ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ...ปี 2568 ประเทศไทยได้เกิดเหตุการณ์อย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน แผ่นดินไหวหนักสุดแม้จะเกิดในประเทศเพื่อนบ้านแต่ก็เสมือนมาถึงไทย ตึก สตง.ที่กำลังก่อสร้างก็ถล่มลงมาหายไปทั้งตึก “กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านอยู่กันมาดีก็เกิดสงครามกันขึ้น แม้กระทั่งการเมืองก็มีเหตุที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นมาแล้วมีนายกรัฐมนตรี 3 คน เพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น 2 คนแรกถูกศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนในข้อหาเดียวกันคือฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงอีกคนโผล่ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแบบไม่คาดฝันเมื่อฝ่ายค้านยกมือสนับสนุนเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยด้วยข้อแลกเปลี่ยนคือต้องยุบสภาและแก้ไขรัฐธรรมนูญ“อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มีเสียงสนับสนุนแค่ 70 เสียง แต่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างน่าประหลาดแม้ตัวเขาเองยังไม่เชื่อว่ามันเป็นไปได้แต่ก็เป็นไปแล้ว!นี้มันอาถรรพณ์อะไรกันแน่!ที่เป็นเรื่องฮือฮาที่สุดก็คือ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต้องลี้ภัยหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศถึง 17 ปีจู่ๆก็ได้กลับบ้าน!ได้รับการอภัยโทษจาก 8 ปี เหลือเพียงแค่ปีเดียวทุกอย่างผ่านพ้นด้วยดีมาตลอดแต่แล้วก็ต้อง “ติดคุก” จนได้ เมื่อไม่ยอมติดคุกจากโทษ 1 ปีที่เหลือด้วยการใช้เพทุบายสุมหัวกับเจ้าหน้าที่อ้างว่าป่วยร้ายแรงไปนอนอยู่ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจสบายๆจนได้ออกจากโรงพยาบาลเนื่องจากได้รับการพักโทษไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียวแต่คนเราไม่รู้ตัวเองว่าอะไรควรไม่ควรแสดงความเก่งกาจทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีหลังฉาก เนื่องจากลูกสาวได้เป็นนายกรัฐมนตรีแสดงความโอหังว่าประเทศนี้ไม่มีใครเก่งเท่าเขาถ้าขาดเขาแล้วจะรู้สึกจนสังคมหมั่นไส้กันไปทั้งเมืองแล้วคนที่เขาใหญ่จริงๆจะคิดอย่างไร?สุดท้ายก็ไปไม่รอดเมื่อมีการสอบสวนแล้วพบว่าเขาไม่ได้ป่วยจริง แต่คบคิดกับเจ้าหน้าที่สร้างความเท็จก็เลยถูกศาลสั่งจำคุก 1 ปีเป็นเรื่องราวทางการเมืองที่ไม่น่าเป็นไปได้แต่ก็เกิดขึ้นแล้วด้วยองคาพยพเหล่านี้พลอยฟ้าพลอยฝนไปถึงลูกสาวที่ต้องพ้นจากตำแหน่งเมื่อพ่อ-ลูกตระกูล “ฮุน” จากกัมพูชาที่เคยสนิทสนมกันมานานเกิดอารมณ์แปรปรวนเปิดฉากทะเลาะกันที่แสบที่สุดก็คือการอัดเทปบทสนทนาระหว่าง “ฮุน เซน” กับ “แพทองธาร ชินวัตร” จนเป็นเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั่นเป็นจุดที่ทำให้ไทย-กัมพูชาต้องสู้รบกันใดๆในโลกล้วนอนิจจัง ที่ไม่คิดว่าจะเกิดก็เกิดมันเป็นอย่างนี้แหละโลกมนุษย์!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม