ปริศนา? พระพุทธรูปลอยน้ำ...หลายๆองค์ กระทั่งองค์ที่สุนทรภู่เขียนว่า คนสามแสนยังช่วยกันฉุดไม่อยู่ เป็นที่มาของชื่อถนนชื่อตำบลสามเสน...ไขให้กระจ่างได้ก็แค่ท่านลอยมาบนแพแต่มีองค์หนึ่ง...ท่านลอยตามน้ำมาจริงๆ แล้วก็ให้ต้องลอยมาขึ้นที่ริมฝั่งน้ำสามเสน จนวันนี้ท่านก็มีชื่อเรียก “หลวงพ่อสามเสน” แล้วก็มีความลับที่รู้กันให้แซ่ด! ท่าน “ขลัง” ขลังมากๆเอาเสียด้วยแต่ก็แปลก คนใกล้ถึงขนาดนั่งรถผ่าน หรือคนไกลไม่ค่อยรู้ ท่านจำวัดอยู่ที่ไหน?คนรู้และเป็นคนเล่าเรื่องนี้ชื่อ ปราณี กล่ำส้ม ครับ เธอเขียนไว้ในหนังสือย่านเก่าในกรุงเทพฯ (เล่ม 2) (วารสารเมืองโบราณ ฉบับพิเศษ พิมพ์รวมเล่มครั้งแรก พ.ศ.2549)เธอเริ่มต้นเหมือนจะบอกให้เดินตาม...พวกเราข้ามถนนสามเสนมายังฝั่งตรงข้าม เยื้องกับวชิรพยาบาล จะพบหลวงพ่อสามเสนประดิษฐานอยู่ในซุ้มหน้าสถานีตำรวจสามเสนเรื่องของหลวงพ่อเริ่มเมื่อ พ.ศ.2506 เมื่อชาวบ้านที่รับจ้างขนอิฐ ทรายอยู่บริเวณท่าน้ำสามเสน ได้พบพระพุทธรูปไม้ลอยน้ำมาติดที่ท่าน้ำนายทองอ่อน บุญกลิ่น เจ้าของท่าทราย ระดมคน เล่ากันว่ามากถึงสามสิบคน แต่ยกท่านขึ้นจากน้ำไม่ได้ เหมือนหลวงพ่อไม่เต็มใจแต่เมื่อทำพิธีบวงสรวงแล้ว ท่านก็เต็มใจขึ้นจากน้ำมาบนบกโดยง่ายผู้รู้บอกว่า พระลอยน้ำองค์นี้เป็นปางห้ามสมุทร สมัยต้นรัตนโกสินทร์ แกะจากแก่นโพธิ์ สภาพตอนขึ้นจากน้ำชำรุดมาก พระกรรณ พระบาทสองข้างหักหาย พระเกตุมาลาชำรุด ทั่วทั้งองค์พระดำสนิทเหมือนเคยลงรักมาก่อนถึงเวลานั้น ชาวบ้าน ตำรวจก็มีจิตศรัทธาช่วยกันบูรณะซ่อมแซมให้สมบูรณ์ แล้วนิมนต์ท่านไปประดิษฐานไว้ในสถานีตำรวจสามเสนต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2533 ทางตำรวจได้สร้างซุ้มไว้ด้านหน้า สน.แล้วนิมนต์หลวงพ่อมาไว้ เพื่อให้ผู้คนจำนวนมากที่เลื่อมใสศรัทธาแวะเวียนมากราบไหว้บูชาได้สะดวกขึ้นวันนี้หากใครแวะหยุดหน้า สน.สามเสน ก็จะเห็นพระพุทธรูปสององค์ ในซุ้มองค์ใหญ่คือหลวงพ่อสามเสน พระพุทธรูปลอยน้ำองค์จริง องค์เล็กคือองค์จำลอง สำหรับผู้เลื่อมใสได้ปิดทองด้านหน้าหลวงพ่อสามเสน มีดอกไม้สีเหลืองที่ผู้ศรัทธานำมาบูชา...กองใหญ่“ทำไม ดอกไม้สีเหลือง...” น่าจะเห็นคำถาม “ดอกไม้สีอื่น บูชาไม่ได้หรือ?”คำอธิบายจากนายตำรวจท่านหนึ่ง...“เคยมีคนเอาดอกไม้สีแดงมาบูชา คนบูชากลับไปแล้ว แต่ตำรวจในโรงพักรู้กันดี วันไหน ที่มีดอกไม้สีแดง วันนั้นคดีร้ายๆจะเข้า สน.มากกว่าปกติ”เรื่องของศรัทธา ตำรวจหรือใครก็ห้ามหรือจำกัดเอากับชาวบ้าน คงไม่ได้ ทันทีที่เห็นดอกไม้สีแดง คนในโรงพักสักคนก็ต้องช่วยกันเก็บออกทำไมหลวงพ่อชอบดอกไม้สีเหลือง เหตุใดหลวงพ่อไม่ชอบดอกไม้สีแดง...ในยุคสมัยที่นักการเมืองกำลังแข่งกีฬาสี...คงเป็นเรื่องที่ตำรวจ ไม่ควรเอามาเล่าขาน ให้เป็นที่ “ระคาย” โดยเฉพาะในยุคที่การเมืองสีแดงกำลังใหญ่หลวงพ่อสามเสน ท่านจะขลังมากน้อยแค่ไหน อย่างไร ตำรวจคงไม่เล่าคงเป็นเรื่องเล่ากันเองในหมู่ชาวบ้านปราณี กล่ำส้ม จบเรื่องเล่าหลวงพ่อสามเสนว่า ดูเหมือนเป็นการหวนคืนมาอีกครั้งหนึ่งของตำนานพระลอยน้ำ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสามเสนที่เรียกขานกันถึงวันนี้.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม