ปรากฏการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงนี้แม้จะมีปัญหาทับถมทำให้รัฐบาลต้องเจอมรสุมหลายด้านพูดง่ายๆว่าหนักเอาการอยู่แต่ก็ต้องประคับประคองให้ผ่านพ้นไปให้ได้แม้แต่เรื่องที่ทำให้ตกเป็นเป้าโจมตีจากฝ่ายค้านและบรรดาขาประจำต่างๆ ก็ต้องยอมทนอย่างเรื่องที่ดิน “เขากระโดง” ที่เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่กลับถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นใหม่ที่ทำให้รัฐบาลต้องเจอคลื่นลมแปรปรวนไม่น้อยอีกทั้งเกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกันคือ “เพื่อไทย” กับ “ภูมิใจไทย”เนื่องจากที่ดินผืนดังกล่าวซึ่งเป็นของการรถไฟฯแต่ถูกเอกชนยึดครอง ในจำนวนนั้นเป็นของตระกูล “ชิดชอบ” ด้วยรัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมที่มี “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นรัฐมนตรีสังกัด “เพื่อไทย” ได้ออกแรงกระแทกใส่กรมที่ดินซึ่งเป็นความรับผิดชอบของ “ภูมิใจไทย” ที่มี “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นรัฐมนตรีมหาดไทยรับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง“สุริยะ” ประกาศเสียงดังฟังชัดว่าจะไม่ยอมเสียแผ่นดินของการรถไฟฯแม้แต่ตารางเดียวให้ผู้ว่าการ รฟท.ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดินคืนที่ดินให้การรถไฟฯเสียแต่กรมที่ดินไม่ยอม อ้างว่ามีกฎหมายรองรับถูกต้องหากไม่มีเอกสารหลักฐานมายืนยันให้ชัดเจนก็ให้เอกชนยึดครองต่อไปแม้ทั้งสองฝ่ายจะตอบโต้กันไปมาแต่ก็เริ่มเงียบไม่ดุเดือดเลือดพล่านเหมือนตอนแรก อีกทั้งแกนนำของ “เพื่อไทย” ที่มีบทบาทสูงในรัฐบาลก็พยายามจะเบี่ยงประเด็นเพื่อลดดีกรีความบาดหมาง อ้างว่าเรื่องนี้พรรคร่วมรัฐบาลพูดคุยกันได้ทั้งๆที่ผิด-ถูกก็รู้กันอยู่ แทนที่จะทำให้ถูกต้องกลับไม่ทำมาถึงจุดนี้พอจะอ่านเกมทะลุและชัดเจนใน 2 ประเด็น1.เพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามบานปลายจนเกิดความขัดแย้งนำไปสู่ความแตกแยก2.เรื่องนี้มันโยงไปถึงที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ซึ่งปัจจุบันตระกูล “ชินวัตร” เป็นเจ้าของ นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” เป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งแม้จะโอนหุ้นให้ผู้อื่นไปแล้วก็ตามภาพมันเป็นว่า!“ชิดชอบ” เขากระโดง“ชินวัตร” อัลไพน์คือต่างครอบครองที่ดินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ต่างกันที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์นั้นเป็นที่ธรณีสงฆ์ที่ชาวบ้านมอบให้วัด จึงไม่สามารถให้เอกชนมาเป็นเจ้าของได้กรมที่ดินได้เล่นแร่แปรธาตุจนเกิดสภาพเช่นปัจจุบันนี่แหละคือปัญหาที่เรื่องเขากระโดงถูกเก็บดองเงียบเอาไว้ก่อนเพราะหาก “เพื่อไทย” ขย่มแรงๆ อีกฝ่ายคือ “ภูมิใจไทย” ซึ่งมีไพ่อยู่ในมือเหมือนกันเช่นกันก็พร้อมที่จะให้กรมที่ดินออกมาเปิดโปงเรื่องนี้เพื่อตอบโต้เพราะมีคำสั่งให้ที่ดินผืนนี้เป็นของวัด จะมายักย้ายถ่ายเทเป็นของเอกชนไม่ได้“ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่”...ทำนองนั้น...เมื่อต่างฝ่ายต่างก็มีไพ่อยู่ในมือเหมือนกัน พูดง่ายๆว่าทันกันจึงต้องหยุดทุกอย่างไว้ก่อนเพราะมิฉะนั้นแต่ละฝ่ายจะเสียประโยชน์และเกิดปัญหาขัดแย้งรุนแรงมากขึ้นนี่คือปัญหาของนักการเมืองกับนักการเมืองแต่รัฐต้องเสียหายเพราะเสียผืนแผ่นดินไปอย่างไม่ถูกต้อง!"สายล่อฟ้า"คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม