มหาดไทยเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ วางมาตรการคุมเข้ม 7 วันอันตราย 30 ธ.ค.68 ถึง 5 ม.ค.69 เน้นย้ำทุกจังหวัดจัดตั้ง “ด่านชุมชน” ตามถนนสายรองและในชุมชน พร้อมสร้างจิตสำนึกดื่มไม่ขับ รมว.คมนาคม ตั้งเป้าอุบัติเหตุลดลง 4-5% โฆษกศาลเตือนคดีเมาขับระวังโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่บรรยากาศการเดินทางออกต่างจังหวัดยังคึกคัก ต่อเนื่อง ถนนสายหลักการจราจรหนาแน่นแต่รถเคลื่อน ตัวได้ ไม่ติดหนึบ ตำรวจทางหลวงแนะเส้นทางขึ้นภาคเหนือ เลี่ยงจุดซ่อมถนนสายนครสวรรค์-พิษณุโลกรัฐบาลยังคงวางมาตรการป้องกันอุบัติเหตุจากการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างเข้มข้นเหมือนเช่นทุกปี ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ธ.ค. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2569 มีนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดี ปภ. พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด เข้าร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์นายชัยวัฒน์กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และมุ่งเน้นการสร้างความปลอดภัยทางถนนมาอย่างต่อเนื่อง ได้เน้นย้ำผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดให้ความสำคัญกับการจัดตั้งและดำเนินการ “ด่านชุมชน” โดยเฉพาะถนนสายรอง และถนนในชุมชน เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยของประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน สำหรับเทศกาลปีใหม่ 2569 นี้ ได้กำหนดให้ทุกพื้นที่บูรณาการแผนป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยใช้กรอบการดำเนินงานที่ชัดเจน พร้อมจัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อคุมเข้มความปลอดภัยในช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่30 ธ.ค.68 ถึง 5 ม.ค.69รองปลัดกระทรวงมหาดไทยเผยต่อไปว่า ปภ. เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน อาทิ การสร้างจิตสำนึก “ดื่มไม่ขับ” การสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับบทลงโทษทางกฎหมาย การลดจุดเสี่ยงและจุดอันตรายในชุมชน ตลอดจนการปลูกฝังวินัยจราจรในกลุ่มเยาวชนและสถานศึกษา กระทรวงมหาดไทยขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เสียสละร่วมทำงานบูรณาการทั้งด้านการเตรียมความพร้อมของเส้นทาง สัญญาณจราจร ยานพาหนะ การบังคับใช้กฎหมาย และการบริหารจัดการ รวมถึงการระดมความร่วมมือจากประชาชนเพื่อให้ทุกคนเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างปลอดภัยที่ศูนย์บริหารจัดการจราจร กรมทางหลวง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังรับฟังการบรรยายสรุปภาพรวมการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า กรมทางหลวงเปิดให้ประชาชนใช้ทางพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ เส้นทางบางปะอิน-โคราช (M6) ฟรีเฉพาะขาออก กทม. ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.68-1 ม.ค.69 ส่วนขาเข้า กทม. เปิดให้วิ่งฟรีตั้งแต่วันที่2-5 ม.ค.69 มีปริมาณรถยนต์ประมาณ 50,000 ถึง 60,000 คันต่อวัน ช่วยให้สามารถระบายการจราจรขาออกจาก กทม. ในเส้นทางถนนมิตรภาพลดความแออัดลง 40% คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการ M6 อย่างเต็มรูปแบบภายในสิ้นปี 69 คาดการณ์ปริมาณการเดินทางเข้าออกกรุงเทพมหานครโดยรถยนต์ส่วนบุคคลในช่วงเทศกาลเฉลี่ย 1.1 ล้านคัน กรมทางหลวงพร้อมอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ และมั่นใจว่าปีนี้อุบัติเหตุจะลดลงถึง 4-5%ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน นายพิพัฒน์นำคณะลงพื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ติดตามการเดินทางของผู้โดยสารรถไฟในช่วงเทศกาลปีใหม่ จากนั้นเดินทางไปสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2) พร้อมเผยว่า บขส.