ออกจากจุดสตาร์ตอย่างเป็นทางการ หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ก็เป็นอันว่าเสร็จสิ้นกระบวนการขั้นตอนเข้าสู่อำนาจของ “รัฐบาลเฉพาะกิจ” ในห้วงเฉพาะกาล ได้เวลา “นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล” เป็น “หนูถีบจักร” ปั่นโจทย์ประเทศ ไม่มีเวลาฮันนีมูน จิบกาแฟละเลียดเค้กส้มชิลๆ อีกแล้วเพราะภารกิจที่ตั้งไว้ แก้ 4 ภัยใน 4 เดือน แก้เศรษฐกิจปากท้อง ความมั่นคง ภัยธรรมชาติ ภัยสังคมและยาเสพติด ในคำแถลงเป็น “คัมภีร์สีน้ำเงิน” บิดพลิ้วไม่ได้โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ในเวทีแถลงนโยบายก็โชว์ให้เห็นความพร้อม ตามเป้าหมาย “ควิก–บิ๊ก–วิน” ทีมเศรษฐกิจนำโดย “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” รองนายกฯและ รมว.คลัง ฉายพิมพ์เขียวชัด “กระตุ้นสั้น ได้ผลยาว กระจายตัว”จัดด่วนด่วนจัด กระชากเครื่องยนต์เศรษฐกิจจาก “หลุมหล่ม”แม้ที่เปิดมาแค่แผนระยะสั้นเฉพาะหน้า จนโดนมองว่าแค่หาเสียงหาแต้มทางการเมือง อาจยังไม่พอกับสถานการณ์เศรษฐกิจเข้าขั้นใกล้โคม่า จะต้องผ่าตัดใหญ่ แต่ก็ดีกว่าปล่อยวิกฤติถึงขั้นเครื่องสูบดับขณะที่ในโจทย์ความมั่นคง ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่แม้รัฐบาลจะเปิดทาง ปล่อยให้ “ทหารนำ การเมืองตาม”แต่อีกทางก็ใช่ว่าจะลอยตัวทั้งหมดโดยเฉพาะล่าสุด สส.มือขุดจากพรรคสีส้ม เปิดปมร้อน เรียบเรียงข้อมูลคุ้ยโยงขบวนการอาชญากรไซเบอร์ แก๊งสแกมเมอร์ หลอกลวงออนไลน์ มิจฉาชีพไซเบอร์ระดับชาติ เครือข่ายท่อน้ำเลี้ยงบิ๊กๆเขมรหนำซ้ำมีการเปิดข้อมูล มีนายหน้าดีลเมกเกอร์จอมฉ้อฉล เดินเกมซับซ้อนทางธุรกิจ ตลาดเงินตลาดหุ้น มีแผนฮุบบริษัทน้ำมันในไทย ยึดขุมทรัพย์พลังงานเขตแดนทางทะเล ข้อมูลลึกโยงลากถึงตัวใหญ่ อดีตบิ๊ก 2 ประเทศ แถมพาดพิงมือบริหารธุรกิจ วาณิชธนกิจ นักการเมืองไทย รัฐมนตรี–อดีตรัฐมนตรีเรื่องใหญ่มากชนิด “อนุทิน” ต้องเคลียร์ เพราะหากพลิ้วแก้โจทย์นี้ ก็คงเกี่ยวกระแสความมั่นคงไม่ติดโหนชาตินิยมยังไงก็ไม่เนียนนอกจากนี้ อีกโจทย์ปมชนักปักหลังที่ “อนุทิน” ต้องเหนื่อยหนักตอบคำถามอีกยาว ทั้งปม “เขากระโดง-ฮั้ว สว.” แม้ที่ผ่านมาก็ยืนยันจนน้ำลายเหนียว “ไม่แทรกแซงกระบวนการ ยุติธรรม”แต่คำว่า “ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก” ถึงเวลาค่ายเขี้ยวคมก็มี ช่อง อย่างที่เริ่มมีกระแสข่าวหนาหูอาจมีรายการเคลียร์คัต “ตัดตอน” ตัวใหญ่ๆสะอาดเอี่ยมหมดจดนั่นก็ไม่ต่างจาก สัญญา MOA ที่ทำไว้กับค่ายประชาชน “นายกฯหนู” คงต้องย้ำคำ ยืนยันตลอดทุกยกสำหรับข้อแม้เงื่อนไข “รัฐบาล 4 เดือน” ก็ทำไม่ยาก เรื่องไม่เติม สส. พลิกรัฐบาลเป็นเสียงข้างมาก ก็มีเหตุผลอ้างได้เรื่อง สส.แห่ไหลเข้าภูมิใจไทย เป็นแผนการเมืองเลือกตั้ง รอบหน้าที่เห็น สส.แห่ไหลเข้าค่ายภูมิใจไทย “หนูเปล่านะ เค้ามาเอง”แต่ที่ค่ายส้มยังระแวงหนักในคำมั่นสัญญา จนต้องทวงบ่อยครั้ง คิวไขกุญแจเปิดประตูแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซักหลายรอบจนผู้นำสีน้ำเงินชักออกลูกอ้อมแอ้ม ไม่ยอมถูก “มัดคอ”โดยเฉพาะที่ถูกเรียกร้องให้ออกแรงไปโน้มน้าวบรรดา สว.ให้ไฟเขียวคิวแก้ไขรัฐธรรมนูญงานนี้ผู้นำสีน้ำเงินเริ่มพลิ้ว อ้าง “แทรกแซง สว.” ไม่ได้ทั้งที่มองจากดาวอังคารก็เห็นเด่นชัด สว.ติดสีอะไรแถมช็อตบล็อกเกมซ้ำ กับการที่รัฐบาลแทรกคิวพ่วง เปิดทำประชามติเลิก–ไม่เลิกเอ็มโอยูกับกัมพูชา ในการเลือกตั้งรอบหน้าไปด้วยโหมคลื่นชาตินิยมกระหึ่ม เบียดกระแสร้อนแก้รัฐธรรมนูญเหตุเพราะอ่านทาง สัญญาณหน่วยเหนือค่อนข้างชัด และเป็นจุดยืนค่ายภูมิใจไทยมาแต่ไหนแต่ไรขึงขังไม่เอาด้วยกับการรื้อโละรัฐธรรมนูญมาตลอดฉะนั้น ก็ต้องจับตา ตลอดอายุรัฐบาลคงต้องโดนทวงถาม เงื่อนไขสัญญาใจ MOA เป็นข้อแม้มัดคอผู้นำจะเบี้ยวยังไงให้หล่อหรู ไม่โดนชาวบ้านหั่นแต้มนิยม.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม