รับประทาน” อีกเช่นกันครับ เปลี่ยนจากล่องใต้บินไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยผ่านอุบลราชธานี ไปลงที่ ฮ่องกงปรากฏว่าโชคดีมีลาภปากเพื่อนฝูงสามารถติดต่อจองภัตตาคารที่ลือกันว่ามาแรงที่สุดของฮ่องกงในยุคนี้ชนิดต้องจองข้ามวันข้ามคืน หรือหลายๆคืนกว่าจะมีโอกาสรับประทานได้ภัตตาคาร “MOTT 32” ที่มีรูปเป็ดพับกระดาษเป็นโลโก้ตั้งอยู่ใต้ถุนหรือเบสเมนต์ของตึกธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เลขที่ 4-4A ถนน DES VOEUX, ย่าน Central ของฝั่งฮ่องกงนั่นล่ะครับก่อนอื่นคงต้องบอกว่า การไปร้านนี้ไม่ใช่ง่ายๆ เพราะจะต้องหาตึกใหญ่ของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดที่อยู่ในย่านเซ็นทรัลของฝั่งฮ่องกงให้เจอเสียก่อนเมื่อเจอแล้วก็ยังจะต้องเดินลงทั้งบันไดเลื่อนและบันไดเวียนไปยังใต้ถุนตึกหรือเบสเมนต์อย่างที่ว่า เพราะร้านนี้ลงไปซุกอยู่ที่บริเวณนั้นแต่เมื่อถึงร้านและเดินมุดเข้าไปแล้ว ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นเลยก็คือ ความรู้สึกที่ว่า ร้านนี้เขาไฮโซจริงๆ ตกแต่งให้ดูเหมือนร้านเก่าๆ ย้อนยุค แต่ทุกอย่างหะรูหะรา เห็นชัดว่าต้องเป็นฝีมือของนักออกแบบชั้นยอดซึ่งก็เป็นจริงดังที่คาดไว้ เพราะในเอกสารแนะนำภัตตาคารนี้ระบุเอาไว้หลายย่อหน้าทีเดียวว่า “การตกแต่งภายใน” ของที่นี่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ทั้งจากสถาบันในฮ่องกงเองและจากสื่อชื่อดังระดับโลกที่เคยแวะมารีวิวหัวหน้าทีมซอกแซกไปรับประทานตอนเที่ยงวัน ผู้คนเต็มทุกโต๊ะ และยืนยันได้ว่ามาจากการจองล่วงหน้าทั้งสิ้นเพื่อเปรียบเทียบกับสิงคโปร์ ที่เพิ่งรับประทานมาหมาดๆ จึงขอร้องพรรคพวกให้สั่ง “ติ่มซำ” ด้วย ส่วนเมนูเด็ดของร้านที่เขาบอกว่าพลาดไม่ได้ อันได้แก่ “หมูแดงอบน้ำผึ้ง”, “เป็ดปักกิ่ง” และ “ผัดคะน้าปลาเค็ม” นั้น พรรคพวกเขาสั่งให้อยู่แล้วสำหรับ “ติ่มซำ” ถือว่าอร่อยทุกเข่ง ไม่ว่าจะเป็น ขนมจีบ, ฮะเก๋า, เซียวหลงเปา, ซาลาเปาไส้ต่างๆ และก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้ต่างๆหมูแดงอบน้ำผึ้ง ต้องยกให้เลยว่าอร่อยจริง เนื้อหมูนุ่มมากแทบจะละลายในปาก สอบถามได้ความว่า เพราะใช้หมูพิเศษจากสเปน หรือที่เรียกกันว่า “หมูดำ” นั่นเองเนื้อหมูดำสเปน โดยเฉพาะขาหมูเอาไปทำเค็มฝานเป็นชิ้นเล็กๆแบบแฮม ได้ชื่อว่าอร่อยๆสุดๆอยู่แล้ว แต่ร้านนี้เอาเนื้อหมูสเปน มาทำ “หมูแดง” ซะเลย ไม่อร่อยก็ผิดไปละเป็ดปักกิ่ง นี่ก็อร่อยอีกแฮะ อร่อยทั้งหนังที่ย่างจนกรอบ แล้วแล่มาให้เราใช้แผ่นแป้งห่อรับประทาน ไปจนถึงเนื้อเป็ดที่เขาสับเป็นชิ้นๆมาด้วยเลย ให้รับประทานเป็นชิ้นแบบเป็ดย่างบ้านเรานี่แหละ โดยไม่ต้องเอาไปทำเมี่ยง หรือทอดกระเทียมพริกไทย แต่อย่างใดทั้งสิ้นไม่รู้เขาใช้เป็ดอะไร? อร่อยทั้งหนังทั้งเนื้อ เพราะถ้าเป็นบ้านเราต้องเลือกเอาอย่างใด อย่างหนึ่งหรือจะเป็นว่าเขามีวิธีอบและมีสูตรเฉพาะของเขาเอง เพราะเขาบอกไว้เลยว่า ถ้าจะกินเป็ดปักกิ่งต้องสั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพราะเขาต้องใช้เวลาในการอบไม่ต่ำกว่า 48 ชั่วโมงสำหรับ “ผัดคะน้าปลาเค็ม” นั้น ผมก็ลืมถามไปว่าเขาเรียกภาษาจีน หรือภาษาอังกฤษว่าอะไร แต่ผัดออกมาแล้วอร่อยมากกินจบครบถ้วนทุกอย่างแล้วกลับไปโรงแรมเข้าเว็บไซต์ของภัตตาคารนี้ดู ทำให้รู้ว่าเชฟใหญ่ของเขา ลี แมน ซิง (Lee Man Sing) เคยเป็นเชฟของร้านอาหารจีนระดับมิชลิน 2 ดาว ก่อนจะมารับหน้าที่เป็นหัวหน้าเชฟของร้านนี้เคยได้รับรางวัลเชฟดีเด่น เชฟยอดเยี่ยมของฮ่องกง จากสถาบันต่างๆมานับไม่ถ้วนส่วนชื่อร้าน Mott 32 เขาบอกว่าตั้งมาจากบ้านเลขที่ 32 Mott Street หรือถนน Mott ในมหานครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นร้านชำร้านแรกที่ชาวจีนไปตั้งที่เมืองหลวงเศรษฐกิจของโลกเมืองนี้ เมื่อ ค.ศ.1851 หรือ 166 ปีที่แล้วต่อมาจากร้านแรกร้านเดียว ที่บ้านเลขที่ 32 คนจีนก็ขยายร้านกันยกใหญ่ จนกลายเป็น “ไชน่าทาวน์” ของนิวยอร์ก สืบมาจนถึงปัจจุบันเขาไม่ได้บอกว่าเป็นญาติโกโหติกาอะไรกับเจ้าของบ้านเลขที่ 32 ถนนมอตต์ แห่งนิวยอร์ก เข้าใจว่าคงจะหยิบยืมเลขบ้านและถนนมาเป็นมงคลนามในการตั้งภัตตาคารแห่งนี้เท่านั้นปัจจุบันมีสาขาที่แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา อีกแห่งหนึ่ง และขึ้นป้ายไว้ในหน้าแรกของเว็บไซต์ของเขาว่าจะมี Mott 32 ที่ Bangkok ของเราด้วย โดยมีวงเล็บว่า Coming Soonสรุปว่าถ้าพูดถึงรสชาติติ่มซำของที่นี่อร่อยกว่าของ Swee Shoon สิงคโปร์ และเป็ดปักกิ่งกับหมูแดงก็อร่อยมาก แม้แต่ร้านดังๆบ้านเราคงสู้เขาไม่ได้แน่นอนแต่สนนราคาและบรรยากาศหัวหน้าทีมซอกแซกยังชอบ Swee Shoon สิงคโปร์มากกว่า เพราะถูกกว่ากันเยอะ และบรรยากาศก็เป็นกันเอง แบบนั่งแล้วสบายใจกว่ากันอะไรไม่อะไร กินติ่มซำทั้ง 2 ประเทศแล้ว เขาจะอร่อยแค่ไหนก็ช่างเขาเถอะ เรากินและอุดหนุนของบ้านเราดีกว่า ติ่มซำ MK เอย ซาลาเปา “วราภรณ์” เอย ทับหลี เอย หรือแม้แต่ซาลาเปากับขนมจีบ “เซเว่น” เมืองไทย รับประทานแล้วก็อิ่มท้องครือกันละเด๊อ!“ซูม”