สื่อต่างชาติยกนิ้ว กองทัพไทยโชว์ผลงานปฏิบัติการถอนรากถอนโคนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติที่ใช้กาสิโนเป็นฐานทัพ ช่วยปกป้องเหยื่อทั่วโลกให้รอดพ้นจากการหลอกลวงทางไซเบอร์ ด้านกองทัพไทยเผยทำลายตึกสแกมเมอร์กว่า 6แห่ง ใน 2 แห่ง ถูกสหรัฐฯคว่ำบาตรเพราะหลอกลวงชาวอเมริกันมายาวนาน เครื่องบิน F-16 ของกองทัพอากาศโชว์ศักยภาพบินหย่อนไข่ทิ้งระเบิดถล่มกาสิโนใกล้ปอยเปตพังพินาศ เช็กแนวรบชายแดนไทย-กัมพูชายังคงปะทะกันในพื้นที่สุรินทร์-ศรีสะเกษ กัมพูชาเสริมกำลัง-อาวุธหนัก ไทยเปิดเกมรุกหลายจุดยึดฐานสำคัญไว้ได้ ยอดรวมทหารไทยพลีชีพแล้ว 21 นาย เนิน 350 ปะทะหนัก ศพ 2 ทหารกล้าที่พลีชีพยังนำร่างออกจากจุดเกิดเหตุไม่ได้ เสธ.ทหารเรือยันไทยไม่ยึดเกาะกง-เกาะยอ แค่ทำลายภัยคุกคาม “อนุทิน” ไม่ทราบทูตจีนประสานขอเป็นคนกลางอยากให้หยุดยิงต้องบอกคนเริ่ม กระทรวงการต่างประเทศจีนยืนยันส่งผู้แทนพิเศษด้านกิจการเอเชียของกระทรวงเยือนกัมพูชา-ไทย พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ใน 5 จังหวัด คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์และสระแก้ว ยังคงมีการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา ฝ่ายไทยพยายามปกป้องอธิปไตยและผลักดันขับไล่ศัตรูผู้รุกรานออกไปให้พ้นพื้นที่ ส่วนทหารไทยที่พลีชีพ 2 นายในสมรภูมิเนิน 350 คือ ส.อ.สำเริง คลังประโคน และพลทหารภานุพัฒน์ เสาร์สา ที่มีการพบร่างแล้ว 1 นาย คือ พลทหารภานุพัฒน์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างพยายามนำร่างออกมายังแต่ยังไม่สำเร็จ เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาระดมโจมตีอย่างหนักหน่วงในพื้นที่ ขณะที่ไทยตอบโต้ด้วยการระดมยิงอย่างหนัก นอกจากนี้ ในวันที่ 18 ธ.ค.กองทัพอากาศไทยได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศ โดยเครื่องบินขับไล่ F-16 ได้ทิ้งระเบิดใส่ฐานปฏิบัติการทางการทหารกัมพูชาเขตที่ 5 เมืองปอยเปต เป้าหมายการโจมตีครั้งนี้ คือ อาคารศูนย์กลางของเครือข่ายแก๊งสแกมเมอร์ รวมถึงคลังอาวุธของกองกำลังกัมพูชาที่ใช้รุกรานไทยเพื่อทำลายให้สิ้นสภาพ“พระองค์หญิง” เยี่ยมศูนย์พักพิงฯเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. เพจเฟซบุ๊ก HRH Princess Sirivannavari Nariratana Rajakanya เผยแพร่ภาพสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จฯไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ใน อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ได้แก่ ศูนย์อพยพฯ วัดแสงเกษม และศูนย์อพยพฯวัดป่าชัยมงคล อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ทรงเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังความปลื้มปีติและซาบซึ้งในน้ำพระทัยของ “พระองค์หญิง” ที่ทรงห่วงใยราษฎรในพื้นที่ที่มีภัยการสู้รบและอพยพมาพักพิงหลบภัยอยู่ในศูนย์ฯ ภายหลังจากเมื่อเที่ยงวันที่ 17 ธ.ค. สมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เสด็จฯไปทรงมอบสิ่งของพระราชทานและเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ชายแดนไทย—กัมพูชา จำนวน 60 นาย ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ ณ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานีทภ.2 สรุปสถานการณ์ตาควายยังแรงเวลา 08.30 น. วันที่ 18 ธ.ค. กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย—กัมพูชา ว่า ในวันที่ 17 ธ.ค. สถานการณ์การปะทะในพื้นที่ยังคงอยู่ในระดับความรุนแรงสูง ศูนย์กลางความรุนแรงในพื้นที่ตาควาย จ.สุรินทร์ พื้นที่ห้วยตามาเรียและภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ ทหารกัมพูชายังคงปฏิบัติการทางยุทธวิธีอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเข้าตียึดคืนที่หมายสำคัญในพื้นที่ดังกล่าว ด้วยการใช้จรวดหลายลำกล้อง BM-21 เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 100 มม. และโดรนโจมตี ระดมยิงเข้าสู่พื้นที่การปะทะและพื้นที่ส่วนหลังอย่างหนาแน่น ส่งผลกระทบในความเสียหายต่อพื้นที่พลเรือน พบการใช้โดรนเพื่อโจมตี การหาพิกัด GPS สำหรับ เป้าหมายทางทหารในพื้นที่ตอนในอีกด้วย สำหรับฝ่ายเราคุมอากาศยานไร้คนขับได้ดีขึ้น มีการตอบโต้เชิงระบบ ทำให้สามารถควบคุมพื้นที่สำคัญได้หลายจุดและยังคงขยายการควบคุมตามแผนปฏิบัติการ ทำให้ภาพรวมกำลังพลฝ่ายเราขวัญกำลังใจดี การควบคุมสถานการณ์ยังมั่นคงดีช่องบกช่องอานม้ารุกได้ตามแผนในการแถลงระบุถึงเหตุการณ์สำคัญในพื้นที่ ได้แก่ ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานีพื้นที่ช่องบกกำลังทั้งสองฝ่ายมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง มีข่าวสารว่า กัมพูชาเสริมกำลังทหารเข้ามาในพื้นที่เพิ่มเติม พื้นที่ช่องอานม้า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติการเชิงรุกที่หมายตามแผน ทำการเสริมความมั่นคงและจัดระเบียบใหม่ ณ ที่หมาย ซึ่งกัมพูชาไม่สามารถตอบโต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฝ่ายไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เด็ดขาด6 พื้นที่สงครามโดรนยิงกันเข้มข้นด้านชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ พื้นที่ซำแต—โดนตรวล—ภูผี—สัตตะโสม—พนมประสิทธิโส—ช่องตาเฒ่า มีกระสุนปืนใหญ่ของทหารกัมพูชาตกบริเวณฐานทหารไทยหลายครั้ง ฝ่ายไทยได้ยิงตอบโต้ไปในทิศทางที่ตรวจพบจากเครื่องมือค้นหาเป้าหมาย นอกจากนี้ ยังตรวจพบโดรนข้าศึกจำนวนมาก มีกำลังพล ได้รับบาดเจ็บ 3 นายจากสะเก็ดจรวด RPG ในพื้นที่ซำแต พื้นที่บริเวณผามออีแดง—ห้วยตามาเรีย ทั้งสองฝ่ายยังมีการปะทะเป็นระยะด้วยปืนเล็กยาวและเครื่องยิงลูกระเบิดกันต่อเนื่อง พื้นที่นี้ถือว่าสงครามโดรน และการใช้อาวุธยิงระยะไกลอย่างเข้มข้นไทยตีฐานเคลียงเมืองปักธงสำเร็จพื้นที่ภูมะเขือ-ช่องโดนเอาว์-พลาญยาว- พลาญหินแปดก้อน ฝ่ายกัมพูชาใช้โดรนบินทิ้งระเบิดในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฝ่ายไทยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ โดยยังมีการปะทะกันอย่างหนาแน่น จากการพยายามเข้าตียึดคืนพื้นที่ของทหารกัมพูชา ทหารไทยสามารถตรวจพบ UAV 1 ลำ โดรน 4 ลำ บริเวณภูมะเขือและยังคงมีกระสุนปืนใหญ่กัมพูชาตกบริเวณทางขึ้นภูมะเขือ ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ พื้นที่ช่องจอม-ช่องเปรอ-ช่องระยี กัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้ามายังประเทศเป็นห้วงๆ ฝ่ายไทยจึงเปิดปฏิบัติการเชิงรุกเข้าตีฐานเคลียงเมือง (ปีกขวาช่องจอม) จนเข้าควบคุมเคลียร์ที่หมายได้สมบูรณ์ มีการปักธงชาติไทยตามแนวคูเลต ฝ่ายไทยควบคุมพื้นที่สถาปนาความมั่นคงได้สำเร็จเขมรระดมยิงตาควาย–ตาเมือนธมพื้นที่คนา ฝ่ายไทยสถาปนาความมั่นคง ณ ที่หมายและตรึงกำลังตลอดแนวการวางกำลัง พื้นที่ตาควาย ทหารกัมพูชามีการยิงเครื่องยิงลูกระเบิด ปืนใหญ่ และจรวด BM-21 เข้ามาเป็นระยะ รวมทั้งทหารกัมพูชายังคงมีการเพิ่มเติมกำลัง ฝ่ายไทยพยายามดำเนินกลยุทธ์ต่อเนิน 350 แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้ มีกำลังพลเสียชีวิต 2 นาย จากการปะทะบริเวณพื้นที่ตาควาย ภาพรวมเป็นพื้นที่ปะทะหนัก แต่ฝ่ายเรายังยึดพื้นที่หลักไว้ได้ พื้นที่ช่องกร่างตรวจพบรถถังของทหารกัมพูชาทำการยิงมายังแนวการวางกำลังของฝ่ายไทยพื้นที่ตาเมือนธม ทหารไทยยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่ตลอดแนวการวางกำลัง โดยทหารกัมพูชาได้ยิงปืนใหญ่ และ BM-21 เป็นระยะและตรวจพบ UAV จำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจพบทหารกัมพูชาเพิ่มกำลังเข้ามาในพื้นที่ และยังคงตรวจพบรถถังทหารกัมพูชาบริเวณหน้าแนว ส่วนในช่วงเย็นมีกำลังพลบาดเจ็บและสถานการณ์เริ่มตึงเครียดและมีแนวโน้มยกระดับรถถังไทยถล่มตึกจุดปล่อยโดรนด้านชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ พื้นที่ช่องสายตะกู ฝ่ายไทยใช้ปืนใหญ่และรถถังยิงตึกอาคารที่ถูกใช้เป็นฐานทหาร จุดปล่อยโดรนของกัมพูชาและสถานที่ตั้ง สแกมเมอร์ อาคาร ตึก กับพื้นที่โดยรอบได้รับความเสียหายอย่างมาก สำหรับผลกระทบในพื้นที่พลเรือนจำนวน 1 พื้นที่ ได้แก่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในพื้นที่ชุมชนยังตรวจพบกระสุน BM-21 ตก 2 จุด สะเก็ดระเบิดโดนหลังคาบ้าน บ.สกลพัฒนา บ้านเรือนเสียหาย นอกจากนี้ยังมีกระสุนตกไร่มัน ที่ บ.ใหม่ดงเย็น ไม่มีผู้บาดเจ็บ หรือทรัพย์สินเสียหายเขมรยังบึมบ้านหนองจาน–หนองหญ้าแก้วอีกด้านที่ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย- กัมพูชา ททบ.5 เวลา 10.00 น. พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้วงที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชายังคงเปิดฉากระดมยิง BM-21 กว่า 100 นัดใส่เป้าหมายพลเรือนในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว ทําให้เกิดเพลิงไหม้เสียหายกว่าหนึ่งพันไร่ ฝ่ายไทยจําเป็นต้องป้องกันตัวเอง สรุปจำนวนทหารไทยมีเสียชีวิตจากการปะทะจำนวน 20 นาย อีก 1 นาย เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ภารกิจ รวมเสียชีวิต 21 นายศพ 2 ทหารยังนำออกมาไม่ได้โดนถล่มหนักพ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า อัปเดตสถานการณ์ ภาพรวมยังคงมีการโจมตีฝ่ายกัมพูชาในทุกพื้นที่ มีหนักเบา ฝ่ายไทยได้ควบคุมพื้นที่ได้หลายจุดและสถาปนาความมั่นคงเพื่อป้องกันการตีโต้ตอบจากฝ่ายกัมพูชา จ.อุบลราชธานี ช่องอานม้า ซัมแต จ.สุรินทร์ ช่องจอม ช่องเปรอ ช่องระยี ปราสาทคนา แต่ยังมีความพยายามโจมตีเข้ามาของฝ่ายกัมพูชาเพื่อช่วงชิงพื้นที่ แต่พื้นที่นี้ฝ่ายไทยยังได้เปรียบอยู่ สำหรับพื้นที่ที่มีการรบอย่างหนักหน่วง ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่มียุทธภูมิสำคัญคือเนิน 350 ปัจจุบันมีทหารพลีชีพจำนวนมาก มี 2 นาย ที่ยังไม่สามารถนำร่างออกมาได้ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังพยายามไปเอาศพและกัมพูชายังรุกคืบโจมตีหนักจะโจมตีกัมพูชาจนสิ้นสภาพทางทหารรองโฆษกกองทัพบกกล่าวว่า ในส่วนกองทัพภาคที่ 1 กองกำลังบูรพา จุดหลักที่เราพยายามผลักดันการรุกล้ำอธิปไตยของฝ่ายกัมพูชา มีอยู่ 3 จุด บ้านคลองแผง บ้านหนองหญ้าแก้ว บ้านหนองจาน สถานการณ์ทั้งไทยและกัมพูชาพยายามควบคุมพื้นที่ แต่ด้วยสภาพพื้นที่ราบและมีชุมชน การใช้กำลังในจุดนั้น เรียกว่าระดมยิงด้วยอาวุธวิถีโค้งทั้งปืนใหญ่และจรวดเข้าหากัน เพื่อช่วงชิงพื้นที่ แต่สิ่งที่พบ มีการใช้ BM-21 ยิงใส่พื้นที่เกษตรและพื้นที่พลเรือนหลายร้อยลูก เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เราต้องตอบโต้แน่นอน ถือเป็นพื้นที่หนึ่งเรากำลังช่วงชิง สำหรับบางจุดมีสถานการณ์หนัก เบา สลับไปมา แต่ถ้าเป็นพื้นที่ช่วงชิงจะหนักหน่วงเหมือนเดิม ฝ่ายไทยต้องยับยั้งการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่รุกเข้ามายึดคืนแผ่นดินไทย ควบคู่รุกยึดคืนพื้นที่อธิปไตยไทยและทําลายอาวุธยิงสนับสนุนรวมถึงที่ตั้งทางทหารที่เพ่งเล็งเป้ามาที่ประชาชนคนไทย ที่ได้รับความเดือดร้อนมากขึ้น กองทัพบกยืนยันว่าเราจะโจมตีกัมพูชาให้สิ้นสภาพทางทหารไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อพี่น้องประชาชนไปมากกว่านี้พบคลังทุ่นระเบิดสังหารที่บ้าน 3 หลังร.ท.หญิงนภัสกร ทิพย์โส ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงสถานการณ์บ้าน 3 หลัง บ้านหนองรี จ.ตราด ภายหลังยึดคืนพื้นที่ได้ จากสถานการณ์เมื่อวานนี้ ว่า กปจ.ชต. ลงพื้นที่ควบคุมพื้นที่ที่หมาย ตรวจค้นพื้นที่พบคลังทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ดัดแปลงมาจากทุ่นระเบิดดักรถถัง จำนวน 16 ลูกและอีกหลายลูกบริเวณโดยรอบ การกระทําครั้งนี้เป็นการแสดงออกถึงการจงใจสร้างอันตรายแบบไม่ระบุเป้าหมาย กองทัพเรือขอยํ้าว่า การกระทําเช่นนี้เป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ขัดต่อพันธกิจระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาออตตาวา กองทัพไทยพร้อมปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยประชาชนภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัดประกาศเขตพื้นที่ควบคุมเพิ่มเติมที่กองบัญชาการกองทัพบก เวลา 09.25 น. พล.ร.อ.ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะเลขาธิการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ชี้แจงกรณีกระแสข่าวทหารเรือบุกยึดเกาะกง-เกาะยอ เพื่อกดดันกัมพูชา ว่า เป็นปฏิบัติการของกำลังทหารกองทัพเรือ เพื่อสร้างความปลอดภัย ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายไปยึดเกาะกงหรือเกาะยอ อะไรก็ตามที่เป็นภัยคุกคามต่อกำลังพลและประชาชนไทยในพื้นที่ จะต้องถูกทำลาย เรายึดหลักการเช่นนี้ ภายหลัง ศรชล.ประกาศพื้นที่อาณาเขตทางทะเลจังหวัดจันทบุรีและตราด เพื่อสกัดเรือไทยขนส่งนำมันและยุทธปัจจัยไปกัมพูชาผ่านทางทะเล ในที่ประชุมสภากลาโหมวันที่ 18 ธ.ค. จะประกาศเขตพื้นที่ควบคุมเพิ่มเติมในจังหวัดที่มีอาณาเขตทางทะเลทั้งหมดจำนวน 12 ไมล์ทะเล คือ ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี ระยอง เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ มาตรการดังกล่าวควบคุมเฉพาะเรือของไทยเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้กัมพูชามีขีดความสามารถทางทหาร เราจะตัดตรงนี้ตั้งแต่เขตท่าเรือจนถึงพื้นที่ข้างใน สำหรับกรอบเวลาในการบังคับใช้ ตอนนี้ยังไม่กำหนดแต่จะอยู่ในกรอบเวลาที่เหมาะสม จะไม่ทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อนสื่อฝรังยกนิ้วทัพไทยบึมรังสแกมเมอร์ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพภาคที่ 2” โพสต์ข้อความหัวข้อ “เมื่อโลกเห็นสิ่งที่สื่อไทยมองข้าม” ระบุว่า “SMART Soldiers | เมื่อโลกเห็นสิ่งที่สื่อไทยมองข้าม Scam Army=Global Threat Thailand = Frontline Defender มีข่าวหนึ่งที่สื่อไทยแทบไม่ให้ความสนใจ แต่กลับเป็นประเด็นใหญ่ในสายตาสื่อต่างชาติ รวมถึง The Wall Street Journal ขณะที่หลายสำนักในไทยเลือกโฟกัสเพียงถ้อยคำของประธานาธิบดีทรัมป์ ข่าวนั้นคือศึกชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงมิติทางทหาร แต่คือปฏิบัติการทำลาย “เครือข่าย Scam Army” ระดับโลกถล่มกาสิโน–รร.แหล่งหลอกลวงเหยื่อรายงานข่าวระบุชัดว่ากองทัพไทย ได้ปฏิบัติการโจมตีอาคารกาสิโนและโรงแรม ซึ่งถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการของเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ ที่หลอกลวงเหยื่อจำนวนมาก รวมถึงพลเมืองสหรัฐฯ จนถึงวันที่ 14 ธันวาคม กองทัพไทยทำลายเป้าหมายลักษณะนี้แล้วไม่น้อยกว่า 6 แห่ง ที่สำคัญ ในจำนวนนี้มีอย่างน้อย 2 อาคารหลัก คือรีสอร์ตและโรงแรมกาสิโน ซึ่งถูกสหรัฐฯคว่ำบาตรทางการเงินและยึดทรัพย์เจ้าของไปก่อนหน้านี้แล้ว จากการพัวพันกับธุรกรรมสแกมเมอร์ที่หลอกลวงชาวอเมริกันมาอย่างยาวนานชมไทยปกป้องชาวโลกพ้นภัยคุกคามใหม่ในโพสต์ของกองทัพภาคที่ 2 ระบุอีกว่า นี่จึงอธิบายได้ว่าเหตุใดหลายประเทศแม้จะเรียกร้อง “หยุดยิง” แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดที่เป็นรูปธรรมต่อไทย รวมถึงท่าทีของสหรัฐฯ ที่ดูเหมือนปรามตามมารยาทในฐานะผู้สนับสนุนสันติภาพ เพราะในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่รัฐบาลและกองทัพไทยกำลังทำอยู่ ไม่ใช่การขยายสงคราม แต่คือการตัดรากอาชญากรรมข้ามชาติ ช่วยปกป้องประชาชนทั่วโลกจากเครือข่ายโจรสแกมเมอร์ นี่ไม่ใช่แค่การป้องกันอธิปไตยของไทย แต่คือการยืนหยัดแนวหน้าแทนโลกทั้งใบ ในการรับมือภัยคุกคามรูปแบบใหม่อย่างตรงไปตรงมาF–16 โจมตีฐานทหารและคลังอาวุธเขมรนอกจากนี้ใน เวลา 15.30 น. เฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์ข้อความว่า ด่วน เวลา 15.18 น. เครื่องบินรบ F-16 ของกองทัพอากาศไทยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทิ้งระเบิดใส่ตำแหน่งฐานปฏิบัติการทางทหารและคลังอาวุธของกัมพูชาใกล้กับภูเขา ลึกเข้าไปใน อ.ศรีโสภณ จังหวัดบันเตียเมียนเจีย (บันทายมีชัย) ของกัมพูชาบึงตะกวนถูกไทยบอมบ์เสียหายหนักที่ จ.สระแก้ว มีรายงานความเคลื่อนไหวทางทหารบริเวณพื้นที่บึงตะกวน ฝั่งกัมพูชาอยู่ตรงข้าม อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว หลังตรวจพบกลุ่มควันไฟลอยขึ้นเป็นวงกว้างและความเสียหายอย่างหนักในพื้นที่เป้าหมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชา แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเปิดเผยว่า ความเสียหายดังกล่าวเกิดจากปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายทางทหารของกองทัพไทย ตามแผนยุทธวิธีที่ได้วางไว้ เพื่อสกัดและลดศักยภาพของฝ่ายตรงข้ามในพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบว่าสิ่งปลูกสร้างและโครงสร้างที่ใช้เป็นฐานปฏิบัติการในพื้นที่เป้าหมายได้รับความเสียหายหลายจุดสระแก้วตึงเครียดเสียงปืนยังดังขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประเมินผลการปฏิบัติการและความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่องและยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อพื้นที่ฝั่งไทยในขณะนี้ กล้องวงจรปิดของชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ตาพระยา ยังคงจับเสียงระเบิดและปืนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนจนถึงช่วงเช้า ทั้งนี้ สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดสระแก้ว ยังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อปกป้องประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มงวดทูตอินโดห่วงสถานการณ์ไทย–เขมรที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย ให้การต้อนรับนายรัคมัต บูดีมัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ที่เข้าเยี่ยมคารวะ เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ นายอนุทิน ได้ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินโดนีเซียที่มีความใกล้ชิดมายาวนานและขอบคุณอินโดนีเซีย ที่เข้าร่วมการประชุมระหว่างประเทศ ว่าด้วยหุ้นส่วนระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งไทยเป็นผู้ริเริ่ม พร้อมเน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการปราบปรามศูนย์สแกมเมอร์ พร้อมกันนี้ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อประเด็นสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายอนุทินเน้นย้ำว่าไทยปฏิบัติตามข้อตกลงในปฏิญญาร่วมมาตลอด สถานการณ์ที่เกิดขึ้น กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงก่อน ทำให้ไทยบาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะนี้ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพออกจากพื้นที่ ด้านนายรัคมัตแสดงความห่วงใยกังวลต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะหาทางออกร่วมกันได้ในที่สุดถ้าใครจะห้ามหยุดยิงให้บอกกัมพูชาเวลา 11.42 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีจีนเตรียมส่งทูตพิเศษด้านกิจการเอเชียของกระทรวงการต่างประเทศจีน เยือนไทยและกัมพูชาในวันที่ 18 ธ.ค. เพื่อพูดคุยไกล่เกลี่ย กรณีชายแดนไทย-กัมพูชา ได้ประสานมาแล้วหรือไม่ว่า สำหรับตนยังไม่มี แต่เขาอาจจะมีการติดต่อในช่องทางการทูต เมื่อถามว่ารอบนี้ จีนจะเข้ามาเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยปัญหาระหว่างไทยและกัมพูชาหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า คงไม่ใช่ เมื่อถามถึงจุดยืนของไทยต่อสถานการณ์นี้ นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าใครจะไปพูดก็ต้องไปพูดให้กัมพูชาหยุดยิงไทย เราไม่เคยทำอะไรเขาก่อนอนุทินย้ำไทยไม่ใช่คนเริ่มปะทะเมื่อถามถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย จะใช้เวทีประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนนัดพิเศษในวันที่ 22 ธ.ค. หารือเรื่องการเจรจาหยุดยิง นายอนุทินกล่าวว่า เขาไม่ได้ใช้ เขาแค่เชิญ รมว.ต่างประเทศไปประชุม ตอนแรกนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ บอกว่าจะไม่ไปประชุมที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ แต่จะไปประชุมที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย นายอันวาร์จึงโทรศัพท์มาให้ไปประชุมที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพราะเรื่องการเจรจา เริ่มที่นั่นหลายครั้งแล้ว ตนก็เห็นด้วย ไม่มีปัญหาอะไรตรงไหนที่เราทำได้มีเหตุมีผล เราโอเคอยู่แล้ว ตราบใดที่ไม่เสียผลประโยชน์ เมื่อถามว่ากลัวว่าการเจรจา บทสรุปจะเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ นายอนุทินย้อนถามกลับว่าบทสรุปอะไร ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าแม้จะมีการเจรจาแล้วแต่ยังกลับมาปะทะกันอีก นายอนุทิน ถามกลับอีกครั้งว่าใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อน คนที่อยากให้มีการเจรจา หยุดต่อสู้ จะต้องไปบอกใคร ต้องไปบอกคนตีหรือคนถูกตี เมื่อถามว่าถึงวันนี้ยังไม่สามารถบอกได้ใช่หรือไม่ว่าสถานการณ์จะจบเมื่อใด นายอนุทินกล่าวว่า เรารักษาอธิปไตย รักษาเกียรติภูมิ รักษาแผ่นดิน และรักษาความปลอดภัยของประชาชน ยังทำแค่ตรงนี้อยู่ ยังไม่มีเป้าหมายอื่นจีนยันส่งผู้แทนพิเศษมาเคลียร์ขัดแย้งด้านกระทรวงการต่างประเทศจีน ยืนยันการส่งนายเติ้ง ซีจวิน ผู้แทนพิเศษด้านกิจการเอเชียของกระทรวงการต่างประเทศจีน เดินทางเยือนกัมพูชาและประเทศไทยในวันที่ 18 ธ.ค. พร้อมชี้แจงว่ารัฐบาลจีนติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางพรมแดนของทั้งสองประเทศอย่างใกล้ชิดและจีนพยายามทำงานอย่างต่อเนื่องด้วยวิธีของตัวเองเพื่อคลี่คลายสถานการณ์พุ่งเป้า “เรือไทย” สกัดขน “น้ำมัน–ยุทธปัจจัย”ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการสกัดกั้นการลำเลียงน้ำมัน-ยุทธปัจจัยทางทะเลไปยังประเทศกัมพูชา หลังมีรายงานว่าอาจเล่นแร่แปรธาตุว่า ต้องเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ เรามุ่งไปที่เรือไทยที่ชักธงชาติไทย หรือชักธงสัญชาติใดๆ อาศัยความร่วมมือหน่วยงาน ต่างๆที่มีความชำนาญ เช่น กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร กระทรวงพลังงาน เรื่องนี้ได้พูดคุยใน สมช. กระทรวงกลาโหม ไม่ได้ดำเนินการตามลำพัง เมื่อถามว่าพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ไม่ใช่เป้าหมายจะยึดคืน 100% ใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพลตอบว่าทุกเป้าหมาย 7 จังหวัด ไม่ได้ให้ความสำคัญแค่ด้านใด ด้านหนึ่งจะยิงจนกว่าเขมรสิ้นสุดเป็นปฏิปักษ์เมื่อถามว่าพื้นที่ ทภ.1 จ.สระแก้ว อาจเสียเปรียบด้านภูมิประเทศ พล.อ.ณัฐพลตอบว่า ต้องเสริมยุทโธปกรณ์เพิ่มเติม ได้พูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 1 การยึดที่หมายได้ ไม่ใช่ว่าต้องนำกำลังไปวางไว้ ภาษาทหารเรียกว่าการคุ้มครองด้วยการยิง เมื่อเรายึดก็ยิงจนกว่ากัมพูชาจะสิ้นสุดการเป็นปฏิปักษ์ชัดเจน ที่รัฐบาลกัมพูชาพูดว่าพร้อมเจรจาอยากหยุดยิง แต่หน้าแนวยังระดมยิงกับเราทุกวัน ก็ต้องมีการหยุดยิงชัดเจนก่อน ถ้ากัมพูชาอยากหยุดยิงก็หยุดเลย แล้วถอนกำลังที่เผชิญหน้าออกไป เราไม่มีการไล่ยิงตามยิงถึงพนมเปญอยู่แล้ว ถ้าเขาอยากหยุดยิง ก็ต้องทำให้เราเห็นก่อน ไม่ใช่ดีแต่พูดและไม่ทำอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่