ชุมนุม “บ้านใหญ่”...เดินเรียงหน้าเข้าพรรค “ภูมิใจไทย” คึกคักไม่ว่าจะเป็นก๊วน “สุชาติ ชมกลิ่น”-“ศิลปอาชา”-“เอกนัฐ พร้อมพันธุ์” อันเป็นสัญญาณบอกว่าต้องการให้พรรคนี้ใหญ่ได้ สส. ตามเป้า “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรค ที่ประกาศ “ยุบสภา” เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง โดยมีพลพรรคระดับแกนการเมืองใหญ่มาร่วมทีม ก็คงหวังว่าจะได้ไปต่อนายกรัฐมนตรีอีก 4 ปีถามว่าทำไมต้องไปรวมกันอย่างนี้ คำตอบง่ายๆเป็นพรรคเล็กไม่มีทางไปไกลกว่านี้ได้ เป็นรัฐมนตรีได้ไม่กี่คนแล้วแต่เขาจะจัดให้ เลือกก็ไม่ได้“ชาติไทยพัฒนา” มี สส. 10 คน ก็ได้ 1 ตำแหน่งเท่านั้นบรรดาลูกพรรคจึงเป็นได้เพียงแค่ยกมือสนับสนุนการมารวมเป็นพรรคใหญ่พรรคเดียวโอกาสจึงมีมากกว่า และค่าใช้จ่ายก็ไม่ต้องควักเพียงคนเดียวเพราะพรรคใหญ่กระสุนพร้อมอยู่แล้วตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ต้องลงทุนมากหน่อยการเมืองมันมีที่มาที่ไปทุกอย่างไม่ใช่เรื่องโดดๆ แต่สัมพันธ์กันหมดทุกอย่างการเลือกตั้งครั้งนี้คงต่อสู้กันอย่างเต็มที่ มีเท่าไรต้องควักออกมาให้หมด มิฉะนั้นแพ้ได้ ยิ่ง “ภูมิใจไทย” มีคดีค้างเก่าอยู่หลายเรื่องหากไม่ได้เป็นแกนนำรัฐบาลมีหวังโดนสอยแน่ดีที่ “อนุทิน” ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จึงได้เป็นแกนตั้งรัฐบาล แม้จะเสียงข้างน้อยแต่ก็มีอำนาจอยู่ในมือครบเครื่องเขากระโดง-ฮั้ว สว. ที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มถูกเสกให้จบลงไปอย่างไร้ร่องรอย!การเมืองมันทำได้ทุกอย่างขอให้มีอำนาจเถอะ...เครือข่ายการเมืองที่เข้ามาอยู่ในชายคา “ภูมิใจไทย” ล้วนมี “ของ” กันทั้งนั้น อย่าง “ชาติไทยพัฒนา” อย่างน้อย มีแน่ๆ แล้ว 10 เสียงหากต้านพลังจากพรรคประชาชนได้ก็จะมีเพิ่มอีกหลายเสียงที่เมืองชลก็ไม่ต่างกัน หากปราบพรรคประชาชนได้ก็หายห่วง ยิ่ง “สุชาติ” จับมือกับ “สนธยา” รวมหัวกันสู้มีแต่ชนะมากชนะน้อยเท่านั้น!หรือ “เอกนัฐ” ที่นำบ้านใหญ่ สุราษฎร์ พิษณุโลก แพร่ และจะปักหมุด กทม. ก็มีโอกาสทั้งนั้น เพราะครบเครื่องกว่าเก๋ากว่าสนามกรุงเทพฯ ปาร์ตี้ลิสต์คือตัวแปรสำคัญในฐานะนายกรัฐมนตรีและมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น บวกกับ “คนนอก” อย่าง “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ-ศุภจี สุธรรมพันธุ์” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคสามารถขายคนเมืองหลวงได้ด้วยองค์ประกอบต่างๆเหล่านี้ ทำให้ “ภูมิใจไทย” ชนะ “ประชาชน” ได้อย่างแน่นอนยิ่งต้อง 250 เสียง เพื่อเป็นรัฐบาลพรรคเดียวยิ่งยากคราวที่แล้วได้เพียงแค่ 150 กว่าเสียง เป็นพรรคอันดับ 1แต่ครั้งต่อไปที่สถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไป หัวหน้าพรรคก็เปลี่ยนคนและไม่มีผลงานอะไรที่โดดเด่นจึงไม่มีทางที่จะได้ถึง 250 เสียงแน่!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม