“อนุทิน” เมินคำ “ฮุน เซน” บอกไทยปักธงได้คือที่ไทย “สีหศักดิ์” แจงคณะทูตปมชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำหยุดยิงที่ยั่งยืน ชี้สถานการณ์ยังเปราะบางหวังหยุดยิงถาวร วอนกัมพูชาสร้างความไว้ใจก่อน ยันจีนไม่เข้าแทรกแซง ปัดไทยประวิงเวลาถกJBC ย้ำต้องดูขั้นตอน-ข้อกฎหมาย ชี้อาจได้ประชุมในรัฐบาลหน้า กองกำลังบูรพาประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว จ.สระแก้ว มีผลทันที หลังควบคุมภัยคุกคามได้แล้ว ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่การสู้รบไม่เชื่อเขมรหยุดยิงจริง อาจเป็นอุบายเพื่อถือโอกาสเสริมกำลังพลและอาวุธหนักเข้าพื้นที่ชายแดน เตรียมยึดคืนจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ไทยยึดคืนมา ตำรวจชุด EOD พร้อมผู้นำชุมชนลุยค้นหาลูกจรวดที่อาจฝังตามท้องนาและพื้นที่การเกษตร เผยค้นแค่ครึ่งวันเจอแล้วกว่า 20ลูก กองทัพภาคที่ 1 ยกเลิกเคอร์ฟิว จ.สระแก้วแม้ยังไม่มีสถานการณ์ใดๆเกิดขึ้นภายหลังครบเวลา 72 ชั่วโมง ในข้อตกลงการหยุดยิงระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ครบกำหนดเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 30 ธ.ค. แต่ชาวบ้านในพื้นที่การสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ต่างหวั่นระแวง เนื่องจากพบการบินโดรนของฝ่ายตรงข้ามจำนวนมากในเขตท้องฟ้าไทยอย่างผิดปกติ“อนุทิน” เมินคำ “ฮุน เซน” เรื่องปักธงเมื่อเวลา 12.38 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังครบกำหนดเวลาหยุดยิง 72 ชั่วโมง ในการลงนาม Joint Statement ระหว่างไทย-กัมพูชา ช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้ว่า ยังไม่ได้ฟัง ผลการประชุมประเมิน แต่เราก็ทำตามข้อตกลง ส่วน จะปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นาย ที่ถูกควบคุมตัวเลย หรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ เป็นเรื่องของคนดำเนินการ เมื่อถามว่า กรณีที่สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาพูดในลักษณะที่ว่า จะไม่ยอมรับการ ปักธงของไทย จะถือเป็นสัญญาณว่าสถานการณ์ชายแดน ไม่ได้สงบจริงใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ก็เราถือ ไม่เอาน่ะ พูดไป เราไปปักธงก็แสดงว่าเรามั่นใจว่านี่คือพื้นที่ของประเทศไทย ก็แค่นั้น ใครจะไปพูดอะไร ก็พูดไป รัฐบาลไทยก็พูดแบบนี้ คนไทยก็พูดแบบนี้”“สีหศักดิ์” แจงหารือ 3 ฝ่ายก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 09.45 น. วันเดียวกัน นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ กล่าวที่ ทำเนียบรัฐบาล ถึงการหารือ 3 ฝ่าย รมว.ต่างประเทศ ของไทย กัมพูชาและจีน ที่เมืองหยูซี มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีจีนเป็นเจ้าภาพว่า อยากทำให้ข้อตกลงหยุดยิงเป็นการหยุดยิงที่ยั่งยืน นำมาสู่การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ขณะเดียวกันต้องดูว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา จะเดิน ต่อไปอย่างไร เพราะเพิ่งตกลงหยุดยิงกัน จึงยังมีความเปราะบางอยู่ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือบั่นทอนการหยุดยิง อาทิ การปล่อยโดรน การใช้คำพูดยั่วยุ หรือการออก ถ้อยแถลงระดับผู้นำต่างๆ ต้องระมัดระวังและต้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เช่นกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา ออกมาพูดว่าการหยุดยิงนั้น ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายกัมพูชาแพ้ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ เพราะหากตั้งคำถามแบบนี้ เราก็ต้องถามกลับ ไปว่าใครเป็นฝ่ายขอหยุดยิง เราควรก้าวข้ามตรงนั้นแฉเขมรเร่งประชุม JBCเมื่อถามกรณีตรวจพบโดรน จำนวน 250 ลำ บริเวณชายแดน และทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลครั้งที่ 11 จะส่งผลกระทบต่อข้อตกลงหยุดยิง 72 ชั่วโมงหรือไม่ นายสีหศักดิ์กล่าวว่า ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและดูด้วยว่าเป็นทุ่นระเบิดเก่าหรือใหม่ ประเด็นที่เราคุยกันในที่ประชุม GBC คือการมี Hotline เมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ เราต้องตรวจสอบไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด อีกประเด็นหนึ่งคือ ฝ่ายกัมพูชาเหมือนพยายามเร่งรัดให้เกิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ที่เกี่ยวกับการปักปันเขตแดน จึงต้องมาดูกันต่อ เพราะผลการประชุม GBC ยังไม่เข้าสู่ที่ประชุม ครม. ขณะเดียวกันในการประชุม JBC ต้องมาดูข้อกฎหมายว่าในช่วงรัฐบาลรักษาการจะต้องขออาณัติ จากรัฐบาลหรือไม่ เพราะเป็นข้อตกลงที่ผูกพันไปถึง รัฐบาลใหม่ มันมีขั้นตอนอยู่ ไม่ใช่จะสามารถจัดประชุม ได้ทันที แต่ยืนยันว่าการประชุม JBC เราไม่ได้ประวิง เวลา เพียงแต่พื้นที่ต้องปลอดภัยก่อน เราต้องลงพื้นที่ ร่วมกันเพื่อปักปันเขตแดนชี้อาจได้ประชุมในรัฐบาลหน้านายสีหศักดิ์ยังกล่าวถึงความชัดเจนในการปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นาย ว่า เป็นไปตามที่เรา พูดคุยกันคือ หยุดยิง 72 ชั่วโมง อยากย้ำว่าอยากให้ เคารพการหยุดยิงและต้องรักษาคำพูดสิ่งที่คุยกันไว้ ส่วนแนวทางการทูต เราพูดคุยกันได้อยู่แล้ว ถือว่าตอนนี้ทางการทูตได้คุยกันแล้ว เพราะตอนนี้หากมีเหตุการณ์อะไรก็ต้องพูดคุยกัน นอกจากนี้ฝ่ายทหาร ก็พูดคุยกันอยู่ ส่วนการปักปันเขตแดนทางสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาไม่ยอมรับเขตแดนที่ทหารไทยปักปันจะเป็นปัญหาหรือไม่นั้น นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า บริบทมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ฉะนั้นการประชุม JBC จะมีขึ้นเมื่อใดเราต้องพิจารณาตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป มันมีขั้นตอนของมันอยู่ อาจจะไปถึงรัฐบาลใหม่ จึงจะประชุมกันได้ เรายัง ไม่รู้ท่าทีรัฐบาลใหม่จะเป็นอย่างไร จะมีการทบทวน MOU 43 หรือไม่ก็ยังไม่มีข้อยุติหยุดยิงเพื่อชาวบ้านปลอดภัยนายสีหศักดิ์กล่าวว่า การหยุดยิงถือว่าเพื่อให้ เกิดความปลอดภัยกับประชาชน อยากให้ทั้งสองฝ่าย เคารพการหยุดยิง เพราะเขาก็สูญเสียพอสมควร ประชาชนของเขาก็อยากจะกลับเข้าสู่พื้นที่เดิม เพราะ ฉะนั้นเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน ที่จะทำให้การหยุดยิง ที่ตกลงกันไว้ เป็นการหยุดยิงที่ยั่งยืนถาวร ส่วนปัญหาอื่น เราก็ควรจะพูดคุยกันได้ในฐานะเพื่อนบ้านเผยจีนอยากเห็นสันติภาพต่อมา เวลา 12.05 น. นายสีหศักดิ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนภายหลังครบ 72 ชั่วโมง การหยุดยิงว่า ก็ดี ตอนนี้ก็หยุดยิงแล้ว บ่ายวันที่ 30 ธ.ค. จะมีการบรรยายสรุปให้กับคณะทูต ต่างประเทศถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่การประชุม GBC ผลการพูดคุย 3 ฝ่าย จีน ไทย กัมพูชา รมว.ต่างประเทศของจีนไม่ได้ฝากอะไร ฝากมาแต่ความปรารถนาดีที่อยากเห็นสันติภาพในภูมิภาคและความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชากลับสู่สภาวะปกติ กรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด ต้อง รมว.ต่างประเทศของจีน โดยตรวจสอบว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือเก่า แต่เราไม่อยากให้เหตุการณ์พวกนี้กระทบต่อการหยุดยิง เพราะถือว่าทุกคนต้องเคารพและปฏิบัติตามที่ตกลงกันแจงคณะทูตสถานการณ์ล่าสุดจากนั้นเวลา 15.00 น. ที่ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังบรรยายสรุปต่อคณะทูต เกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดสถานการณ์ไทย-กัมพูชาว่า ได้เชิญคณะทูตมาบรรยายสรุปเกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ตั้งแต่การประชุมสมัยพิเศษของ รมว.ต่างประเทศอาเซียน เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. พูดถึงการหยุดยิง หลังจากนั้นมีการประชุมคณะกรรมาธิการชายแดนทั่วไป (GBC) นำมาสู่ข้อตกลงหยุดยิง ภายในเวลา 12.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. รวมถึงมาตรการลดความตึงเครียดบริเวณชายแดนและการเสริมสร้างกลไกสังเกตการณ์หยุดยิงผ่านคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ส่วนการประชุม 3 ฝ่าย ระหว่างไทย กัมพูชา จีน ฝ่ายจีนทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก การประชุมเป็นไปด้วยดี ได้เจอกับนายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และ รมว.ต่างประเทศของจีน ทั้งยังมีพูดคุยกับนายปรัก สุคน รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศกัมพูชา เกี่ยวกับประเด็นสำคัญที่จะเดินหน้าต่อหลังจากการหยุดยิงอยากให้หยุดยิงยั่งยืนถาวรนายสีหศักดิ์กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา จีนย้ำว่าจะไม่เข้ามาแทรกแซงระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่ตรงกับท่าทีของไทย แต่ส่วนไหนที่จีนช่วยสนับสนุนได้เขาก็ยินดี เป็นไปตามจังหวะเวลาตามแต่ที่ไทย และกัมพูชาจะหารือกัน สำหรับไทยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การหยุดยิงที่ยั่งยืน เนื่องจากสถานการณ์ยังเปราะบาง รบกันมาหลายวัน ดังนั้นต้องมีการหยุดยิงจริงๆ ต้องสร้างมาตรการและความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันด้วย เราต้องเน้นให้การหยุดยิงยั่งยืนถาวร ส่วนจะเดินหน้า ความสัมพันธ์ต่อไปอย่างไร ทำไปทีละขั้นตอน คงต้อง มีการเจอกันระหว่างตนกับ รมว.ต่างประเทศกัมพูชาเช่น การมีเอกอัครราชทูตในแต่ละประเทศ หรือการฟื้นฟูการติดต่อแลกเปลี่ยน แต่ขอให้ช่วงนี้ทำให้การหยุดยิงมีความเข้มแข็ง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ทุกอย่างจะตามมาเอง “ขณะนี้สถานการณ์ยังเปราะบาง สถานการณ์ในพื้นที่อาจลดจากความไม่ตั้งใจ แต่หากตั้งใจก็ต้องมีการโต้ตอบ ดังนั้นจะต้องมีการพูดคุยติดต่อกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างกัน ช่วงนี้เป็นช่วงที่สำคัญ ไทยมีความจริงใจและจริงจังที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง”ยกเลิกเคอร์ฟิว จ.สระแก้ววันเดียวกัน กองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 ยกเลิกประกาศห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานภายในระหว่างระยะเวลาที่กำหนด ตามที่กองกำลังบูรพา ได้ออกประกาศห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 19.00-05.00 น. ในพื้นที่อำเภอ ตามแนวชายแดน จ.สระแก้ว ได้แก่ อ.ตาพระยา อ.โคกสูง อ.อรัญประเทศ และ อ.คลองหาด ลงวันที่ 10 ธ.ค.2568 นั้น เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่ที่ปรากฏภัยคุกคาม ต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน จากภายนอกราชอาณาจักรอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้แล้ว เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในการดำเนินชีวิตประจำวัน ส่งเสริมเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ของจังหวัด จึงให้ยกเลิกประกาศห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนดดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปยังไม่เชื่อเขมรหยุดจริงผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนไทย—กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ หลายหมู่บ้านพากันกลับสู่บ้านเรือนที่พักอาศัยกันแล้ว หลังต้องอพยพออกมากว่า 20 วัน แต่ส่วนใหญ่ยังวิตกกังวลว่าหลังครบ 72 ชม.ของการหยุดยิงเมื่อเที่ยงวันที่ 30 ธ.ค. กัมพูชาจะเปิดฉากยิงเพื่อสร้างสงครามและต้องอพยพเป็นรอบที่ 3 อีกหรือไม่ ประกอบกับไม่เคยเชื่อมั่นถึงความจริงใจของกัมพูชาที่ผ่านมา ต่างเฝ้าติดตามสถานการณ์ในช่วงเที่ยงวันที่ 30 ธ.ค.อย่างใจจดใจจ่อ ชาวบ้านพากันตั้งข้อสังเกตว่า การที่กัมพูชาพยายามเจรจาให้หยุดยิง เพียงเพื่อถือโอกาสเสริมกำลังพลและอาวุธหนักเข้าพื้นที่ชายแดน เพื่อเตรียมยึดคืนจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ไทยยึดคืนมาตลอดแนวชายแดนอีกด้วย แหล่งข่าวชาวกัมพูชาคนหนึ่งเผยว่า คนกัมพูชาที่อยู่บริเวณชุมชนโอรเสม็ด อ.กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย ตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ทหารกัมพูชาไม่อนุญาตให้กลับเข้าพื้นที่ ตรงกันข้ามกับทางการไทยที่อนุญาตให้คนไทยกลับเข้าพื้นที่ได้ ชาวบ้านแนวชายแดนจึงไม่มั่นใจสถานการณ์ช่วงหลังจากเที่ยงวันที่ 30 ธ.ค.มทภ.2 เยี่ยมทหารบาดเจ็บวันเดียวกัน พล.ท.วีระยุทธ รักษ์ศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พล.ต.ไชยนคร กิจคณะ ผบ.มทบ.ที่ 25 พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผบ.กองกำลังสุรนารี รวมถึงนายทหารชั้นผู้ใหญ่เข้าเยี่ยมทหารบาดเจ็บรวม 6 นาย ที่ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สุรินทร์ และมอบกระเช้าให้กำลังใจทหารหาญที่ปกป้องอธิปไตย ประกอบด้วย 1.พลทหารปรียวัฒน์ จงทิพย์ อายุ 20 ปี ถูกกระสุนที่คอ นัดผ่าตัด 20 ม.ค.69 2.จ.ส.อ.สุจินต์ จิตตรียาน อายุ 32 ปี บาดเจ็บจากเหยียบทุ่นระเบิดที่เขาสัตตะโสม 3.จ.ส.อ. กิตติพงษ์ ฉิมไทย อายุ 40 ปี อุบัติเหตุทางอากาศ (เฮลิคอปเตอร์) ขาขวาและส้นเท้า ขอไปรักษาต่อที่ รพ.นครนายกหลังปีใหม่ 4.พลทหารพัฒนโชค จินะยะ อายุ 29 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่คอ 5.ส.อ.พันเนตร สายอุราช อายุ 26 ปี โดนสะเก็ดระเบิดปักคาบริเวณทรวงอก 6.พลทหารนรินทร์ เงาไพร อายุ 24 ปี เหยียบทุ่นระเบิด ที่เขาสัตตะโสม พล.ท.วีระยุทธได้กล่าวขอบคุณทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่อันยิ่งใหญ่เพื่อปกป้องประเทศได้อย่างดียิ่ง จะดูแลและส่งตัวรักษาให้ดี รวมถึงทหารที่สูญเสียอวัยวะได้รับพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ให้ดูแลและติดตามอาการอย่างใกล้ชิดและให้ดีที่สุดEOD–ผู้นำหมู่บ้านลุยค้นลูกจรวดที่ จ.บุรีรัมย์ ตำรวจชุด EOD ระดมกำลังเข้าค้นหาลูกจรวด ที่คาดว่าจะตกอยู่ในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านจำนวนมาก โดยเฉพาะเขตพื้นที่ ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด มีทั้งลูกปืน ค. ลูกจรวดหลายลำกล้อง BM-21 มีทั้งที่ระเบิดแล้วและยังไม่ระเบิดจำนวนมาก นายวุฒิไกร ฉิมงาม ผู้ใหญ่บ้าน บ้านสายโท 10 ต.สายตะกู กล่าวว่า จากการค้นหาแค่ครึ่งวันเจอแล้วกว่า 20 ลูก คาดว่าจะมีตกตามไร่นา สวนยางพารา ของชาวบ้านอีกมากเพราะตอนเกิดเหตุปะทะเสียงปืนใหญ่ของเขมรดังทุกวันวันละมากกว่า 50 ลูก ตอนนี้ระดมประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรที่จะออกไปไร่นาตรวจสอบอย่างละเอียด หรือหากพบห้ามเข้าไปใกล้ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่อย่างเร่งด่วน ยอมรับว่าชาวบ้านทั้งดีใจที่ได้กลับบ้าน แต่ก็กังวลว่าจะมีการปะทะกันอีกหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวฝั่งกัมพูชาบินโดรนมาฝั่งไทยที่ จ.สระแก้ว และฝั่งเขมรยังมีการเคลื่อนไหวด้านกำลังทหารพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่วัดหนองแมงดาราษฎร์บำรุง ต.ปากก่อ อ.ชานุมาน จ.อุบลราชธานี เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 30 ธ.ค. มีพิธีพระราชทานเพลิงศพวีรชนผู้กล้า พลทหารทิวตะวัน พลเยี่ยม พลปืนเล็ก สังกัด ร.2 พัน.2 รักษาพระองค์ ผู้ทำหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทยในสมรภูมิบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต มี พล.อ.อัฎฐพล ลัดใหม่กุลวัฒน์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบกเป็นประธานพิธี และมีนายเสนีย์ ส้มเขียวหวาน ผวจ.อำนาจเจริญ นายไพทูรย์ พรมสอน รอง ผวจ.อำนาจเจริญและหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กับชาว จ.อำนาจเจริญ และ จ.ใกล้เคียงมาร่วมพิธีจำนวนมาก ขณะที่นางโสมไสว ดวงมณี แม่ของพลทหารทิวตะวัน กอดเครื่องแบบทหารของลูกชายร่ำไห้ขณะเผาลูก จากนั้นประธานพิธีได้มอบธงชาติคลุมหีบศพ ใบประกาศเกียรติคุณ เหรียญบางระจัน เงินพระราชทาน เงินช่วยเหลือจากกองทัพบก และเงินสินไหมทดแทนจากกองทัพภาคที่ 1 แก่ครอบครัวของพลทหารทิวตะวัน เพื่อเชิดชูเกียรติและตอบแทนความเสียสละของทหารกล้าในครั้งนี้อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่