คาดการณ์ว่าวันนี้ (29 ธ.ค.) จะมีประชาชนเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะประมาณ 150,000 คน ใช้รถโดยสาร บขส. และรถร่วม บขส. รวมกว่า 7,000-8,000 เที่ยว และจัดรถโดยสารไม่ประจำทางเกือบ 1,000 คัน ส่วนวันที่ 30 ธ.ค. คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางหนาแน่นที่สุดประมาณ 160,000-180,000 คน ใช้รถโดยสารกว่า 8,000-9,000 เที่ยว เนื่องจากเป็นวันทำงานวันสุดท้ายของปี 2568 ด้านนายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.เป็นต้นมา เฉลี่ยวันละ 130,000 คน ใช้รถโดยสารเฉลี่ยวันละ 7,000 เที่ยว สามารถบริหารจัดการเดินรถเป็นไปด้วยความเรียบร้อยนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรมกล่าวว่า วันหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่ทุกปีจะมีสถิติการกระทำความผิดที่ถูกฟ้องต่อศาลเป็นจำนวนมากคือความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 โดยเฉพาะเมาแล้วขับ มีบทลงโทษต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ถ้าเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจต้องรับโทษเพิ่มขึ้นคือจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท ถ้าเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-6 ปีและปรับตั้งแต่ 40,000-120,000 บาท ถ้าเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี ปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่โฆษกศาลยุติธรรมกล่าวต่อไปว่า อีกข้อหาหนึ่งที่ถูกฟ้องมากคือขับรถและเสพยาเสพติด ต้องระวางโทษสูงกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษและกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทอีกหนึ่งในสาม ผู้เสพยาเสพติดขณะขับขี่จะมีโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี 4 เดือน หรือปรับไม่เกิน 26,666.66 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ในช่วงวันหยุดราชการศาลยุติธรรมทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นศาลจังหวัดหรือศาลแขวงจะเปิดทำการเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมไม่หยุดชะงักและสามารถคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพให้แก่ประชาชนได้ตลอดเวลาส่วนบรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ยังคึกคักต่อเนื่อง จ.นครสวรรค์ ประตูสู่ภาคเหนือ ประชาชนจากกรุงเทพฯทยอยเดินทางผ่านพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณรถบนถนนสายหลักเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะถนนพหลโยธิน ถนนทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก และถนนเลี่ยงเมืองหมายเลข 122 อย่างไรก็ตามภาพรวมการจราจรยังคล่องตัว รถสามารถเคลื่อนตัวได้ต่อเนื่องไม่ติดขัดสะสมเป็นเวลานาน เนื่องจากตำรวจทางหลวงบริหารจัดการจราจรทั้งปิดจุดกลับรถบางจุดและปิดสัญญาณไฟจราจรบริเวณแยกถนนสายหลักนอกเขตตัวเมืองชั่วคราว เพื่อเร่งระบายรถที่มุ่งหน้าสู่ภาคเหนือถนนทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก อยู่ระหว่างซ่อมแซมถนนช่วง กม.ที่ 9-37 รวมระยะทาง 28 กม. ต้องลดช่องจราจรเหลือ 2 เลนให้รถวิ่งสวนทางกัน เป็นจุดเสี่ยงอุบัติเหตุและทำให้การจราจรชะลอตัว ตำรวจทางหลวงแนะนำเส้นทางเลี่ยงไปใช้ถนนสายเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ผ่านวงเวียนเก้าเลี้ยว แยกเจริญผล หนองตางู แยกโพธิ์ไทรงาม ออก อ.โพทะเล จ.พิจิตร ก่อนกลับเข้าสู่ถนนหมายเลข 117 อีกครั้งจะช่วยประหยัดเวลาและขับขี่ได้สะดวกมากขึ้น หรือใช้ถนนหมายเลข 11 จากแยกอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ปัจจุบันขยายเป็น 4 ช่องจราจรตลอดสาย มุ่งหน้าขึ้นภาคเหนือโดยไม่ต้องผ่านถนนหมายเลข 117 ได้เหมือนกันจ.นครราชสีมา การจราจรบนถนนมิตรภาพ ในเขตพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.โนนสูง และ อ.คง ยังมีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตามทางร่วม ทางแยกต่างๆ รถชะลอตัว เจ้าหน้าที่ต้องนำกรวยจราจรไปวางตามจุดที่เป็นทางแยก รวมถึงทางเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมัน เพื่อให้การจราจรคล่องตัว พร้อมจัดกำลังตำรวจจราจรชุดเคลื่อนที่เร็ว วิ่งตรวจสภาพการจราจรและรถที่จอดเสียบนถนน เพื่อแก้ไขปัญหารถติดสะสมจ.เชียงใหม่ ถนนหลายสายคับคั่งไปด้วยปริมาณรถ โดยเฉพาะถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง และถนนสายเชียงใหม่-แม่ริม เส้นทางหลักไปสู่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่งใน อ.แม่ริม อ.เชียงดาว และ อ.ฝาง การจราจรหนาแน่นตลอดทั้งวัน เช่นเดียวกับถนนในตัวเมืองเชียงใหม่หลายสายก็เริ่มติดขัด กลุ่มงานจราจร บก.ภ.จ.เชียงใหม่ จัดระเบียบการจราจรลดอุบัติเหตุและการจราจรคับคั่งในเส้นทางขึ้นสู่ยอดดอยแหล่งเที่ยวสำคัญ ประกาศห้ามรถโดยสารขนาดใหญ่ รถโดยสารสองชั้น เดินรถขึ้นดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ และดอยอ่างขางในทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ และระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.68-4 ม.ค.69ขณะที่บรรยากาศตามสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมก็คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่เดินทางไปท่องเที่ยวกันคึกคักแน่นขนัดแทบทุกแห่ง ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ นักท่องเที่ยวจำนวนมากหลั่งไหลเดินทางขึ้นไปสัมผัสกับความหนาวเย็นบนยอดดอยที่สูงที่สุดของประเทศไทย เช้านี้อุณหภูมิยอดดอยต่ำสุด 3 องศาเซลเซียส เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งหรือเหมยขาบเป็นครั้งที่ 21 ของฤดูหนาวปีนี้ คาดว่าช่วงเทศกาลหยุดยาวส่งท้ายปีจะมีนักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์วันละไม่ต่ำกว่า 15,000 คน เจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรตลอดเส้นทางและทุกจุดท่องเที่ยวจ.เลย การท่องเที่ยวคึกคักไม่แพ้กัน มีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติ สัมผัสอากาศหนาวเย็น ดูพระอาทิตย์ขึ้น ชมทะเลหมอก ตามยอดภูแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ที่พลาดไม่ได้คือถนนคนเดินริมโขง อ.เชียงคาน มีนักท่องเที่ยวนับหมื่นคนเดินกันเต็มถนน ทำให้ที่พัก โรงแรม รีสอร์ตถูกจองเต็มหมด ส่วนพ่อค้าแม่ค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ต่างขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า สร้างรายได้ให้ชาวบ้านในพื้นที่จ.กำแพงเพชร นายมานพ นิ่มทับทิม นอภ.คลองลาน เป็นประธานพิธีเปิดงาน “ปีใหม่ม้งคลองลาน” ที่สนามกีฬาบ้านตลาดม้ง หมู่ 16 ต.คลองลานพัฒนา มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการ กำนันผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องชนเผ่าม้งเข้าร่วมงาน ทุกคนแต่งกายด้วยชุดชนเผ่าพื้นเมืองสวยงามเป็นเอกลักษณ์ วัตถุประสงค์เพื่อสืบสาน อนุรักษ์ และส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีปีใหม่ม้งคลองลานให้คงอยู่สืบไป ปลูกฝังจิตสำนึกให้เด็กเยาวชนและประชาชนเห็นคุณค่าและภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ ขนบธรรมเนียม และภูมิปัญญาท้องถิ่นจากรุ่นสู่รุ่น อีกทั้งยังเป็นซอฟต์พาวเวอร์ กระตุ้นเศรษฐกิจส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่