หยุดยิง...พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีกลาโหมตัวแทนไทยได้ลงนามเรียบร้อยแล้วโดยมีเวลาเฝ้าระวัง 72 ชั่วโมงหากกัมพูชาไม่ละเมิดข้อตกลงก็จะปล่อย 18 เชลยทันทีนี่เป็นปฐมบทใหม่ระหว่างไทย-กัมพูชา หลังจากปะทะกันอย่างหนักมาเกือบ 20 วัน ต่างฝ่ายต่างก็สูญเสียด้วยกันทั้งคู่แต่ของไทยเหนือกว่าคือสามารถยึดคืนพื้นที่ที่กัมพูชารุกล้ำไปเกือบทั้งหมดอันนี้ก็เป็นนิมิตที่ดีก่อนถึงวันปีใหม่ที่สำคัญก็คือประชาชนคนไทยที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนที่ปะทะจะได้สบายใจขึ้น เพราะไม่ต้องระแวดระวังความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินเพราะมันคือความทุกข์ที่ใครไม่ได้อยู่ตรงนั้นก็ไม่รู้แน่นอนว่าการตกลงหยุดยิงครั้งนี้จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม แต่ความจริงย่อมหนีความจริงไม่พ้นคือ กัมพูชาต้องจำนนและไม่ต้องการสู้รบต่อเพราะแค่นี้ก็แย่แล้ว!ยิ่งสู้กันต่อไปก็ยิ่งสูญเสียเพิ่มมากขึ้นและไม่ได้อะไรขึ้นมาก็ต้องดูว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตามสัญญาหรือไม่ เพราะเชื่อไม่ค่อยได้เนื่องจากความเจ้าเล่ห์เพทุบายจนไม่มีเครดิตแล้วนอกจากไทยแล้วประเทศต่างๆที่เอาใจช่วยให้ทั้ง 2 ฝ่ายยุติความขัดแย้งหันหน้าเข้าหากันเพื่อสันติสุขคงพอใจไม่น้อย!นอกจากอาเซียนแล้ว จีน-สหรัฐฯก็คงไม่ต่างกันที่ต้องดูต่อไปก็คือ กัมพูชาจะปฏิบัติตามปฏิญญา 4 ข้อหยุดยิงหรือไม่ก็ไม่มีอะไรหากกัมพูชาไม่เบี้ยวก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี นอกจากทั้ง 2 ประเทศแล้วอาเซียนก็พลอยดีไปด้วยนั่นคือเป็น “เอกภาพ” ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งว่าไปแล้วหากกัมพูชาไม่รุกรานไทยก่อนก็ไม่มีปัญหา แต่จากนี้ไปยังสร้างปัญหาอีกไทยก็ต้องปฏิบัติการทุกอย่างให้เข้มข้นมากขึ้น!เพราะนี่คือมาตรการที่จะทำให้ทุกอย่างสงบลงได้ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะต้องเป็นฝ่ายติดต่อมายังประเทศไทยคือพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีไทยจะพูดอะไรว่าอะไรเริ่มต้นก็คือ การแสดงความรับผิดชอบ และขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อนเช่นกันไทยก็คงหยุดไม่ได้ ในเรื่องสแกมเมอร์ซึ่งเป็นปัญหาระดับโลกไม่ใช่ของประเทศใดประเทศหนึ่งเนื่องจากได้รับความเดือดร้อนกันทั้งหมดที่สำคัญคือทุกอย่างจะต้องยุติและจบกันเสียทีเพราะถ้ายังมีการดำเนินการต่อปัญหามันก็ไม่จบ และสร้างความขัดแย้งขึ้นมาอีก ไทยจะต้องร่วมมือกับนานาชาติเอาจริงเอาจังปล่อยครึ่งๆกลางๆอย่างนี้ไม่ได้ถ้าปัญหาชายแดนสงบ การเลือกตั้งของประเทศไทยก็ดำเนินการต่อไปอย่างราบรื่น ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ รัฐบาลชุดใหม่หวังว่าปี 2569 จะเป็นปีทองของไทยสักที!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม