ใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นสำหรับกฎหมายหวยเกษียณ ภายหลังจากที่ประชุม สภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ หรือหวยเกษียณ ด้วยคะแนนท่วมท้น 427 ต่อ 1 เสียง ถือเป็นนวัตกรรมออมเงินรูปแบบใหม่ ผ่านการซื้อสลากตามนิสัยคนไทยที่ชอบเสี่ยงโชค เพื่อให้ประชาชนคนไทยมีเงินออมไว้ใช้หลังวัยเกษียณอายุวัตถุประสงค์สำคัญของหวยเกษียณ คือ การส่งเสริมการออมแก่ประชาชนให้มีเงินเก็บหลังเกษียณอายุ รองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอนาคต โดยมีหลักเกณฑ์คือ ผู้ซื้อสลากต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไป มีสัญชาติไทย รูปแบบสลากเป็นแบบขูด ราคาใบละ 50 บาท ออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น. ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือนแบ่งรางวัลเป็น รางวัลที่ 1 มี 5 รางวัล รางวัลละ 1 ล้านบาท รางวัลที่ 2 มี 10,000 รางวัล รางวัลละ 1,000 บาท ถ้าถูกรางวัลเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ของผู้ซื้อ ขณะที่เงินซื้อสลากไม่ว่าจะถูกหรือไม่ถูกรางวัล จะถูกเก็บเข้าบัญชีเงินออมโดยอัตโนมัติ ให้พอกพูนขึ้นเรื่อยๆ และจะได้คืนทุกบาททุกสตางค์ที่ซื้อไปเมื่ออายุครบ 60 ปีหากเสียชีวิตก่อนถึงอายุ 60 ปี เงินจะตกถึงทายาท ส่วนคนที่อายุเกิน 60 ปี ก็ซื้อหวยเกษียณได้ แต่จะถอนเงินได้หลังจากเก็บสะสมเงินครบ 5 ปี สำหรับโครงการหวยเกษียณ ถือว่าประชาชนได้ 3 เด้ง คือ ได้ลุ้น ได้ออม ได้ผลตอบแทนการลงทุน ภายใต้แนวคิดซื้อหวยเงินไม่หาย กลายเป็นเงินออม โดยไม่ถือว่าเป็นการพนันนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ระบุว่ารัฐบาลตั้งเป้าเปิดขายหวยเกษียณงวดแรกให้ทันไตรมาส 4 ปี 2568 โดยมีเจตนารมณ์ คืออยากให้ประชาชน คนมีรายได้น้อย ที่เป็นฐานใหญ่ของประเทศมีการพัฒนาการออมเกิดขึ้น ดีกว่าไปซื้อหวยใต้ดินที่เงินไม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แม้จะมีความสุขตอนซื้อ แต่ก็มีความทุกข์ตอนถูกหวยกินข้อมูลจากธนาคารโลกระบุว่า รายได้หลังเกษียณที่เพียงพอควรอยู่ที่อย่างน้อย 50–60% ของรายได้ก่อนเกษียณ แต่แรงงานในระบบของไทย มีรายได้หลังเกษียณเฉลี่ยเพียง 41% ขณะที่แรงงานนอกระบบ มีรายได้หลังเกษียณต่ำกว่า 5% จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ภาครัฐต้องหามาตรการเพิ่มแรงจูงใจการออม สร้างความมั่นคงในยามเกษียณในอนาคตที่ประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ที่จะส่งผลต่อรายจ่าย ภาครัฐ หวยเกษียณจึงเป็นเครื่องมือขยายโอกาสการออมให้คนไทยทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม โดยนำนิสัยชอบเสี่ยงโชคของคนไทยมาสร้างทางเลือกการออมที่น่าสนใจ เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงให้คนไทย ก้าวข้ามความเสี่ยงของสังคมสูงวัยได้อย่างมั่นใจ.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม