ระฆังบอกเวลาของทหารเรือ ตีกันทุกครึ่งชั่วโมงครับ เริ่มตี 1 ครั้ง สมมติตอนเช้า แปดโมงครึ่ง สามโมง ตี 2 ครั้ง เพิ่มทุกครึ่งชั่วโมง ถึงเที่ยงวัน ตี 8 ครั้ง เที่ยงครึ่ง เริ่ม 1 ใหม่หมุนเวียนไปอย่างนี้ตลอด 24 ชั่วโมงตอนเป็นทหารเรือ (เกณฑ์) ผมถามจ่า ทำไมจึงตีได้แค่ 8 ครั้ง จ่าบอกเล่นๆ ถ้ามึงตี 9 ครั้ง ยักษ์จะออกมากินกรมอุทกศาสตร์ ที่ผมสังกัด เป็นตึกสี่เหลี่ยมแบบฝรั่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มุมสุดด้านซ้ายกองทัพเรือ ประตูข้างกรมเปิดออก ก็ถึงพระปรางค์วัดอรุณออกจากเวรยาม...ตีระฆัง ข้างประตู ผมเดินเข้าออกผ่านวัดอรุณ ไปลงเรือข้ามฟาก ไปฝั่งท่าเตียน ไม่เคยรู้เลยว่า ที่ตั้งกรม ระฆังที่ผมตี มีส่วนสัมพันธ์กับองค์พระปรางค์ในหนังสือภาษาคาใจ ปากพูดหูเพี้ยน (สำนักพิมพ์เพชรประกาย พ.ศ.2553) สังคีต จันทนะโพธิ เขียนว่า ปืนเที่ยงเป็นส่วนหนึ่งของราชการ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯให้ยิงขึ้นในกรุงเทพฯ เป็นสัญญาณ“ถึงเวลาครึ่งวันแล้ว”ข้าราชการ หยุดงานกินมื้อกลางวัน พระที่ฉันจังหันเพล ก็ต้องหยุดฉัน คอไพ่ตองก็รู้ว่า ได้เวลาบ่อนเปิด บ่อนไพ่ตองสมัยนั้น อนุญาตให้เปิดได้ ตั้งแต่เที่ยงวันไปถึงเที่ยงคืนหน่วยงานที่รับภาระยิงปืนเที่ยง คือทหารเรือ ที่เก่งในวิชา วัดแดดวัดดาว ยิงปืนเที่ยงทุกครั้ง ตรงเวลาเทียบได้ตามมาตรฐานเวลากรีนิช ไม่พลาดแม้แต่เวลาเสี้ยววินาทีอ่านถึงตอนนี้ ผมจึงนึกได้ จุดแขวนระฆังที่พวกผมตีทุกวัน อยู่ตรงหน้านาฬิกาเรือนใหญ่ เขียนว่าเวลาเทียบสมมติฐานกรีนิช แห่งประเทศไทย ระฆังที่ผมตี จึงบอกเวลาได้แม่นยำตามมาตรฐานโลกทีเดียวก่อนที่ทหารเรือจะใช้วิชาวัดแดดวัดดาว หรือเอาเวลามาตรฐานกรีนิช มาคำนวณเพื่อยิงปืนเที่ยง คุณสังคีตบอกว่า ทหารเรือยึดถือเอาเงาจากแสงอาทิตย์ที่คล้อยไปตามจักรวาล จากองค์พระปรางค์วัดอรุณ เป็นหลักจุดที่ใช้ยิงปืนเที่ยง แรกทีเดียวอยู่ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แถวท่าราชวรดิฐบ้าง กองเรือปืนกลบ้าง ขนาดลำกล้องปืนที่ใช้ยิง ราว 4 นิ้ว หันลำกล้องปืนลงแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนเวลายิง ทหารเรือจะเอาธงแดงไปปักไว้ทั้งทางเหนือทางใต้ ให้เรือที่ผ่านไปมาใบ้เป็นข้อสังเกต หยุดวิ่งเรือราว 2-3 นาที กระสุนที่ใช้ยิง แม้เป็นกระสุนหลอก แต่ก็เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนผู้ให้สัญญาณการยิง เป็นทหารเรือจากฝั่งวัดอรุณ สัญญาณนั้นคือการชักธงขึ้นยอดเสาหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 รัฐบาลคณะราษฎร เห็นว่า มีนาฬิกาบอกเวลาทันสมัยกว่า การยิงปืนเที่ยง เสียค่าดินปืน ค่าเบี้ยเลี้ยง ทั้งเวลาราชการของทหารเรือ จึงสั่งยกเลิกแต่ความเคยชิน จากการได้ยินเสียงปืนเที่ยง ตอนที่ผมเป็นทหารเรือ พ.ศ.2509-2511 ก็ยังได้ยินสำนวน “ไกลปืนเที่ยง” เปรียบเปรยคนบ้านนอกคอกนาบ่อยๆเพิ่งมารู้เอาตอนนี้ หน้าที่ตีระฆังบอกเวลาทหารเรือ หน้านาฬิกาเทียบเวลากรีนิช ที่ทำอยู่สองปี ที่กรมอุทกศาสตร์ ข้างพระปรางค์วัดอรุณนั้น...ถือว่า “ใกล้ปืนเที่ยง” มากสมัยนี้ ไม่ค่อยมีใครพูดคำว่า “ไกลปืนเที่ยง” ให้ได้ยิน แต่คำว่า “เที่ยงตรง” เวลาพระอาทิตย์ตรงหัว ยังใช้กันในความหมายกว้างไกล ไปถึงคำว่า “เที่ยงธรรม”แต่มาตรฐานความเที่ยงธรรม ที่ใช้กันในการเมือง เท่าที่ฟังๆดู ไม่ได้มีอยู่มาตรฐานเดียวความเที่ยงธรรมมาตรฐานรัฐบาล คสช.นั้น มาตรฐานหนึ่ง ส่วนความเที่ยงธรรม มาตรฐานพรรคการเมืองที่แยกตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตย นั้นดูจะห่างไกลไปอีกมาตรฐานหนึ่ง.กิเลน ประลองเชิง