ภารกิจ “ส่งด่วน” มารอคิว ตั้งแต่ยังไม่เปิดร้าน ทำเอา “นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล” จัดลำดับงานกันแทบไม่ทัน เอาแค่เกลี่ยเค้กแบ่งเก้าอี้ รมต. ถึงเตรียมพร้อมล่วงหน้าเอาไว้ แต่เพราะมือใหม่ ความต้องการเยอะยังไงก็วุ่น ต้องทยอยโชว์ตัว “รมต.มืออาชีพ” ในกระทรวงสำคัญตอบโจทย์ความคาดหวัง แก้วิกฤติ “เศรษฐกิจปากท้อง-ความมั่นคง”ขณะที่ส่วนรัฐมนตรีในโควตาพรรคร่วมรัฐบาล ชื่อของบรรดาขาใหญ่ในแต่ละป้อมค่าย ยังต้องสแกนเช็กคุณสมบัติกันละเอียดอีกพักใหญ่เช่นเดียวกับวาระเร่งด่วนเรื่อง “งาน” ผู้นำเล่นเกมไว ยังไม่ทันมีรัฐมนตรีครบ ประกาศต่อยอดโครงการ “คนละครึ่ง” เรียกเสียงเชียร์กระหึ่มเช่นเดียวกันกับนโยบาย มาตรการอื่นๆ “นายกฯหนู” ประกาศแล้ว อะไรดีก็จะทำต่อ อย่างโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย รอปั๊มกฎหมายรองรับให้เสร็จที่จริงนโยบายภูมิใจไทยที่ใกล้เคียงกัน และเคยหาเสียงไว้ตั้งแต่ช่วงเลือกตั้ง คือ “รถไฟฟ้าตลอดสายตลอดวัน 40 บาท” โครงการนี้ราคาตั๋วดูเผินๆเหมือนจะแพงกว่าแต่ที่จริงเหนือกว่า 20 บาท ตรงที่ผู้ใช้บริการใช้รถไฟฟ้ากี่รอบต่อวันก็ได้ หรือกรณีหากขึ้นรถไฟฟ้ารอบเดียวก็ควักจ่ายแค่ 15 บาทตลอดสายถ้ารัฐบาลหยิบมาทำ ช่วยลดค่าครองชีพให้คนกรุงเซฟเงินได้อื้อเรียกว่าถ้าดูปัจจัยหนุนเรื่องงาน ในเบื้องต้น “รัฐบาลนายกฯอนุทิน” น่าจะคุมเกมอยู่ เพียงแต่ว่าก็ยังมีปัจจัยที่อาจทำให้รัฐนาวาภูมิใจไทย มีความเสี่ยงสะดุดก่อนเวลาทั้งปมการเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เวลาจำกัด 4 เดือน ตามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอเอ) กับพรรคประชาชน โดยเฉพาะโฟกัสที่คิว “แก้รัฐธรรมนูญ” ล่าสุดหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ชี้ว่ากระบวนการแก้ไขต้องทำประชามติ 3 ช็อต แต่สามารถควบรวม 2 ขยักแรกได้เพื่อสอบถามประชาชน “จะแก้หรือไม่แก้–แก้แบบไหน–แก้แล้วเอามั้ย”รวมทั้ง “ของแถม” ที่ไม่ต้องถาม ศาลฯทั่นจัดให้กับคำวินิจฉัยที่ระบุ “ไม่ให้ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน” เพื่อมาแก้รัฐธรรมนูญตรงนี้ก็เท่ากับใส่ล็อกข้อเสนอของค่ายสีส้ม ในเอ็มโอเอกับภูมิใจไทยรายการนี้เท่ากับโยนลูกไปที่รัฐบาล จะเลือกใช้วิธีใด “แต่งตั้งส.ส.ร.–เลือกตั้ง ส.ส.ร.ทางอ้อม–ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ” มาทำหน้าที่รายการด่วนจัดที่ “หัวหน้าเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ผู้นำฝ่ายค้าน ตั้งคำถามถึงนายกฯจะเอายังไงต่อทวงคำมั่นสัญญาวัดใจทันทีแน่นอน ออกรูปนี้ “นายกฯหนู” รู้เกม มีคำตอบให้ ประกาศยึดตามแนวทางคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ “ไม่เลือกตั้ง ส.ส.ร.โดยตรง” เหมือนที่เคยประกาศยึดทีโอเอก็จริง แต่ต้องยึดกฎกติกาข้อกฎหมายด้วยนั่นก็ไม่เหนือการคาดการณ์ เพียงแต่รายการนี้ ทางหนึ่งเพราะคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ “เข้าทาง” รัฐบาลภูมิใจไทย ออกลูก “พลิกพลิ้ว” ได้ไม่น่าเกลียดและสุดท้าย ร่างรัฐธรรมนูญจะคืบหน้าได้ถึงไหน เพราะแม้แต่ระหว่างกระบวนการก็มีช่องยื้อในชั้นวุฒิสภา ที่ สว.เครือข่ายสีน้ำเงินแน่นพรึ่บจะขวางหรือไม่ในภาวะที่มีเงื่อนไขเอ็มโอเอ “ข้อแม้” มัดคอรัฐบาล ถ้ารัฐบาลสีน้ำเงินส่อเบี้ยวก็มีความเสี่ยงยิ่งจังหวะนี้ พรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย ประสานเสียงไปทางเดียวกันเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ และถ้า 2 ค่ายเห็นตรงกัน ทิ้งไพ่เด็ดกดดัน ยื่นซักฟอกรัฐบาลเมื่อไหร่“เสียงข้างน้อย” ก็มีเสียว “ส้ม” บวก “แดง” คว่ำสีน้ำเงินได้ง่ายๆเผลอๆคิวแก้รัฐธรรมนูญ จะเร้าอุณหภูมิการเมืองให้สูงขึ้นตามลำดับ เสี่ยงจุดคว่ำกระดาน “ยุบสภา”ผู้นำ “ตั๋วพิเศษ” ส่อลากอำนาจไม่ถึงเป้าหมายตั้งแต่หัววัน.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม