รัฐบาลนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล เริ่มต้นไม่ค่อยจะราบรื่น โดยเฉพาะปัญหาคุณสมบัติคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล ต้องถูกตรวจสอบประวัติกันละเอียดยิบเพราะรู้ว่า นิติสงคราม เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับที่ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาเป็นบรรทัดฐาน ทั้งการทำประชามติก่อนและหลังการแก้ไข ตรงนี้ไม่น่าจะมีปัญหามากนักจะกี่ครั้งก็ไม่ใช่ปัญหา จะตั้งคำถามอย่างไรให้ครอบคลุม และได้คำตอบที่สะเด็ดน้ำ ซึ่งเป็นเทคนิคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ว่ากันไปความสำคัญของการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็คือ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ไม่ให้ประชาชนเลือก ส.ส.ร.หรือสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง ข้อนี้มีการตีความกันหลากหลาย ฝ่ายหนึ่งบอกว่า ถ้าไม่ให้ประชาชนเป็นคนเริ่มต้นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็แปลว่ารัฐธรรมนูญ ไม่ได้เกิดจากประชาชนของประชาชนและเพื่อประชาชน และอาจนำไปสู่ปัญหาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญถ้าจะให้สภาหรือรัฐบาลเป็นคนแต่งตั้ง ส.ส.ร. หน้าตารัฐธรรมนูญจะเข้าตำราเดิม ชนชั้นใดเป็นคนร่างก็จะเอื้อประโยชน์กับชนชั้นนั้น โดยเฉพาะถ้าได้ นักกฎหมายมืออาชีพ เข้ามาร่างแล้วร่างอีกบางฝ่ายก็บอกว่า เมื่อศาลไม่ได้กำหนดวิธีการในการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือคนร่างรัฐธรรมนูญที่ชัดเจน ถ้าจะพบกันคนละครึ่งทางก็ให้ประชาชนเลือกว่าที่ ส.ส.ร.เข้ามาก่อน สมมติสภาร่างรัฐธรรมนูญ จังหวัดละ 1 คนก็เลือกเข้ามา 77 คน แล้วให้สภาเลือก ส.ส.ร.ตัวจริงอีกที ซึ่งมีมากมายหลายวิธีในการเลือก ส.ส.ร.โดยไม่ให้กระทบหรือขัดกับคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ขึ้นอยู่กับว่าจะยอมรับความเห็นซึ่งกันและกันได้หรือไม่เท่านั้นไม่รู้เป็นอะไร จะร่างหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญทีไร มีปัญหาทุกครั้ง กว่าจะได้รัฐธรรมนูญมาก็ยากลำบาก สุดท้ายถึงเวลาไม่พอใจก็ ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งเอาดื้อๆ รัฐธรรมนูญแต่ละฉบับมีมูลค่านับพันล้านบาท ฉบับประชาชนก็แล้ว ฉบับปราบโกงก็แล้ว ไม่เห็นเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเลยแม้แต่ฉบับเดียวบางสมัย รัฐธรรมนูญ ห้าม สส.เป็นรัฐมนตรี กำหนดให้ นายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง ก็หาทางซิกแซ็กกันจนได้ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดให้แต่ละพรรคกำหนด แคนดิเดตนายกฯ ได้ 3 คน พรรคไหนโชว์หล่อ ส่งแคนดิเดตนายกฯแค่คนเดียว เกิดปัญหาขึ้นมากระทบไปถึงการตั้งรัฐบาล เพราะในพรรคไม่มี แคนดิเดตนายกฯจะส่งเข้าประกวด ทำไปทำมา รัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็เกิดขึ้นแล้ว เมื่อไม่ได้กำหนดว่า สส.มาเป็น รมต.ไม่ได้ พ่อเป็นไม่ได้ก็ส่งลูกส่งหลานมาเป็นกันใหญ่ แถมรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 พยายามที่จะปิดกั้น นายกฯคนนอกไม่ยอมรับนายกฯคนนอก แต่ชื่นชมยินดีกับ รัฐมนตรีคนนอก หิ้วกระเป๋าใบเดียวก็สามารถมาเป็นรัฐมนตรีได้แล้วหลังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญถึงกระบวนการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยศาลฯแถมคำวินิจฉัยการตั้ง ส.ส.ร. ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ออกมาแถลงทันทีให้ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15 (ว่าด้วยคุณสมบัติข้อห้ามผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ อำนาจหน้าที่องค์กรอิสระ) ไม่เกินสัปดาห์หน้าเสนอให้ ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้ง โดยไม่แคร์คำสั่งศาลฯ และระบุด้วยว่า ถ้ารัฐบาลอนุทินไม่เห็นด้วย จะใช้ 143 เสียงล้มรัฐบาล ทันที ว้าเหว่.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม