รายงานผลการศึกษาจาก ธนาคาร UOB ในสิงคโปร์ ระบุว่า เวียดนาม ยังคงเป็น ผู้นำกลุ่มประเทศอาเซียนในด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจเป็นไปในเชิงบวกและความเชื่อมั่นในการเงินส่วนบุคคล ทั้งนี้ เวียดนามทำคะแนนสูงสุด ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอาเซียนของ UOB ที่ 67 คะแนน สูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 54 คะแนน ผู้บริโภคเวียดนามแสดงความเชื่อมั่นสูงสุด ในเสถียรภาพทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมของประเทศ แม้จะเผชิญกับผลกระทบจากสงครามการค้าในรอบนี้ รากฐานที่แข็งแกร่งและทิศทางของนโยบายที่มีประสิทธิภาพ ขับเคลื่อนการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นและการให้ความสำคัญกับการวางแผนทางการเงินยิ่งขึ้นตัดภาพมาที่ ประเทศไทย เวลานี้ แทบจะตรงกันข้ามกับปัจจัยการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของ เวียดนาม ในทุกมิติ ความเชื่อมั่นจากสถาบันจัดอันดับต่างประเทศ อยู่ในช่วงขาลง เมื่อเทียบกับประเทศในอาเซียนด้วยกัน กำลังซื้อลดลง หนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นทุกปีถ้าจะฟันธงกันแบบตรงไปตรงมา เกิดจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ ทั้งสิ้น ความไม่เชื่อมั่นจากปัญหาสแกมเมอร์ อาชญากรรมออนไลน์ จากความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง เปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนายกฯเป็นว่าเล่น ความไม่เชื่อมั่นในนโยบายและกระบวนการยุติธรรม ความไม่เชื่อมั่นจากการทุจริตคอร์รัปชันที่สำคัญที่สุด ความไม่เชื่อมั่นในตัวผู้นำ ผู้บริหาร และผู้มีอำนาจในการบังคับบัญชาการลงจากตำแหน่งของ ผู้นำประเทศ แต่ละครั้ง เกิดจากความผิดด้านจริยธรรมร้ายแรง ข้อกล่าวหาการเข้าไปพัวพันกับ ธุรกิจสีเทา ของคนในแวดวงการเมืองหรือฝ่ายบริหารล้วนแต่เป็นเรื่องระดับชาติ การกำหนดนโยบายนำไปสู่ความล้มเหลวในการกำหนดความยั่งยืนในอนาคตและเปิดช่องทางให้เกิดการทุจริต ใช้ประโยชน์จากนโยบายในการทุจริตหรือแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กลายเป็นกับดักประเทศไทยความไม่เป็นอิสระในการบริหารราชการแผ่นดิน ยกตัวอย่าง รมว.คลัง เสนอแผนการเงินการคลังของประเทศในระยะยาวเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจประเทศถูกลดความน่าเชื่อถือและติดกับดักงบประมาณแบบขาดดุล ส่งผลให้หนี้สาธารณะพุ่งจนเกือบทะลุเพดานด้วยการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 8.5% แต่นายกฯ กลับไม่เห็นด้วย ประกาศจะไม่มีการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มทันทีทันใด หรือนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแบบผักชีโรยหน้า เอะอะก็คนละครึ่ง เอะอะก็แจกเงินเยียวยา เป็นยาสามัญประจำบ้าน ไม่ได้มองถึงผลกระทบและปัญหาในระยะยาว ไม่สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจจากภายในสู่ภายนอก จะปั้นประเทศไทยเป็นครัวเป็นแหล่งอาหารของโลกแต่เกษตรกรยังโง่ จน เจ็บ เอาหลังสู้ฟ้าเอาหน้าสู้ดินต้องพลิกชีวิตไปเป็นสแกมเมอร์กลัวว่าการแก้ปัญหาจะกระทบกับประชานิยมจนกลายเป็นดินพอกหางหมู แกะไม่ออก.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม