เพื่อไทยเปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ ชู “ยศชนัน” เป็นเบอร์ 1 ขึ้นเวทีโชว์วิสัยทัศน์ประกาศลั่น ฉุดชาติพ้นวิกฤติ สู่ประเทศรายได้สูงด้วย AI ตั้งเป้าหมายคนไทยได้รับโอกาสที่เท่ากัน มองบวกเป็นลูกหลาน “ชินวัตร” คือข้อได้เปรียบทำงานต่อยอด “จุลพันธ์” จะสร้างพรุ่งนี้ที่ดีกว่า ย้ำสโลแกน “มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี” คนไทยต้องไร้จน “สุริยะ” เชื่อคน พท.ยังมีไฟ-มีฝัน-มีอุดมการณ์ ยันตั้งตัวเลข 200 ที่นั่งไม่เว่อร์เกิน “สมชาย” ปัดบงการลูก แค่สนับสนุนเบื้องหลัง บอกถึงหน้าใหม่แต่ไม่ใช่ผู้ด้อยโอกาส “ศุภมาส” จัดทีมผู้สมัคร กทม.ใกล้ลงล็อก “สุชาติ” โวเปรียบ ภท.เป็นแม่น้ำโขง “ไชยชนก” ปลอบแม่ไม่ต้องคิดมากพรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรม “ยกเครื่องประเทศ ไทย เพื่อไทยทำได้” พร้อมเปิดตัวแคนดิเดต นายก รัฐมนตรีของพรรคทั้ง 3 คน ได้แก่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ โดยให้แต่ละคนขึ้นกล่าวแสดงวิสัยทัศน์นำพาประเทศ“สมชาย” ปัดบงการลูกแค่สนับสนุนเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 ธ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอชื่อนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ บุตรชาย เป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยว่า ขึ้นอยู่กับประชาชน เราได้แต่สนับสนุนไม่ได้เข้าไปเจ้ากี้เจ้าการ หรือครอบงำการทำงาน พ่อแม่จะอยู่เบื้องหลังอะไรที่ช่วยได้ก็ช่วย ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องหรือบงการ เพราะเรื่องนี้ใหญ่กว่าระดับครอบครัว เป็นเรื่องระดับชาติ เมื่อถามว่าในฐานะบิดาและผ่านเรื่องราวหนักหนาสาหัสมาแล้ว ได้พูดคุยกับนายยศชนันอย่างไร นายสมชายตอบว่า ไม่ได้พูด เพราะตนต่อสู้มาตามวิถีทาง เมื่อลูกจะเข้ามาทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ก็ต้องปล่อยให้ต่อสู้เต็มที่พร้อมกับคณะของพรรคเพื่อไทย เมื่อถามว่าวิกฤติประเทศขณะนี้มีหลายด้าน คิดว่านายยศชนันจะผ่านไปได้หรือไม่ถ้าอยู่ในตำแหน่งนายกฯ นายสมชายตอบว่า ก็อยู่ที่ว่าจะได้เป็นหรือไม่ แกนนำและผู้ที่เกี่ยวข้องในพรรคช่วยกันเต็มที่ มั่นใจว่านโยบายของพรรคจับต้องได้ เหมือนที่ประชาชนเคยได้สัมผัส อยู่กับพี่น้องประชาชนด้วยว่าจะสนับสนุนและเลือกหรือไม่ เพราะมีหลายพรรค ตนไม่ใช่ผู้บริหารพรรค แต่ทุ่มเทกำลังใจให้เต็มที่ อยากให้เราได้กลับมาเป็นรัฐบาลถึงหน้าใหม่แต่ไม่ใช่ผู้ด้อยโอกาสเมื่อถามว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่เพราะนายยศชนันถือเป็นหน้าใหม่ทางการเมืองและเกมการเมืองสู้กันดุเดือด นายสมชายตอบว่า หน้าใหม่ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ด้อยโอกาส ด้อยความรู้ ด้อยความสามารถ ต้องเปิดโอกาสให้แสดงอย่างเต็มที่ เพื่อให้เห็นว่าแม้จะเป็นคนหน้าใหม่ แต่หากได้รับการสนับสนุนก็สามารถนำพาพรรคและประเทศ ชาติบ้านเมืองได้ เจ้าตัวต้องไปพิสูจน์และแสดงให้เห็นเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขณะเดินทางมาถึงพรรค ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า แคนดิเดตนายกฯทั้ง 3 คนถือว่าว้าวหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวติดตลกว่า “อดเป็นเลย”“จุลพันธ์” เปิดหัวสานต่อนโยบายต่อมาเวลา 10.30 น. พรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรม “ยกเครื่องประเทศไทย เพื่อไทยทำได้” เพื่อเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย มีแกนนำเข้าร่วมพร้อมเพรียง ทั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ขึ้นกล่าวเปิดตัวเป็นคนแรกว่า เวลาเดือนเศษที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เราทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ยกเครื่องการสื่อสารรวดเร็วฉับไว สื่อสารเชิงรุก ทำงานในสภาเข้มแข็งตรวจสอบจริงจัง 25 ปีที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยไม่เคยละทิ้งประชาชน วันนี้มายืนอยู่ตรงนี้ในฐานะหัวหน้าพรรค เพื่อบอกกับพวกเราทุกคนว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้ว พร้อมจัดการยกเครื่องพรรคสู่ภารกิจที่ใหญ่กว่า คือการยกเครื่องประเทศไทย ต้องการสร้างพรุ่งนี้ที่ดีกว่า โดยการสร้างหลักประกันเงินออม การปลดหนี้ และสร้างรายได้ใหม่ เพราะนิยามประชาชนในสังคมประชาธิปไตย คือ ความมั่นคง อิสรภาพ และโอกาสของประชาชนประกาศ พท.จะทำพรุ่งนี้ที่ดีกว่านายจุลพันธ์กล่าวต่อว่า ตรงกับความคิดของพรรคเพื่อไทย “มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี” ความปรารถนาคือคนไทยต้องไร้จน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงเสนอ 2 นโยบายเร่งด่วนที่สามารถทำได้ทันที นโยบายเร่งด่วนแรก คือ หวยเกษียณ ที่จะทำให้ได้ภายใน 3 เดือนแรกของการเป็นรัฐบาล เปลี่ยนการเสี่ยงโชคสู่หลักประกันเปลี่ยนความหวังระยะสั้นให้เป็นความมั่นคงในระยะยาว และอีกหนึ่งนโยบายเร่งด่วน คือ การล้างหนี้ให้กับประชาชนคนไทย ทั้งกลุ่มหนี้นอกระบบ กลุ่มที่เป็นหนี้เสีย NPL กลุ่มเกษตรกร ผู้สูงอายุวัยเกษียณ เราอยากให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างมั่นคง รวมไปถึงกลุ่มที่เป็นลูกหนี้ดี ตัวเลขทางเศรษฐกิจอย่างเดียวไม่อาจสะท้อนความเดือดร้อน ความเหลื่อมล้ำความลำบากของประชาชน พรรคเพื่อไทยจะทำพรุ่งนี้ที่ดีกว่าให้ ขอย้ำประชาชนต้องมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี นี่คือนิยามของคำว่าประชาชนในระบอบประชาธิปไตย มีแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ทำได้“สุริยะ” ยกผลงานในอดีตขึ้นมาโชว์ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ขึ้นกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า ตอนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาชวนทำงานการเมืองในพรรคไทยรักไทย ไม่คิดเลยตอบรับทันที เพื่อเข้ามาแก้สิ่งที่ติดขัดให้ดี 25 ปีในการทำงานมีจุดแข็งคือเป็นนักทำ อาทิ แปรรูปบริษัท ปตท. รวมถึงเอโอที ทำให้รัฐมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 8.5 แสน ล้านบาท ถ้านำมาแบ่งให้ประชาชนคนไทยที่มี 2 ล้านครอบครัว จะได้ครอบครัวละ 4 หมื่นบาท อีกความภูมิใจ คือ สนามบินสุวรรณภูมิ จบลงได้ตามกรอบเวลาในปี 2549 ตอนที่นายทักษิณเป็นนายกฯ ตนเป็น รมว.คมนาคม ลบคำวิจารณ์ ทำให้ประเทศไทยแข่งขันเป็นศูนย์กลางการบินได้ แต่หลังการรัฐประหารแผนงานที่วางไว้ไม่ได้ดำเนินการ ไม่เช่นนั้นเราคงไม่แพ้ประเทศสิงคโปร์ หรือฮ่องกง ปี 2565 สนามบินสุวรรณภูมิถูกจัดอันดับที่ 77 แต่พอมาเป็น รมว.คมนาคมอีกครั้ง เร่งพัฒนาจนทำให้อันดับดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด ลำดับที่ 38 ในปี 2568เชื่อ พท.ยังมีไฟ–มีฝัน–มีอุดมการณ์นายสุริยะกล่าวว่า ยังมี 2 นโยบายที่จะสานต่อ คือ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ตอนเป็นรองนายกฯและ รมว.คมนาคม จะได้ใช้ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. น่าเสียดายมาถึงตอนนี้ยังไม่ไปไหน ไม่ทราบ รมว.คมนาคมที่มารับหน้าที่ต่อ ทำไมถึงไม่ทำ รับประกันภายใน 3 เดือนถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ประชาชนจะได้ใช้ 20 บาทตลอดสายทันที และจะมีรถเมล์แอร์ 10 บาทเป็นเส้นเลือดฝอยส่งคนไปที่รถไฟฟ้า อีกนโยบายคือบ้านเพื่อคนไทย เริ่มเดินแล้ว มี 4 โครงการนำร่อง โครงการนี้ทำให้คนไทยสร้างอนาคตของตัวเองได้จริง หลายคนบอกว่าเราไม่สามารถกลับมาที่จุดเดิมได้อีก เชื่อว่าคนที่นี่ไม่คิดแบบนั้น เรายังมีไฟ มีฝัน มีอุดมการณ์เดียวกัน อยากไปทำงานไปทำนโยบายที่ดีให้ประชาชน พรรคเพื่อไทยเต็มเปี่ยมไปด้วยคนที่มีประสบการณ์ และคนรุ่นใหม่ที่สร้างสรรค์ ทำงานเป็นทีมเดียวกัน และด้วยความเชื่อมั่นวันนี้ขอสานงานที่รับผิดชอบ งานที่ใหญ่ที่สุดในฐานะแคนดิเดตนายกฯ“ยศชนัน” ลั่นฉุดประเทศพ้นวิกฤติจากนั้นนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า พรรคไทยรักไทยในอดีตสร้างนโยบายเปลี่ยนชีวิตประชาชน ปลดวิกฤติให้ประเทศ แต่ตลอดเส้นทางเผชิญความไม่เป็นธรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนถึงปัจจุบันปี 2568 ประเทศไทยเผชิญ Perfect Storm ทั้งเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี นายกฯจากพรรคเพื่อไทยแก้ปัญหาเหล่านี้เต็มที่ แต่สถานการณ์การเมืองไทยทำให้ต้องเปลี่ยนนายกฯ ปีละครั้ง ส่วนทิศทางอนาคตประเทศไทย ถ้าวันนี้เราเลือกทำสิ่งใหม่ ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ โครงสร้างเทคโนโลยี ใช้ความคิดสร้างสรรค์คนไทย เชื่อว่าอนาคตที่ดีของประเทศไทยเป็นไปได้ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ จะนำประเทศไทยพ้นวิกฤติไปให้ได้ มีเป้าหมายยกระดับประเทศไทยสู่ประเทศรายได้สูงให้เร็วที่สุด ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ AI เป็นแกนหลัก ผ่านยุทธศาสตร์สำคัญได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพเศรษฐกิจเดิมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ในส่วนภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรมการผลิต ภาคการบริการ พร้อมไปกับการสร้างเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่จากศักยภาพท้องถิ่นผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยตั้งเป้าให้คนไทยได้รับโอกาสเท่ากันนายยศชนันกล่าวว่า บทบาทภาครัฐก็ต้องปรับตัว เพื่อรองรับเศรษฐกิจมูลค่าสูง รัฐบาลต้องเดินหน้า 3 ด้าน คือ 1.สร้างความมั่นคงรอบด้าน ทั้งการทหาร ความมั่นคงไซเบอร์ ความมั่นคงด้านอาหาร พลังงาน และรับมือ Climate Change ควบคู่การทูตที่รักษาสมดุลผลประโยชน์ของไทย 2.สร้างความเชื่อมั่นผ่านการฟื้นฟูหลักนิติธรรม คืนความยุติธรรมให้ประชาชน ใช้ Digital Government สร้างความโปร่งใส ป้องกันการคอร์รัปชัน ควบคู่ไปกับ AI Transformation สร้างระบบรัฐแบบ One Stop Service 3.วางรากฐานโครงสร้างพื้นฐาน สมัยใหม่ ตั้งแต่คมนาคม โลจิสติกส์ ความปลอดภัยด้วย AI โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล พลังงานสะอาด สวัสดิการ การศึกษา วิจัย และนวัตกรรม รองรับเศรษฐกิจใหม่และยกระดับเศรษฐกิจเดิม ให้ความ สำคัญการเตรียมคนให้สอดรับ คนไทยทุกคนต้องได้รับโอกาสเติบโตที่เท่ากัน จะเกิดที่ไหนในแผ่นดินไทยก็เป็นคนไทย ไม่ได้ทำเพื่อพรรคการเมืองใด แต่ทำเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง มีหัวใจอยู่ที่ประชาชน การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่การเดินทางของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นการเดินทางให้เรากลับมาช่วยสร้างประเทศขึ้นใหม่อีกครั้ง วันนี้ทุกคนจากพรรคไทยรักไทยที่ไม่ได้รับความยุติธรรม ทุกคนกลับมาที่บ้านของพวกเรา บวกกับคนรุ่นใหม่มารวมกัน มั่นใจว่าเราทำได้ เริ่มจากวันนี้ เวลานี้ วินาทีนี้ ยกเครื่องประเทศไทย ถ้าเพื่อไทยทำได้ ประเทศไทยก็ทำได้แน่นอนชู “ยศชนัน” แคนดิเดตนายกฯเบอร์ 1ทั้งนี้ในช่วงตอบคำถามผู้สื่อข่าว นายจุลพันธ์ ชี้แจงลำดับแคนดิเดตนายกฯของพรรคว่า วันนี้เรา ต้องการคนมาเป็นนายกฯนำพาประเทศไทยพ้นจากความขัดแย้ง ก้าวไปสู่เศรษฐกิจที่จะนำเทคโนโลยี AI เข้ามา บุคคลที่เหมาะสมคือนายยศชนัน อีก 2 คน ไม่ได้เรียงลำดับ แต่พร้อมทำงานกรณีที่มีความจำเป็น ดังนั้นทั้ง 3 คนที่นั่งอยู่ตรงนี้มีความพร้อม มีคุณสมบัติครบถ้วน และมีศักยภาพเพียงพอทำงานให้กับประเทศ เมื่อถามว่าเวลา 2 เดือน เพียงพอหรือไม่ที่จะดึงกระแสพรรคกลับมา นายจุลพันธ์ตอบว่า เราไม่ได้เริ่มแค่ 2 เดือน เราเดินหน้ามาระยะหนึ่งแล้ว ที่ผ่านมาผลงานยังประทับอยู่ในความทรงจำของประชาชน สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ใช้เวลาเพียง 40 กว่าวัน เราสามารถขับเคลื่อนจนประสบชัยชนะอย่างถล่มทลายได้ เชื่อมั่นว่าการทำงานของแคนดิเดตทั้ง 3 คน จะเดินสู่ชัยชนะได้ ครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่เรายืนกันอย่างเหนียวแน่นเป็นลูกหลาน “ชินวัตร” ข้อได้เปรียบผู้สื่อข่าวถามนายยศชนันว่าถือเป็นหน้าใหม่ มั่นใจในตัวเองและนโยบายหรือไม่ว่าจะเรียกกระแสนิยมได้ นายยศชนันตอบว่า ประชาชนอาจยังไม่รู้จักตนดี แต่หากได้สัมผัสและพูดคุยกัน และเราเอาสิ่งที่เขาต้องการใส่ไปในนโยบาย เชื่อว่าจะชนะใจประชาชน เมื่อถามว่าสังคมตั้งคำถามว่าอย่างไรก็ไม่พ้นตระกูลชินวัตร แม้จะเป็นตระกูลวงศ์สวัสดิ์ แต่ก็เป็นหลาน นายยศชนันตอบว่า คิดว่าเป็นเรื่องได้เปรียบ การที่เรามุ่งมั่นที่จะทำบางอย่างให้กับคนไทย หากเราได้รับโอกาสที่ดีกว่าคนอื่นทำไมเราจะไม่รับ เราอาจเป็นคนตัวเล็กๆบนมือของยักษ์ใจดีคนหนึ่ง ที่ผสมระหว่างคนรุ่นเก่ากับใหม่ มองเห็นได้ไกลขึ้น เรื่องนี้คิดว่าเป็นจุดเด่น ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เมื่อถามย้ำว่าหากได้รับตำแหน่งนายกฯ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ มารดา จะไม่เข้ามามีส่วนในการตัดสินใจหรือไม่ นายยศชนันตอบว่า เราพยายามนำเสนอเรื่องวิสัยทัศน์ ค่อนข้างชัดเจนว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปในโลกนี้ เราต้องเดินไปข้างหน้า เพราะไม่มีใครเป็นเจ้าของประเทศ เราจำเป็นต้องเป็นรัฐบาล และมั่นใจว่าเราสามารถตัดสินใจเองได้ ร่วมกับกรรมการบริหารพรรค“สุริยะ” มั่นใจตัวเลข 200 ไม่เว่อร์เกินนายสุริยะกล่าวเสริมถึงเป้าหมายจำนวน สส. 200 ที่นั่งว่า ทราบกันนานแล้วว่าจะมีการย้ายพรรค ดู สส.ปัจจุบันที่ไปรวมกันที่พรรคภูมิใจไทย ประมาณ 130 คน เลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้ 141 คน ไหลออกไปประมาณ 10 กว่าคน แต่เชื่อมั่นว่าที่ตั้งเป้าหมายว่า 200 คน ไม่ใช่ตั้งโดยไม่มียุทธศาสตร์ เลือกตั้งครั้งที่แล้วเราได้มา 141 คน ความจริงเราต้องใกล้เคียง 200 คน แต่เมื่อทำโพลทุกคนมั่นใจ ตัวผู้สมัครจึงหยุดทำงาน ไม่ได้ลงพื้นที่เพราะประมาท ครั้งนี้เราเรียนรู้เรื่องการใช้โซเชียลมีเดีย และกำชับการลงพื้นที่ มั่นใจว่าไปถึง 200 หรือบวกลบอย่างมากไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ และในอดีต สส.ที่ย้ายออกจากเพื่อไทยก็สอบตกหลายคนภท.เมืองกรุงจัดผู้สมัครใกล้ลงล็อกที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศุภมาส อิรภักดี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เหรัญญิกและแกนนำ กทม. พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงความพร้อมการคัดเลือกส่งผู้สมัคร สส.กทม.ว่า หารือกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ แล้ว ขณะนี้มีผู้สมัครมากกว่าจำนวนเขตทั้ง 33 เขตใน กทม. คัดเลือกแล้วประมาณ 70% คาดว่า 1-2 วันนี้ จะได้ผู้สมัครเกือบครบ 33 เขต เมื่อถามว่าวางเป้า สส.กทม.กี่เก้าอี้ น.ส.ศุภมาสตอบว่า ยังไม่ได้ดูเรื่องตัวเลข แต่เมื่อทุกคนลงเลือกตั้งแล้วแพ้ไม่ได้ ขณะนี้ยังไม่นิ่ง เมื่อถามถึงกระแสชาตินิยมส่งผลในพื้นที่ กทม.หรือไม่ น.ส.ศุภมาสตอบว่า เราไม่ได้คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกระแสบวกหรือลบ ทุกอย่างทำด้วยความจริงใจ และอยากแก้ไขปัญหา เพราะจังหวัดแถบชายแดนเป็นพื้นที่ของพรรค ภท.เกือบทั้งหมด เมื่อถามว่าแคนดิเดตนายกฯพรรค ภท. ยังเป็นไปตามข่าวหรือไม่ น.ส.ศุภมาสตอบว่า 1-2 วันนี้น่าจะเห็นความชัดเจนแล้ว ขอให้ทางผู้ใหญ่ของพรรคเป็นคนตอบ“สุชาติ” โวเปรียบ ภท.เป็นแม่น้ำโขงนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความพร้อมในการจัดวางตัวผู้สมัคร สส.ว่า จังหวัดที่รับผิดชอบเป็นหลักคือ ชลบุรี และบางเขตใน จ.จันทบุรี ตราด รวมแล้วดูแลเกือบ 20 เขต การบริหารจัดการของพรรคแบ่งตามความถนัด ในโซนภาคตะวันตก มีแกนนำพรรคหลายคนดูแล มาผสมผสานรวมกันเหมือนจิ๊กซอว์ ไม่มองว่าใครเป็นก๊วนใคร แต่ทำอย่างไรให้สัมฤทธิผลมากที่สุด ตามเป้าหมายที่หวังไว้ เมื่อถามว่ามีโอกาสลุ้นถึง 200 ที่นั่งหรือไม่ นายสุชาติตอบว่า ทุกพรรคอยากมีตัวเลขนี้ทุกคน เมื่อถามว่าประเมินหรือไม่ว่าหลังการเลือกตั้งพรรคภูมิใจไทยจะได้ สส.มากกว่า 150 ที่นั่ง นายสุชาติตอบว่า คาดหวังประมาณนั้นอยู่แล้ว เพราะแม่น้ำสายเล็กสายน้อยมารวมกัน มันเป็นแม่น้ำโขง“ไชยชนก” ปลอบแม่ไม่ต้องคิดมากขณะที่นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จากกรณีนางกรุณา ชิดชอบ มารดา นำทะเบียนราษฎรของบุคคลอื่นมาโพสต์เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ว่า กรณีดังกล่าวถ้าไม่ใช่เกมการเมือง ก็เห็นใจผู้ร้องเรียนที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ผอ.สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ชี้แจงข้อกฎหมายแล้ว ไม่เข้าข่าย PDPA ยืนยันว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย แม้จะยืนเคียงข้างแม่ แต่ไม่มีทางเข้าข้าง ถ้าเป็นเรื่องกระทำผิดกฎหมาย ไม่กังวลที่มีการแจ้งความ สุดท้ายแล้วหากเป็นเกมการเมืองก็คงได้รับกรรมอยู่ดี เรื่องสแกมเมอร์ดำเนินการแล้วไม่มีทางหยุด ได้คุยกับแม่แล้วก็เป็นห่วงและรู้สึกผิด แต่บอกกับแม่ว่าไม่ต้องคิดมากกธ.คึกคักรับก๊วน “เฉลิมชัย–ยศสิงห์”ที่พรรคกล้าธรรม (กธ.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ หัวหน้าพรรค กธ. ต้อนรับอดีต สส.กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย ของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค กธ. ได้แก่ นายประมวล วงศ์ถาวรเดช อดีตสส.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ อดีตสส.สงขลา นายยูนัยดี วาบา อดีต สส.ปัตตานี นายวุฒิพงษ์ นามบุตร อดีต สส.อุบลราชธานี ว่าที่ ร.ท.ยุทธการ รัตนมาศ อดีต สส.นครศรีธรรมราช น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต สส.พัทลุง นายชาตรี หล้าพรหม อดีต สส.สกลนคร น.ส.เจนจิรา รัตนเพียร อดีตโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ อดีตสส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ นายฐิตินัย ตั้งบูรพากิจ สจ.ประจวบคีรีขันธ์ นายจักรพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ อดีต สส.ประจวบคีรีขันธ์ รวมถึง จ.อ.ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.อุตสาหกรรม มีนางนฤมลเป็นผู้สวมเสื้อแจ็กเกต บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักขอบคุณนายกฯดัน Cash Rebateช่วงสายที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุภาพ คลี่ขจาย นายกสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) นายเขมทัตต์ พลเดช นายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ผู้บริหาร ศิลปิน นักร้อง และนักแสดง เข้าขอบคุณนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สำหรับการสนับสนุนมาตรการ Cash Rebate ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ พร้อมมอบกระเช้าดอกไม้และร่วมถ่ายภาพกับนายกฯ ต่อมานางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะเข้าพบนายกฯ เพื่อประชาสัมพันธ์สลากการกุศลบำรุงสภากาชาดไทย ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ ร่วมออกร้านในงานกาชาด ประจำปี 2568 เพื่อแสดงความอาลัยและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย โดยนายกฯร่วมอุดหนุนสลากบำรุงสภากาชาดไทย จำนวน 1 เล่ม รวม 10,000 บาทอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่