รวมไทยสร้างชาติป่วนไม่หยุด “เสี่ยตุ๋ย” ขู่ถอนตัวพ้นรัฐบาล ฉุนแกนนำรัฐบาลข้ามหัวโยก “เสี่ยเฮ้ง” ไปนั่ง รมช.มหาดไทย ไม่ผ่าน กก.บห.พรรคต้นสังกัด บิ๊ก พท.เคลียร์วุ่นหวั่นถูกยื่น ร้องขัดข้อบังคับพรรคให้ “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ที่เดิม ส่งผลให้ “จักรพงษ์” ตกสวรรค์ชื่อหลุดโผ ครม.นาทีสุดท้าย “นายกฯอิ๊งค์” กลับจากเชียงรายเรียกเลขาฯ ครม.เข้าพบ ปิดปากไม่ตอบโผ ครม. มีปัญหา “อัครเดช” ยัน รทสช.หนุนรัฐบาลต่อ โต้วุ่น ไม่มีเคลื่อนไหวขู่ถอนตัว ฝ่ายค้านขย่มปรับ ครม.แบ่งเค้กรักษาโควตาการเมือง ไม่ตอบโจทย์รับวิกฤติเร่งด่วนของประเทศ สส.อีสาน พท.ทวงเก้าอี้รองประธานสภา ปลอบใจหลังไร้ตัวแทนภาคอีสานนั่ง รมต. “พิเชษฐ์” โยนวิปรัฐบาลหารือ คัดเลือกไม่เกิน 15 ก.ค.การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) “แพทองธาร 2” แม้เข้าสู่กระบวนการนำโผ ครม.ใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว ยังเกิดความวุ่นวายปั่นป่วนตามมา จากปัญหาความขัดแย้งภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เมื่อมีกระแสข่าวพรรค รทสช.ขู่ถอนตัวจากร่วมรัฐบาล เพราะนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรค รทสช. ไม่พอใจ ไม่เห็นด้วยกับการปรับเปลี่ยนให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ รองหัวหน้าพรรค รทสช.ไปเป็น รมช.มหาดไทย โดยไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของกรรมการบริหารพรรคนายกฯมอบบัตร ปชช.กลุ่มชาติพันธุ์เมื่อเวลา 13.19 น.วันที่ 28 มิ.ย.ที่โรงเรียนแม่จันวิทยาคม ต.ป่าซาง อ.แม่จัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปพบปะกับกลุ่มชาติพันธุ์ ที่ได้รับสัญชาติไทยและมอบบัตรประชาชนให้กับตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ 21 คน นำโดย น.ส.ฝน โวยเจ่อ ชาวอาข่า อ.แม่จัน การมอบสัญชาติไทยเป็นไปตามมติ ครม.อนุมัติเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้กับบุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน และบุตรที่เกิดในประเทศไทย เพื่อลดขั้นตอนให้ได้รับสถานะทางทะเบียนและสัญชาติไทยให้รวดเร็ว มีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ บุคคลที่อพยพเข้าประเทศก่อนปี พ.ศ.2542 ที่ทำทะเบียนประวัติไว้แล้ว รวม 340,101 คน และบุตรของคนกลุ่มที่ 1 จำนวน 143,525 คน โดย น.ส.ฝน โวยเจ่อ เป็นตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ กล่าวขอบคุณว่า กลุ่มชาติพันธุ์จะร่วมจิตร่วมใจพัฒนาบ้านเมืองเพื่อเป็นการขอบคุณนายกฯคณะรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทยปลื้มใจขั้นตอนขอสิทธิเหลือ 5 วันโดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า วันนี้ทุกคนมีสิทธิของตัวเองที่จะได้มีบัตรประชาชนเป็นคนไทย บางคนอยู่ที่นี่นาน แต่ต้องรอระบบและกระบวนการดำเนินการนานมาก เมื่อ 3 ปีที่แล้วได้มาลงพื้นที่พี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์เล่าให้ฟังว่า เมื่อไม่มีบัตรประชาชน ชีวิตมีความยากลำบาก เข้าถึงสวัสดิการรัฐไม่ได้เป็นปัญหาที่รับฟังแล้วรู้สึกติดอยู่ในใจ อยากจะแก้ปัญหาให้ได้ตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ มีการช่วยในเรื่องการขอสิทธิและขั้นตอน ให้เหลือ เพียงแค่ 5 วันทำให้ทุกคนรู้สึกใจชื้น เมื่อเรื่องนี้ผ่านมติ ครม.แล้ว ทำให้พี่น้องชาวชาติพันธุ์ได้เข้าถึงสวัสดิการของรัฐ คำมั่นสัญญาตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา จะเป็นจริงในวันที่ 30 มิ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมอบบัตรประชาชนให้ตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ นายกฯได้ถ่ายภาพร่วมกัน เดินทักทายกลุ่มชาติพันธุ์อย่างเป็นกันเอง ตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์มอบเสื้อคลุมชนเผ่าและนำกระเป๋าปักมือ มาคล้องคอมอบให้นายกฯเป็นที่ระลึก หลังเสร็จภารกิจนายกฯเดินทางกลับ กทม.ทันทีถึง กทม.เรียกเลขาฯ ครม.เข้าพบต่อมาเวลา 15.35 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง น.ส.แพทองธารเดินทางกลับจากลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย จ.เชียงราย เมื่อมาถึงได้เข้าห้องรับรอง มีนางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการ ครม. ได้เข้าพบหารือกับนายกฯ 10 นาที ภายหลังการหารือผู้สื่อข่าวถามนายกฯว่า เลขาธิการ ครม.มาพบ โผ ครม.มีปัญหาหรือไม่ นายกฯหันมาส่งเสียงอุทานร้องว่า “ห๊ะ...” เมื่อถามอีกว่า ขณะนี้ได้มีนำขึ้นทูลเกล้าฯแล้วหรือยัง จะได้จบกันเสียที ไม่ต้องมีการวิ่งกันอีก นายกฯไม่ตอบคำถามดังกล่าว เมื่อถามอีกว่าสรุปพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ ไม่มีใครถอนตัวใช่หรือไม่ นายกฯได้แต่ยิ้ม ไม่ตอบคำถาม“หมอมิ้งค์” ให้รอโปรดเกล้าฯขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่า มารอนายกฯรายงานเรื่องโผ ครม.ใช่หรือไม่ และขณะนี้อยู่ขั้นตอนใด นพ.พรหมินทร์กล่าวเพียงสั้นๆว่า รอโปรดเกล้าฯวุ่น “ตุ๋ย” ค้านโยก “สุชาติ” นั่ง รมช.มท.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แพทองธาร 2 ที่ดูเหมือนเสร็จสิ้นเข้าสู่กระบวนการนำขึ้นทูลเกล้าฯไปแล้ว แต่ในช่วงสุดท้ายกลับเกิดปัญหาสะดุดขึ้นมาอีก ในส่วนของตำแหน่งนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ และรองหัวหน้าพรรค รทสช. แกนนำกลุ่ม 18 ที่โผล่าสุดได้อัปเกรดโยกไปนั่ง รมช.มหาดไทย แต่กลับมีความเคลื่อนไหวจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรค รทสช. แสดงความไม่เห็นด้วยและไม่พอใจการตัดสินใจของแกนนำรัฐบาล ที่ไม่ได้มีการแจ้งให้หัวหน้าพรรค รทสช.ทราบก่อนถึงการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของนายสุชาติ เพื่อนำชื่อเข้าหารือในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อมีมติต่อไป ถือว่าไม่ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับพรรค หากแกนนำรัฐบาลยังตัดสินใจจะให้นายสุชาติไปเป็น รมช.มหาดไทย พรรค รทสช.จะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ทำให้เมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 มิ.ย.แกนนำพรรค พท.ต้องเร่งหารือด่วน“เฮ้ง” ที่เดิม รมช.พณ. “เพ้า” ตกสวรรค์ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรค พท.ได้ตัดสินใจให้นายสุชาติ นั่งตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ ตามเดิม เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งภายในพรรค รทสช.ระหว่างกลุ่มนายพีระพันธุ์และกลุ่ม 18 เพราะเกรงว่าอาจจะมีปัญหาในข้อกฎหมาย อาจมีการร้องเรียนในภายหลังได้ว่าไม่ได้ผ่านมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ส่งผลทำให้นายจักรพงษ์ แสงมณี ที่ถูกวางตัวให้ไปนั่ง รมช.พาณิชย์ที่นายสุชาตินั่งอยู่เดิม ต้องหลุดโผการปรับ ครม.ครั้งนี้ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย จะมีนายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกฯและ รมว.มหาดไทย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ยังนั่งเป็น รมช.มหาดไทย โควตาพรรค พท.ตามเดิม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทยจากพรรคประชาธิปัตย์โฆษก รทสช.แก้เกี้ยวโต้ข่าวขู่ถอนตัวนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรค รทสช. ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่าพรรค รทสช.ขู่ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรค รทสช.ไม่พอใจไม่เห็นด้วยการโยกย้ายนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ รองหัวหน้าพรรค รทสช.ไปเป็น รมช.มหาดไทย โดยไม่ได้แจ้งให้หัวหน้าพรรคทราบก่อน เพื่อนำชื่อเข้าหารือที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคมีมติต่อไปว่า ยืนยันไม่มีการเคลื่อนไหวจากบุคลากรและ สส.ของพรรคในเรื่องดังกล่าวแน่นอน ทราบว่าโผ ครม.นำขึ้นทูลเกล้าฯไปแล้ว ตามหลักการทุกฝ่ายต้องนิ่งและไม่มีการเคลื่อนไหว เพราะฉะนั้นไม่ทราบว่าข่าวดังกล่าวมาจากที่ไหน แต่ในส่วนพรรค รทสช. ไม่มีการเคลื่อนไหวแน่นอน เมื่อถามว่าจุดยืนพรรค รทสช.ยังคงสนับสนุนรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ต่อไปใช่หรือไม่ นายอัครเดชกล่าวว่า เป็น ไปตามที่นายพีระพันธุ์สื่อสารไปก่อนหน้านี้ ยังคงเป็นจุดยืนเดิมทสท.ซัดปรับ ครม.ไม่ตอบโจทย์ ปชช.นายทิวากร สุระชน รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงข่าวการปรับ ครม.ล่าสุดของรัฐบาลว่า น่ากังวลเพราะเป็นการปรับที่ขาดวิสัยทัศน์ ไม่คำนึงถึงความจำเป็นเร่งด่วนของบ้านเมืองในภาวะวิกฤติ สิ่งที่ไม่เคยเจอก็ได้เจอ นายกฯคนอื่นเขาควบกลาโหม มหาดไทย หรือ คลังแต่นายกฯคนนี้กลับเลือกควบกระทรวงวัฒนธรรม ขณะที่กระทรวงกลาโหม หน่วยงานสำคัญด้านความมั่นคงของชาติ กลับไม่มี รมว. คงไว้เพียง รมช.ที่ต้องรักษาการแทน การจัดสรรตำแหน่งจึงสะท้อนให้เห็นถึงการจัดวางเพื่อรักษาโควตาทางการเมือง มากกว่าการแต่งตั้งบนหลักความสามารถ หรือความเหมาะสมกับภารกิจเร่งด่วนของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประชาชนเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจและความไม่มั่นคงทั้งในและนอกประเทศจี้ทบทวนรับวิกฤติมั่นคง–ศก.ไม่ได้“ขอเตือนว่าสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้ ควรต้องมี รมว.กลาโหมที่มีอำนาจเต็มในการตัดสินใจ การขอปล่อยให้รักษาการไปวันๆ เพียงเพราะเกลี่ยตำแหน่งไม่ลงตัว ขณะที่ผู้นำรัฐบาลเลือกจะไปควบวัฒนธรรมแทน จึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แต่มันคือเรื่องความมั่นคงของประเทศ รัฐบาลควรมีความจริงใจในการแก้ปัญหาให้กับประชาชน จึงขอเรียกร้องให้นายกฯพิจารณาทบทวนการตัดสินใจใหม่ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะวิกฤติเศรษฐกิจและวิกฤติด้านความมั่นคงได้” นายทิวากรกล่าว“ภัทรพงษ์” เซ็งผู้นำไม่สนปัญหาน้ำกกนายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ รองโฆษกพรรค ปชน.กล่าวถึง การลงพื้นที่ จ.เชียงรายของนายกฯเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ว่า นอกจากภาพที่รัฐบาลให้คนที่น้ำเพิ่งท่วมบ้านต้องเดินออกมานั่งรอรับถุงยังชีพว่าแย่แล้ว นายกฯยังเดินหนีการตอบคำถามประเด็นน้ำกก-สายเป็นพิษอีกต่างหาก เร่งเจรจาไทย-จีน-เมียนมา ออกมาตรการเร่งด่วนร่วมตามกรอบความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง (LMEC) ผ่านมาหลายเดือนไม่ทำ ปัญหาอยู่ตรงหน้ายังเพิกเฉย ถามจริงๆ นายกฯพร้อมรัฐมนตรีที่เดินตามเป็นพรวน ไม่รับรู้ปัญหาเลยหรือ มาลงพื้นที่เพียงแค่เอาภาพ ฝ่ายค้านทำงานเต็มที่คุยกับจีนก็ทำแล้ว แต่รัฐบาลยังทำงานแค่เกาะเก้าอี้แก้วิกฤติตัวเองและครอบครัว ไม่สนใจวิกฤติของประชาชน ช่วยเหลือพื้นที่ให้คนไทยยังคาดหวังอะไรจากรัฐบาลได้บ้างสส.อีสาน พท.ขอโควตารอง ปธ.สภาฯอีกเรื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ถึงความเคลื่อนไหวการจัดสรรตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 2 ที่ว่างลง หลังจากนายภราดร ปริศนานันทกุล ลาออกจากตำแหน่ง ว่า กลุ่ม สส.ภาคอีสาน พรรค พท.จับกลุ่มคุยกันว่าตำแหน่งดังกล่าวควรเป็นตำแหน่งของ สส.ภาคอีสาน เนื่องจากการปรับ ครม.รอบนี้ไม่มี สส.ภาคอีสานเข้าไปทำหน้าที่รัฐมนตรีเพิ่มเติม ทั้งที่มีจำนวน สส.มากที่สุดในพรรค นอกจากนี้ ตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เป็นโควตา สส.ภาคเหนือ ดังนั้น สส.ภาคอีสานควรมีตำแหน่งรองประธานสภาฯด้วยเช่นกัน หากมีการประชุม สส.เพื่อไทย กลุ่ม สส.ภาคอีสานจะแสดงความคิดเห็นต่อที่ประชุม เพราะการพูดคุยที่ผ่านมา บางครั้งมีการพูดคุยในกลุ่มไลน์ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อยู่ในกลุ่มด้วย แต่ไม่มีการแสดงความคิดเห็นอะไรต่อเรื่องนี้ สส.ภาคอีสานจึงเห็นว่าควรเสนอต่อที่ประชุมพรรคอย่างเป็นทางการ“พิเชษฐ์” ชี้ไทม์ไลน์เลือกไม่เกิน 15 ก.ค.ที่รัฐสภา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่ 1 กล่าวถึงกรณีการเลือกรองประธานสภาฯคนที่ 2 หลังนายภราดร ปริศนานันทกุล สส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ลาออกว่า ต้องรอการแต่งตั้ง ครม.ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน เพื่อจะได้ทราบว่าพรรคใดร่วมรัฐบาลบ้าง จากนั้นจะหารือร่วมกับวิปสองฝ่ายเพื่อกำหนดวันเลือกรองประธานสภาฯคนที่ 2 คาดว่าไม่น่าจะเกินวันที่ 15 ก.ค. เมื่อถามว่าตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ต้องเป็นโควตาของฝั่งรัฐบาลหรือเป็นของพรรคแกนนำ นายพิเชษฐ์กล่าวว่า แล้วแต่เขาจะตกลงกัน ไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องเป็นคนของพรรค พท. เป็นเรื่องของวิปรัฐบาลต้องคุยกันไม่รู้เลื่อน พ.ร.บ.กาสิโนอยู่ลำดับเท่าไหร่เมื่อถามถึงร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่รัฐบาลเลื่อนการพิจารณาออกไป นายพิเชษฐ์กล่าวว่า เขาจะเลื่อนไปก่อน เป็นเรื่องของวิปว่าจะมีการเลื่อนในห้องประชุมหรือไม่ ถ้าไม่มีใครขัดข้องก็ตามนั้น แต่ถ้ามีคนขัดข้องต้องว่ากันในที่ประชุม เมื่อถามย้ำว่า หากเลื่อนออกไปจะอยู่ลำดับที่เท่าไหร่ นายพิเชษฐ์กล่าวว่า เลื่อนไปยังไม่ทราบว่าจะไปอยู่ลำดับที่เท่าไหร่ เพราะต้องเอาเรื่องอื่นขึ้นมาก่อน แต่ยังอยู่ในวาระ แล้วแต่ว่าจะหยิบขึ้นมาเมื่อไหร่ มองว่าควรแก้ปัญหาทีละเรื่อง เอาประเทศไว้ก่อน“ภราดร” หยัน “อิ๊งค์” ตกเป็นเหยื่อล่อซื้อวันเดียวกัน นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า แท้จริงแล้วหัวใจของฮุน เซน คือผลประโยชน์มหาศาลที่ได้จากกาสิโน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะโกรธมาก และยกเอาเรื่องดินแดนมาเป็นข้ออ้างเพื่อทะเลาะกับไทย ทันทีที่เดินหน้าทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีกาสิโนเป็นหัวใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯจึงต้องตกเป็นเหยื่อของการถูกล่อซื้อ โดยพูดคุยกับฮุน เซน แบบไม่ระมัดระวัง เจรจาผลประโยชน์ของประเทศ เพื่อแลกกับคะแนนนิยมของตัวเอง ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าไทยถูกผู้นำเขมรแบล็กเมล์เรียกร้องเอาสิ่งที่ต้องการหรือไม่ชี้ พท.ถอยกลัวแบล็กเมล์คลิปอีก“การถอยแบบไม่เป็นท่าของ พ.ร.บ.เอนเตอร์ เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาล จึงน่าสงสัยอย่างยิ่งว่า นี่คือการแบล็กเมล์ของฮุน เซน และหากไม่ถอยจะมีการปล่อยคลิปมาอีกหรือไม่ ท่าทีต่อกาสิโนของพรรค พท. และพรรค ภท.จึงแตกต่างกัน ของ ภท.ปฏิเสธกาสิโนเพราะฟังจากเสียงปฏิเสธของประชาชน ส่วนการถอยของ พท. เกิดจากการถูกขู่กรรโชกจากฮุน เซนหรือไม่ บอกพรรค พท.นะว่าไม่ต้องเลื่อนวาระออกไปหรอก หากไม่เอาก็โหวตคว่ำไปเสีย ไม่ต้องมาคาราคาซังอยู่ในสภาแบบนี้ ส่วนพวกผมคว่ำแน่นอน” นายภราดรระบุ“วันนอร์” โยนวิปถกดันร่าง ก.ม.นิรโทษฯที่นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯกล่าวถึงกรณีสภาฯจะผลักดันพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมหลังเปิดสมัยประชุมสภาว่า ยังอยู่ในชั้น กมธ.พิจารณาปรับปรุงก่อนเสนอต่อที่ประชุมสภาฯ ต้องหารือกับวิปทุกฝ่ายก่อนนำเข้าสู่วาระสภาฯ กรณีเนื้อหาการนิรโทษกรรมยังมีความเห็นต่างกัน คาดว่าต้องมีการปรับปรุง และรัฐบาลจะต้องรับฟัง เพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับตรงกัน เชื่อว่าร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นร่างกฎหมายที่เป็นประโยชน์ หากผลักดันได้สำเร็จจะสร้างความปรองดองให้ประเทศได้ระดับหนึ่ง จะช่วยให้การเมืองเดินไปได้มากยิ่งขึ้น แต่หากกฎหมายไม่ผ่านสภาอาจมีผู้ที่ได้รับผลกระทบเดือดร้อน จากความเห็นทางการเมืองที่ไม่ตรงกันห่วงม็อบขึ้นการเมืองไม่นิ่งทุบ ศก.เมื่อถามถึงการชุมนุมทางการเมือง ขับไล่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ของเครือข่ายภาคประชาชน นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่มีปัญหาการเมืองในประเทศจีนที่พัฒนาได้ เพราะการเมืองจีนค่อนข้างเป็นระบบ แต่ถ้าหากการเมืองไม่นิ่ง ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจตามมาการลงทุนภาคธุรกิจมีปัญหา เพราะคนขาดความเชื่อมั่น นักท่องเที่ยวจะเลือกไปประเทศอื่นก็ได้ เสียโอกาสระดับหนึ่ง แต่เราต้องเข้าใจว่าประชาธิปไตยเป็นเช่นนี้“ทักษิณ-พันศักดิ์-เลี้ยบ” เดิน TCDCเมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ Noppakow Kongsuwan โพสต์ภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกฯ และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกฯ พร้อมโพสต์ข้อความว่า อยู่แถวนี้พอดีเจอคุณทักษิณ อ.พันศักดิ์และหมอเลี้ยบ มาเดินเล่น TCDC บางรัก หลังก่อตั้งมากว่า 20 ปี คนเหล่านี้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังแนวคิด ผู้ก่อตั้งและผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ผ่านการก่อตั้ง TCDC ในปี 47 และเริ่มเปิดให้บริการให้ทุกคนในปี 48 ที่แรกคือที่เอ็มโพเรียม (สุขุมวิท) ช่วงหลังรัฐประหารปี 49 และ 57 มีความพยายามยุบหรือปรับเปลี่ยนบทบาท TCDC ของคณะรัฐประหาร แต่สุดท้ายยังอยู่รอดมาจนถึงปัจจุบัน TCDC ทั้งหมด 14 จังหวัด อยู่ทุกภูมิภาคของประเทศไทย ไม่เพียงเป็นแหล่งบ่มเพาะนักออกแบบรุ่นใหม่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเพียงอย่างเดียว ยังเป็นศูนย์รวมองค์ความรู้ด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่เชื่อมโยงกับนโยบาย Soft Power ที่รัฐบาลปัจจุบันกำลังขับเคลื่อน ปี 2025 ไทยกำลังจะมีงาน Splash-Soft Power Forum วันที่ 8-11 ก.ค.ที่ศูนย์ฯสิริกิติ์ จะเป็นงาน Showcase ซอฟต์พาวเวอร์ของไทยที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่