ไปไม่สุดซอยเหมือนแอ็กชันที่ดุดัน. คดีพิเศษมาแค่ครึ่งทาง คณะกรรมการคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีมติไม่รับสอบคดีฮั้วเลือก สว. ปี2567 กรณีความผิดอั้งยี่ซ่องโจรและคดีความมั่นคงในราชอาณาจักรไว้เป็นคดีพิเศษรับตรวจสอบแค่เฉพาะคดีฟอกเงิน งานรูทีนตามอำนาจปกติที่ดีเอสไอตรวจสอบได้อยู่แล้ว ไม่ต้องอาศัยมติเสียงข้างมากของคณะกรรมการฯ 2 ใน 3 มาเกี่ยวข้องเกมยืมดาบดีเอสไอสอย สว.สีน้ำเงินสะดุด แต่ยังมีช่องไปต่อ แค่ผ่อนคันเร่ง ไหลตามสัญญาณพิเศษรังจันทร์ส่องหล้า ภายหลังการเจรจาสงบศึกแผนล้ม สว. ระหว่าง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี นายใหญ่พรรคเพื่อไทย กับ เนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทยหลักฐานเด็ดโพยฮั้วที่เคยฮือฮา เปิดโปงการล็อกสเปกผู้สมัคร สว.ระดับอำเภอ จังหวัด ประเทศ เข้าข่ายอั้งยี่ซ่องโจร จู่ๆช็อตไปดื้อๆแค่ชั่วข้ามคืน หลังวงเจรจา 2 ผู้มากบารมีบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นแม้ไม่ถึงขั้นเคลียร์จบ แต่คลายล็อกให้พอหายใจได้ ไม่ไล่บี้เอาเป็นเอาตายเหมือนเดิม แต่ถ้าให้จบแบบไม่รับเป็นคดีพิเศษเลย ก็จะถูกครหามวยล้มต้มคนดูปิดดีลเฉพาะหน้าแบบพอมีชนัก ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ตัวเอง ดีเอสไอไปเค้นคดีฟอกเงิน ปล่อยคดีฮั้วเลือก สว.ให้เป็นหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ประนีประนอมถนอมน้ำใจ แบ่งบทกันตรวจสอบ ทอดเวลาไปไม่รู้จบเพราะมีพยานเกี่ยวข้องกว่า 1,200 ปาก และขั้นตอนตามกระบวนการยุติธรรม ในชั้นพนักงานสอบสวน อัยการและศาลอีกยาวเหยียดมีเวลาให้ 2 ผู้มากบารมีไปเจรจานอกรอบกันอีกหลายยกเพื่อไทยพลิกเกมเลี้ยงไข้ปมฮั้วเลือก สว.ไม่เร่งเครื่องล้างกระดาน สว.สีน้ำเงิน หันมาติดชนักล่ามโซ่ทางคดี คอยปรามพยศ ห้ามออกลูกเฮี้ยวตีรวนไปทุกเรื่องวางเกมระยะยาวใช้เงื่อนไขคดีในดีเอสไอ ร่วมกุมบังเหียนวุฒิสภา แก้เผ็ดค่ายภูมิใจไทยที่มักใช้กลไก สว.เป็นเครื่องมือกดดันต่อรองทางการเมืองใช้แต้มต่อคดีฮั้วเลือก สว.หาจังหวะทุบ ลดทอนความแข็งแกร่งอาณาจักรสีน้ำเงินในวุฒิสภา วัดใจ สว.สายสีน้ำเงินจางๆให้พลิกขั้วย้ายสาย เพื่อเป็นหลักประกันอยู่รอดปลอดภัยทางคดีนายใหญ่เดินเกมขอแชร์ส่วนแบ่งการตลาด ดึงดุลอำนาจ สว.มาอยู่ในมือบ้างตั้งเป้าดูดเสียงสภาสูงให้ได้ 1 ใน 3 หรือ 67 เสียง ให้เพียงพอในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะได้เลิกยืมจมูกพรรคภูมิใจไทยช่วยเหลือในชั้นวุฒิสภางัดยุทธวิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง ที่ผ่านมาถูกพรรคภูมิใจไทยใช้กลไก สว.ทุบจนเพลี่ยงพล้ำหลายเรื่องก็เดินเกมทุบ สว.คืนบ้าง แก้เกมที่พรรคเพื่อไทยมักตกเป็นเบี้ยล่างในสภาสูงเที่ยวนี้วางแผนคิดการณ์ใหญ่ถึงขั้น เปลี่ยนดุลอำนาจในวุฒิสภาตามแนวโน้มระยะยาว “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ยังต้องฟาดปากกันอีกหลายยก แผลเรื้อรังแต่ละพรรคพร้อมถูกเติมเชื้อ เพิ่มอาการอักเสบทุกเมื่อ หากสบโอกาส อาทิ คดีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่ดินเขากระโดง การแก้รัฐธรรมนูญ ขบวนการฮั้วเลือก สว. กฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรล่าสุดก็มีคิวขุ่นเคืองเพิ่มเติมเข้ามาอีก กรณีรัฐบาลเตรียมยกเลิกสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันรายการ Moto GP จ.บุรีรัมย์ทัวร์นาเมนต์ระดับโลกที่ล็อกโปรแกรมจัดที่ถิ่นเซราะกราวมาทุกรอบ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลในพื้นที่ทะลุ 5,000 ล้านบาท แต่กำลังจะถูกปิดจ๊อบตัดงบฯสนับสนุนซีนขบเหลี่ยมระดับที่ครูใหญ่ “เนวิน” ออกโรงเคลื่อนไหวเป็น โทรโข่งโวยวายด้วยตัวเอง โดยเลือกช่วงเวลาใกล้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล เหมือนส่งสัญญาณเตือนกดดันให้รัฐบาลคิดหนัก อย่าริตัดท่อน้ำเลี้ยงต้องลุ้นเสียงโหวตศึกซักฟอกของ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะได้ 69 เสียง ครบถ้วนไม่มีแตกแถวจากภูมิใจไทยหรือไม่เกมงัดข้อ “เพื่อไทย–ภูมิใจไทย” รันทุกวงการ ทั้งเรื่องกฎหมาย เศรษฐกิจ สังคม กระทั่งแวดวงกีฬาจากรอยรักสมัยตั้งรัฐบาลใหม่ๆ ลามมาเป็นรอยร้าวขยายวงหนักขึ้น แต่ไม่ลงรอยกันแค่ไหนก็ต้องกล้ำกลืนทนช้ำเลือดช้ำหนอง ต่อรองรอมชอมอำนาจเป็นระยะๆ โดยยึดผลประโยชน์การเมืองเป็นตัวตั้งเต็มที่ก็แค่แตกแยกแต่ไม่กล้าแตกหัก เพราะยังไม่ถึงเวลาสิ้นสุดทางลาก!!!ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม