โปรดเกล้าฯเรียบร้อยแล้ว ครม. “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โฉมหน้าค่าตา มีทั้งหน้าเดิม หน้าใหม่ เครือญาติ โควตาคนใกล้ชิดแกนนำพรรคการเมือง กลุ่มบ้านเล็ก บ้านใหญ่ นอมินี แท็กทีมมากันเต็มสูบ ผสมผสานคนนอกภาคธุรกิจตรงเป๊ะกับโผที่ออกมา ไม่มีใครหลุดขบวนตรวจคุณสมบัติไม่ผ่านตามข่าวลือ เหลือแค่ขั้นตอนเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ วันที่ 24 ก.ย. และแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันที่ 25 ก.ย. จะมีอำนาจเต็มที่บริหารราชการแผ่นดินเตรียมเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการ ภายใต้ภารกิจไฟลนก้นเต็มไปหมด ทั้งการแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ความมั่นคงแนวชายแดน การแก้รัฐธรรมนูญ ต้องปิดจ๊อบให้เสร็จใน 4 เดือน แล้วยุบสภาเลือกตั้งใหม่ไหนจะต้องระวังตัวแจ ในฐานะรัฐบาลเสียงข้างน้อย ถูกจับผิดคดีเขากระโดง คดีฮั้วเลือก สว. เลี่ยงไม่พ้นเผชิญนิติสงครามในห้วง 4 เดือน เส้นทางไม่ราบรื่น แต่ต้องถูลู่ถูกังผ่านไปให้ได้ไฟต์บังคับกรอบเวลาทำงานแค่ไม่กี่อึดใจ ต้องใส่เกียร์เดินหน้าทำงานทันที ไม่มีเวลาอุ่นเครื่องให้ร้อน อย่างที่เห็นคิวด่วนจี๋ “นายกฯหนู” ขนทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจไปรับฟังความคิดเห็นคณะกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ภาคธุรกิจที่เป็นฟันเฟืองหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศช็อตต่อเนื่องจากที่เพิ่งยกคณะไปรับฟังความเห็นจากภาคอุตสาหกรรมก่อนหน้านี้ และจ่อวางโปรแกรมเข้าพบภาคการเงิน การธนาคาร เป็นคิวถัดไปดรีมทีมเศรษฐกิจขาลาก เดินสายพบนักลงทุน นักธุรกิจ กำหนดโรดแม็ป เร่งสร้างความเชื่อมั่น กู้ความมั่นใจประชาชนให้กลับมาโดยเร็วที่สุดโจทย์ยากที่เป็นเดิมพันสำคัญทางการเมือง ส่งผลต่อการเลือกตั้งสมัยหน้า ต้องโชว์ฝีมือแก้ทุกปัญหาให้ถูกใจประชาชน ตีคู่ไปกับการบริหารกลไกอำนาจรัฐ เพื่อชิงความได้เปรียบในสนามการเมืองตามสภาพหน้างานที่เป็นใจให้พรรคภูมิใจไทยเป็นตัวเต็งในการเลือกตั้ง มีโอกาสกวาดสส.ทะลุ 100 ที่นั่ง สส.หลายก๊ก หลากก๊วน โดนแรงดึงดูดเข้าสังกัดค่ายสีน้ำเงินไม่หยุดหย่อน เสริมบารมีให้ “หนู” คงร่างเป็น “ราชสีห์”สถานการณ์ตรงกันข้ามกับอีกหลายพรรคการเมืองที่กำลังระส่ำระสายที่โดนหนักหน่วง หายเกือบยกพรรคคือ “รวมไทยสร้างชาติ” สส.ส่งสัญญาณย้ายสังกัดใหม่ยาวเป็นหางว่าว ล่าสุดเป็นคิวบิ๊กเนม เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการพรรค ตั้งแท่นย้าย ซบพรรคภูมิใจไทย ต่อเนื่องจากก๊ก 16 สส. ของ “เสี่ยเฮ้ง” นายสุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ ที่ชิ่งไปก่อนหน้านี้สภาพหมิ่นเหม่พรรคแตก ทุกกลุ่มพร้อมแตกหัก พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ยืนกรานเป็นหัวขบวน ถือธงนำทัพ สู้ศึกเลือกตั้งต่อไป โดยเหลือ สส.ติดสอยห้อยตามไม่กี่คนรวมไทยสร้างชาติเลือดไหลทะลัก ไม่ต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ที่โกลาหลไม่แพ้กันยังไม่รู้ใครจะมาเป็นแม่ทัพคนใหม่ หลัง “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรค ประกาศวางมือแม้จะมีเสียงเชียร์นำ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กลับมากอบกู้ความตกต่ำของพลังสีฟ้า แต่ก็เสี่ยงไปเปิดหน้าชนกับ สส.ในกลุ่มอำนาจเดิมของ “เสี่ยต่อ” รวมไทยสร้างชาติ–ประชาธิปัตย์ปั่นป่วน ก๊วนบ้านใหญ่ โซนด้ามขวาน สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา เตรียมหนีตาย ย้ายไปเติมพลังให้พรรคภูมิใจไทยขณะที่พรรคพลังประชารัฐของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค แม้จะกระโจนกลับมาเกาะขบวนเป็นรัฐบาลสำเร็จ แต่การันตี ไม่ได้ สส.จะอยู่ล่มหัวจมท้ายกันต่อไปในการเลือกตั้งสมัยหน้าหรือไม่แต่ที่น่าห่วงหนักกว่าคือ พรรคเพื่อไทยยังวนลูป ผูกขาดอำนาจอยู่กับยี่ห้อตระกูลชินวัตรล่าสุด นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย ส่งซิกจีบ “ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” สามี น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยโยนหินส่งลูกเขย แก้เกมลูกทีมจิตตก จ่อแหกค่ายไปหาพรรคอยู่ใหม่ ตายเอาดาบหน้าดีกว่าปักหลักอยู่บ้านเดิมที่คะแนนนิยมส่อเค้ากู่กลับลำบากพรรคเพื่อไทยส่อสลัดไม่หลุด ปักหมุดอำนาจเป็นสมบัติตระกูลชินฯ วนเวียนอยู่แต่คนในครอบครัว แค่มีความเกี่ยวข้อง ผูกโยงกับ “ทักษิณ” ก็มีสิทธินั่งเก้าอี้นายกฯ4 ค่ายหลัก “รวมไทยสร้างชาติ–ประชาธิปัตย์–พลังประชารัฐ– เพื่อไทย” เจอปัญหาอีนุงตุงนัง ไม่พร้อมรบเต็มร้อยในสนามเลือกตั้งสถานการณ์เข้าทางค่ายสีน้ำเงิน ที่ดูจะมีความพร้อมทั้งสรรพกำลัง และกุมอำนาจรัฐ มีแต้มต่อเหนือกว่าทุกพรรค อยู่ที่จะเก็บคะแนนเพิ่ม สร้างผลงานมัดใจประชาชนได้แค่ไหน4 เดือนสำคัญ ต้องเร่งเบ่งแต้ม เพื่อต่อยอดอำนาจไปสู่ 4 ปี!!!ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม