พุธ 21 พ.ค. สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ศาลเมือง Chelmsford Crown ได้อ่านคำพิพากษาทางวิดีโอคดี เจย์ เอ็มมานูเอล โธมัส อดีตนักฟุตบอลทีมอาร์เซนอล วัย 34 ปี ซึ่งถูกจำคุกอยู่ในคุกเมืองเคลมฟอร์ดว่า มีความผิดฐานลักลอบขนยาเสพติดมูลค่า 600,000 ปอนด์ 26.4 ล้านบาท จากประเทศไทยเข้าไปในสหราชอาณาจักร เอ็มมานูเอลถูกจับกุมที่ สนามบินสแตนสเตด ในกรุงลอนดอน เขาถูกตรวจพบกัญชา 60 กิโลกรัมในกระเป๋าเดินทาง เมื่อ 2 ก.ย.67 เจ้าหน้าที่ยาเสพติดยังได้จับกุมแฟนสาวของเอ็มมานูเอล เมื่อพบว่ากระเป๋าเดินทาง 4 ใบ มีกัญชาบรรจุอยู่เต็ม โดยบินไปจากกรุงเทพมหานครไม่น่าเชื่อนะครับ กัญชามากมายขนาดนี้ ขนออกจากประเทศไทยผ่าน สนามบินสุวรรณภูมิ/ดอนเมือง ไปได้อย่างง่ายดาย ผ่านด่านตรวจยาเสพติด ผ่านเครื่องตรวจจับราคาแพงไปได้อย่างฉลุย และไปถูกจับที่สนามบินอังกฤษในช่วงขาเข้าประเทศพุธ 21 พ.ค. วันเดียวกัน คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีสาธารณสุข ผู้บริหารท่าอากาศยานไทย และ กรมศุลกากร ร่วมแถลงข่าวที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ว่า มีการตรวจยึดดอกกัญชาน้ำหนักกว่า 73.5 กิโลกรัม มูลค่า 2 ล้านบาท ควบคุมผู้ต้องหาต่างชาติได้ 3 ราย ตั้งแต่ 1 ต.ค.67 จนถึงปัจจุบัน ท่าอากาศยานดอนเมืองจับผู้ต้องหาขนกัญชาได้ 31 ราย ยึดดอกกัญชารวมแล้วกว่า 360 กิโลกรัม ปลายทางส่วนใหญ่จะเป็น อินเดีย และ สหราชอาณาจักร นี่ยังไม่นับ กัญชาแห้ง ที่ลักลอบขนออกไปอีกไม่รู้เท่าไหร่ และยังไม่รวมกัญชาที่ลักลอบขนออกไปที่ สนามบินสุวรรณภูมิคุณธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 2568 (ต.ค.67-27 เม.ย.68) กรมศุลกากรตรวจพบการลักลอบนำเข้าส่งออกกัญชามากถึง 994 คดี ปริมาณ 10,036 กิโลกรัม โอ้ แม่เจ้า 7 เดือนจับได้กว่าหมื่นกิโล ที่จับไม่ได้อีกไม่รู้กี่หมื่นกิโล เมื่อ 16 ก.พ. สหราชอาณาจักรได้ส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมสกัดกั้น พบดอกกัญชาที่ผู้โดยสารสละการครอบครองกว่า 2,100 กิโล เรียกว่า ขนออกกันเป็นล่ำเป็นสันจนอังกฤษต้องส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยปราบ เหมือนรัฐบาลจีนส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รัฐบาลไทยไม่ทำงานกันหรือไงกัญชายาเสพติดของไทย ที่แพร่หลายไปทั่วไทยแพร่หลายไปทั่วโลก ทำให้ไทยเป็นแหล่งส่งออกกัญชารายใหญ่ของโลก เป็นผลงานของ รัฐบาลลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ปลดล็อก “กัญชา/กัญชง/ กระท่อม” พ้นจากยาเสพติด แถมยังส่งเสริมให้ปลูกกันทุกครัวเรือน อนุญาตให้ขายกันอย่างเสรีถ้ามีใบอนุญาต จนเดี๋ยวนี้มี “กัญชาดีลิเวอรี” คือ กัญชาส่งไปถึงที่บ้านหรือที่ห้องพักกันแล้ว ถือว่าธุรกิจกัญชาไทยทันสมัยที่สุดในโลกเลย ชาติที่เจริญที่สุดอย่างอังกฤษเขายังห้าม ถือว่ากัญชาเป็นยาเสพติดผิดกฎหมายผมลองถาม AI ให้ช่วยสรุปมาดูว่า “ปี 2567 ไทยจับยาเสพติดได้เท่าไหร่ อะไรบ้าง” เห็นคำตอบเอไอแล้วก็ตกใจ เลยขอส่งให้ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร รับทราบไว้ตรงนี้ยาเสพติดที่จับได้ในเมืองไทยปี 2567 มี “ยาบ้า” 380 ล้านเม็ด บางรายงานระบุ 1,000 ล้านเม็ด “ยาไอซ์” ยึดได้ 13,170 กิโลกรัม และมีรายงานมากถึง 33,136 กิโลกรัม “เฮโรอีน” ประมาณ 1,955 กิโลกรัม “คีตามีน” ประมาณ 5,000 กิโลกรัม “ยาอี” ประมาณ 203,692 เม็ด ที่จับไม่ได้มีเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ไม่มีรายงานกัญชาใบกระท่อม เอไอยังรายงานด้วยว่า มีการจับกุมผู้ค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น 37.11% (ประมาณ 52,000 คดี) จับกุมเครือข่ายยาเสพติดได้ 66 เครือข่าย มีแผนปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย คดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งหมดที่ตำรวจจับได้ 241,607 คดี ผู้ต้องหา 250,878 คน ข้อหาครอบครองเพิ่มขึ้น 56.70% ข้อหากลุ่มจำหน่ายเพิ่มขึ้น 21.64% ข้อหาสมคบ/สนับสนุนเพิ่มขึ้น 52.24%นี่คือตัวเลขที่น่าเป็นห่วงนับตั้งแต่ไทยเปิด กัญชา/กระท่อมเสรี ยาเสพติดเพิ่มขึ้นมากมายถ้า รัฐบาลอิ๊งค์ ยังคงนโยบายยาเสพติด “กัญชา/กระท่อมเสรี” ต่อไป ไม่ช้าไทยจะกลายเป็นหนึ่งใน “มหาอำนาจยาเสพติดโลก” พาสปอร์ตไทยจะกลายเป็นสีเทา คนไทยไปประเทศไหนก็จะถูกตรวจค้นยาเสพติด ประเทศไทยเราจะอยู่กับอนาคตแบบนั้นหรือ?“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม