กรมการขนส่งทางบกสั่งล้อมคอกอุบัติเหตุดัมพ์รถบรรทุกค้างชนสะพานซ้ำซาก ล่าสุดเกิดเหตุสยองเสยสะพานลอยคนข้ามถนนบางนา-ตราดพังถล่มลงมาทั้งแถบ ทับโชเฟอร์สาหัส คนขับรถกระบะบรรทุกไข่เคราะห์ร้ายดับคาซาก หลังชาวบ้านบีบแตรตลอดทาง แต่ไม่ได้ยิน บังคับให้รถใหม่และรถจดทะเบียนแล้วทุกคันต้องติดสัญญาณแสงและเสียงเตือนคนขับ หากดัมพ์ขึ้นลงไม่สุดอุบัติเหตุดัมพ์รถพ่วงค้างชนสะพานลอยคนข้ามพังถล่มทับรถกระบะดับสยองรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 ธ.ค. ร.ต.ท.อนุพันธ์ คงประพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางพลีน้อย อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถพ่วงชนสะพานลอยคนข้ามถล่มลงมาทับโชเฟอร์ได้รับบาดเจ็บและคนขับรถกระบะเสียชีวิตบริเวณถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) ช่องทางด่วน ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ กม.ที่ 34 หมู่ 2 ต.บางพลีน้อย อ.บางบ่อ ไปตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูที่เกิดเหตุพบสะพานลอยช่องทางด่วนถล่มทับหัวรถพ่วง 18 ล้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 86-6717 ชลบุรี ทะเบียนพ่วง 86-6766 ชลบุรี นายลือชัย บัวเผียน อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 3 ต.พรหมบุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี โชเฟอร์ถูกทับคาเบาะคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้ ยังพบรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน 1 ฒค 1234 กรุงเทพมหานคร บรรทุกไข่เต็มคันถูกสะพานลอยทับห้องโดยสารพังยุบ ภายในซากรถพบศพคนขับทราบชื่อนายสังเวียน เมฆเขียว อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1101/3 ถนนวิเชียรโชฏก ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาครเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่สามารถใช้เครื่องตัดถ่างงัดซากรถช่วยผู้บาดเจ็บออกมาได้ เนื่องจากหากใช้อุปกรณ์ตัดถ่างเสี่ยงที่คานสะพานลอยจะยุบตามทับคนเจ็บอาการหนักกว่าเก่า อีกทั้งสะพานนั้นมีน้ำหนักหลายสิบตัน ต้องใช้รถเครนมายกสะพานออกก่อน จากนั้นใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างนายสังเวียน คนขับรถกระบะ และนายลือชัย โชเฟอร์รถพ่วงออกมา พร้อมกับปิดการจราจรฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯช่วง กม.ที่ 34+500 ให้รถเบี่ยงออกไปเส้นทางคู่ขนานบริเวณ กม.ที่ 35+200 ส่งผลให้รถติดสะสมยาวหลายกิโลเมตรจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบรถพ่วงคันดังกล่าวขับมาทางเลนซ้ายในลักษณะยกกระบะดัมพ์ขึ้นตลอดทาง ระหว่างทางมีรถยนต์คันอื่นและรถ จยย.พยายามบีบแตรส่งสัญญานบอกหลายครั้ง แต่คนขับไม่ได้ยิน กระทั่งถึงสะพานลอยคนข้ามดังกล่าว กระบะที่ยกดัมพ์คาไว้พุ่งชนสะพานถล่มลงมาทับห้องโดยสารและรถกระบะบรรทุกไข่ที่ขับตีคู่มาทางขวาคนขับเสียชีวิตคาซาก ขณะนี้ต้องรอสอบปากคำโชเฟอร์ว่าเกิดจากประมาทหรือระบบขัดข้องต่อมานายศุภมิตร ชิณศรี ผวจ.สมุทรปราการ เดินทางไปตรวจจุดเกิดเหตุ จากนั้นเปิดเผยว่า สั่งให้เจ้าหน้าที่เลื่อนระยะเวลาการเปิดช่องทางการจราจร เนื่องจากสะพานลอยที่หักถล่มลงมามีน้ำหนัก 60-70 ตัน รถเครน 2 คันไม่พอ อยู่ระหว่างประสานนำรถเครนมาเพิ่มอีก 1 คันมาช่วยสนับสนุนยกสะพานออก คาดว่าจะใช้เวลาถึงช่วงเย็น ฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่จะใช้เส้นทางบางนา-ตราดขาเข้ากรุงเทพฯให้เลี่ยงเส้นทางด้านนายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวถึงเหตุรถพ่วงชนสะพานลอยพังถล่มว่า จุดของสะพานลอยที่ได้รับความเสียหายความยาวประมาณ 15-16 เมตร สำหรับสะพานลอยถูกออกแบบมาให้รับแรงแนวในแนวดิ่ง สาเหตุที่ทำให้สะพานถล่มลงมา เพราะรถพ่วงยกดัมพ์ค้างไว้ชนเข้าด้านข้างของสะพานจนทำให้สะพานร่วงลงมา ปกติแล้วสะพานไม่ได้รับการออกแบบให้รับน้ำหนักทางด้านข้าง เมื่อถูกชนด้านข้างก็ไม่สามารถรับแรงกระแทกได้“ในส่วนความเสียหายต้องแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นความประมาทของคนขับ เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง ส่วนที่สองกรมทางหลวงจะดูเรื่องสะพานที่เสียหาย เบื้องต้นสะพานใช้งบประมาณก่อสร้าง 10 ล้านบาท จากนี้ต้องให้วิศวกรสำรวจโครงสร้างที่เหลือว่าสามารถซ่อมหรือต้องรื้อก่อสร้างใหม่ แต่จากการประเมินความเสียหายเกิดขึ้นเพียงหนึ่งส่วนที่เป็นฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ” อธิบดีกรมทางหลวงกล่าวและว่า ช่วงปิดซ่อมสะพานชั่วคราวให้ประชาชนไปใช้จุดกลับรถใต้สะพานหางไป 400 เมตร คาดว่าจะใช้เวลาซ่อมสะพานลอยไม่เกิน 3 เดือนนายปิยพงษ์กล่าวอีกว่า สำหรับผู้เสียชีวิตทราบจากตำรวจว่าขับรถไปรับไข่จากฟาร์ม จ.ฉะเชิงเทรา กำลังเดินทางกลับร้าน จ.สมุทรสาคร ส่วนรถบรรทุกวิ่งดินไปถมที่จุดก่อสร้างทางกลับรถ ก่อนถึงที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม. ชาวบ้านแจ้งว่าคนขับยกดัมพ์ขึ้นหลายครั้ง ก่อนค้างไว้แล้วขับออกมาและเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ขณะนี้กรมทางหลวงรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.บางพลีน้อยเรียบร้อยแล้วขณะที่นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุดัมพ์รถพ่วงชนสะพานลอยบนถนนเทพรัตนจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ กรมการขนส่งทางบกเร่งออกแนวทางยกระดับมาตรการความปลอดภัย กำหนดให้บริษัทผู้ผลิตรถ อู่ต่อตัวถังรถ ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าและเจ้าของรถบรรทุกยกเท (รถดัมพ์) ต้องติดตั้งอุปกรณ์เตือนผู้ขับรถด้วยสัญญาณเสียงและไฟ หากยกกระบะขึ้นหรือกระบะลงไม่สุด จะให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วทั้งกับรถใหม่และรถที่จดทะเบียนแล้ว หลักการทำงานอุปกรณ์แจ้งเตือนในห้องคนขับรถด้วยสัญญาณแสงและเสียง หากยกกระบะขึ้นหรือกระบะลงไม่สุดจะมีแสงและเสียงเตือนผู้ขับรถ ทำให้ผู้ขับพึงระวังและสัญญาณเตือนจะหยุดก็ต่อเมื่อกระบะท้ายรถบรรทุกลงสุดเท่านั้นอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่