วันนี้เข้าสู่วันที่ 2 ของ “สัญญาสงบศึกชั่วคราว 72 ชั่วโมง” ซึ่งจะครบ 72 ชั่วโมงเที่ยงวันพรุ่งนี้ 30 ธ.ค. หลังจากที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีกลาโหมไทย และ พล.อ.เตีย เซียฮา รองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา ได้ลงนามร่วมใน “ถ้อยแถลงร่วม Joint Statement” ซึ่งเป็น “สัญญาสงบศึกชั่วคราว” ก่อนเที่ยงวันที่ 27 ธ.ค. โดยให้ทหารสองฝ่ายยุติการสู้รบทันที ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 27 ธ.ค. รายงานจากกองทัพภาคที่ 1 ระบุว่า แนวรบสุดท้ายบ้านหนองจานไม่มีเสียงปืนปะทะแล้วตลอดคืนวันที่ 26 ต่อเนื่องวันที่ 27 เพจ Army Military Force รายงานว่า มีการรบกันดุเดือดมาก ช่วงเย็นกัมพูชายิงจรวด BM-21 ถล่มพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้ทหารไทยเสียชีวิตอีก 3 นาย บาดเจ็บกว่าสิบนาย เครื่องบิน F–16 ได้ออกบินปฏิบัติการทิ้งระเบิดทำลายเป้าหมายตลอดทั้งคืนวันที่ 26 จนถึงเช้าวันที่ 27 ได้ทิ้งระเบิดถล่มคลังอาวุธเขมรในเขตพื้นที่ทหารพงโร-ก็องวา เมืองศิริโสภณ จ.บันเตียเมียนเจย สองฝ่ายดวลปืนใหญ่กันต่อเนื่องใน 20 นาทีสุดท้ายจนถึงเวลา 11.48 น. ก่อนจะหยุดยิงอย่างสิ้นเชิงเวลา 12.00 น. ทหารไทยสามารถยึดคืน 3 พื้นที่สำคัญของไทยกลับมาได้สำเร็จคือ บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา บ้านหนองหญ้าแก้ว บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ที่รบกันดุเดือดมากใน “แถลงการณ์ร่วม” ที่ไทยและเขมรได้แก้ไขรายล0ะเอียดถึง 6 ครั้ง ระบุชัดเจนว่า สองฝ่ายจะหยุดยิงทันทีหลังจากลงนามร่วมในแถลงการณ์ฉบับนี้ ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 27 ธันวาคม 2568 ครอบคลุมอาวุธทุกประเภท รวมถึงการโจมตีพลเรือน วัตถุพลเรือน และโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนเป้าหมายทางทหารฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในทุกกรณีและทุกพื้นที่ ทั้งสองฝ่ายต้องหลีกเลี่ยงการยิงหรือการรุกคืบหรือการเคลื่อนกำลังทหารไปยังตำแหน่งหรือกองกำลังของอีกฝ่าย โดยไม่มีการยั่วยุ ข้อตกลงนี้จะต้องไม่ถูกละเมิดไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสองฝ่ายจะคงกำลังทหารที่ประจำการ ณ ปัจจุบันโดยไม่มีการเคลื่อนย้ายเพิ่มเติมผมขอสดุดีทหารกล้ากองทัพไทย ที่พลีชีพเพื่อชาติสู้รบกับทหารเขมรเพื่อปกป้องและยึดคืนผืนแผ่นดินไทยมาได้เกือบครบ พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า กองทัพไทยปฏิบัติภารกิจสำเร็จตามเป้าหมายแล้ว 99% เหลือเพียงบางส่วนที่ยังต้องจัดวางกำลังเพิ่มเติม การเข้ายึดพื้นที่คืนว่ายากแล้ว การรักษาพื้นที่ยากกว่า แต่กองทัพมีหน้าที่ต้องรักษาผืนแผ่นดินไทยทั้งหมดสาระสำคัญอีก 3 ประเด็น ที่มีการลงนามในแถลงการณ์ฉบับนี้ก็คือ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะ งดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือข่าวปลอม เพื่อลดความตึงเครียด บรรเทาความรู้สึกเชิงลบของสาธารณชนและส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจรจาอย่างสันติ จะจัดการกับข้อมูลเท็จและข้อมูลบิดเบือน โดยทั้งสองฝ่ายจะรับประกันความโปร่งใสและความถูกต้องของข่าวสารและรายงานต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน จะตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จหรือสร้างข่าวเท็จข้อมูลเท็จขึ้นมาแถลงอย่างที่ผ่านมาไม่ได้เด็ดขาดประเด็นที่ 2 ทั้งสองฝ่ายยืนยันพันธกรณีภายใต้อนุสัญญา การห้ามใช้ การสะสม การผลิต การถ่ายโอนทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิดดังกล่าว (อนุสัญญาออตตาวา) ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือผ่านคณะทำงานด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน และ ประเด็นที่ 3 ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะ ร่วมมือกันป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ การหลอกลวงทางไซเบอร์ และการค้ามนุษย์ เพื่อทำลาย “แก๊งสแกมเมอร์” ให้สิ้นซากสัญญาสงบศึกครั้งนี้หวังว่า ฮุน เซน พ่อลูก จะไม่เบี้ยวอีก เพราะ F-16 และ Gripen ของกองทัพอากาศไทยได้เตรียม “ไข่เต็มแพ็ก” ไว้พร้อมแล้ว ไทยก็มีไข่ไม่อั้นเหมือนกัน นับจากเที่ยง วันนี้ไปถึงเที่ยงวันที่ 30 ธ.ค. “อีก 24 ชั่วโมงเท่านั้น” ก็จะได้รู้กันว่า ผู้นำเขมรจะยึดมั่นในคำแถลงการณ์ร่วมล่าสุดหรือไม่ กองทัพไทยและกองทัพเขมร รวมทั้งประชาชนชายแดนไทย–เขมร จะได้ฉลองปีใหม่ด้วยความสงบสุข หรือจะฉลองปีใหม่กันด้วยเสียงปืนใหญ่และไข่นำวิถี ต้องจับตาสถานการณ์ 24 ชั่วโมงนี้อย่ากะพริบตา.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม