“อนุทิน” โชว์หล่อไม่เอาด้วยแก้ รธน.ปมจริยธรรม ลั่นนักการเมืองต้องรับการตรวจสอบ ไม่งั้นก็ให้ทำธุรกิจอยู่กับบ้าน อ้างนายกฯบอกเองไม่ซีเรียส ทำดีซะอย่างไม่กลัว “อิ๊งค์” ยันแก้ รธน.เรื่องของสภาฯ มุ่งทำงานให้ประชาชนก่อน คุยหลังไมค์มั่นใจพรรคร่วมเข้าใจกันดี ติงสื่อไม่ควรถามยุแยงกลับลำ “ภูมิธรรม” โบ้ยแนวคิดแก้กรอบจริยธรรมไม่ใช่ของเพื่อไทย “ชูศักดิ์” ไขความกระจ่าง สส.เพื่อไทยตาสว่างพร้อมใจหยุดดันทุรังสุดซอย “ภูมิใจไทย” เดินหน้าชู ส.ส.ร. แก้ รธน.ทั้งฉบับ รทสช.เมินไม่แก้ชี้มาตรฐานเดิมดีอยู่แล้ว พปชร.ค้านสุดลิ่ม ขณะที่ศึก สว.ทึ้งเก้าอี้ ปธ.กมธ.สายสีน้ำเงินกินเรียบ 20 คณะ “อังคณา” มากับดวงมือเฮงจับสลากแย่งมาได้ 1 หัวโต๊ะปมจริยธรรม ที่พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนชูธงแก้ไขในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ยังเป็นประเด็นร้อน ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล ประกาศแบบหล่อๆว่า นักการเมืองต้องรับการตรวจสอบ ไม่ทำอะไรผิดไม่ต้องกลัว ไม่อยากถูกตรวจสอบให้ทำธุรกิจอยู่บ้าน“อนุทิน” ยักท่าไม่แก้ปมจริยธรรมเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม มีรัฐมนตรีแจ้งลาประชุม 3 คน ได้แก่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ โดยก่อนเข้าประชุม ครม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของพรรค ภท.ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา โดยเฉพาะประเด็นจริยธรรมของนักการเมือง ว่า นักการเมืองเป็นบุคคลสาธารณะ ถ้าไม่อยากให้ตรวจสอบก็เล่นการเมืองไม่ได้ คนที่ใช้อำนาจรัฐบริหารราชการแผ่นดิน ต้องรับการตรวจสอบเพื่อเช็กแอนด์บาลานซ์ ไม่ได้ทำอะไรผิดไม่ต้องกลัวถูกตรวจสอบ ถ้าไม่อยากถูกตรวจสอบให้ทำธุรกิจอยู่ที่บ้าน เมื่อถามว่า ถือเป็นจุดยืนของพรรค ภท.เลยหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่ใช่จุดยืน แต่เป็นวิถีชีวิต หากพวกตนไม่อยากถูกตรวจสอบก็จะทำธุรกิจอยู่ที่บ้านเสียภาษีที่ต้องเสีย ไม่มีใครมาบอกว่า ต้องเสียภาษีในฐานะผู้จัดการบริษัทได้อ้าง “นายกฯ อิ๊งค์” บอกทำดีไม่ซีเรียสเมื่อถามว่า หากเข้าสภาแล้วพรรค ภท.จะแสดงจุดยืนอย่างไร นายอนุทินตอบว่า นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง และรองหัวหน้าพรรค ได้แถลงในนามพรรค ภท.ไปแล้ว ก่อนที่จะรับตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 2 แต่ยังไม่ทันไรก็มีคนพร้อมที่จะร้องแล้ว ตีความผิดหรือขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตนมั่นใจเท่าที่คุยกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ท่านก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องเหล่านี้ ท่านบอกว่าหากทำดีซะอย่างจะไปกลัวอะไร ทำในสิ่งถูกต้องก็พร้อมที่จะถูกตรวจสอบ ขณะนี้รัฐบาลเข้ามาทำงานไม่ถึง 2 สัปดาห์เห็นปัญหาต่างๆเยอะมาก มีเรื่องเยอะแยะที่ต้องทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน หากทำอะไรที่เอื้อต่อตัวเองเพื่อพวกพ้องมันก็ผิดตั้งแต่นับหนึ่งแล้วถามน้ำท่วมกับ รธน.อันไหนเบอร์ 1เมื่อถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลนัดหารือแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ยังไม่ได้รับการนัดหมาย ก่อนย้อนถามสื่อมวลชนว่า แก้รัฐธรรมนูญเบอร์ 1 หรือปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดภาคเหนือและพื้นที่อื่นๆ เป็นเบอร์ 1 ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดมากกว่า เมื่อถามถึงจุดยืนผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่รวมนิรโทษคดีมาตรา 112 นายอนุทินตอบว่า พูดมาตั้งนานแล้วไม่เห็นด้วย ไม่อยากพูดซ้ำๆ“อิ๊งค์” ยันโฟกัสแก้น้ำท่วมก่อน รธน.ต่อมาเวลา 12.15 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.ถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกัน แต่ตอนนี้รัฐบาลขอโฟกัสเรื่องแก้ปัญหาน้ำท่วม อย่างเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ก.ย. ก็ได้รับรายงานมา ที่ลำปางน้ำท่วมหนักขึ้น เมื่อสักครู่พูดคุยกันนอกห้องประชุม รัฐมนตรีทั้งหมดก็คุยกันเรื่องเยียวยาน้ำท่วมในแต่ละพื้นที่ เมื่อถามว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องพักไว้ก่อนหรือไม่ น.ส. แพทองธารตอบว่า เป็นเรื่องที่อยู่ในสภา รัฐบาลต้องทำงานให้ประชาชนก่อนเชื่อพรรคร่วมรัฐบาลไม่กลับลำผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนมีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคกลับลำ ตอนแรกอยากแก้เรื่องจริยธรรมแต่ตอนนี้กลับไม่แก้ เช่น พรรค ภท.และรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เมื่อได้ยินคำถามนี้บรรดารองนายกฯ และรัฐมนตรี ที่ยืนอยู่หลังนายกฯต่างพากันหัวเราะ ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย รีบกล่าวแทรกขึ้นมาว่า“ไม่ได้กลับลำครับ ขอทำงานให้พี่น้องประชาชนก่อน” เมื่อถามย้ำว่า รัฐบาลยังจะแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า “ต้องคุยกัน” ก่อนที่ น.ส.แพทองธารจะตอบว่า ต้องพูดคุยกัน ไม่อยากให้นักข่าวถามแบบนี้ว่า กลับลำ จริงๆแล้วเราคุยทั้งก่อนและหลังการประชุม ครม.เข้าใจว่า เวลาสัมภาษณ์ถูกตัดบางคำพูดทำให้รู้สึกว่า กลับลำหรือไม่เห็นด้วยได้ แต่ความจริงแล้วคุยกันหลังไมค์เราเข้าใจอยู่แล้ว หัวหน้าพรรคร่วมมีความคิดเห็นกันว่า ตอนนี้สิ่งที่รัฐบาลควรเน้นย้ำ คือเรื่องของพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม หรือกระตุ้นเศรษฐกิจ อยากจะบอกว่า ถ้ารัฐบาลมั่นคง เสถียรภาพการเมืองมั่นคง ประเทศชาติก็มั่นคงไปด้วย อันนี้นักข่าวก็ต้องช่วยกันเรื่องนี้ปรามสื่อถามยุแยงพรรคร่วมเมื่อถามว่า มีความกังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำกันสุดซอย น.ส.แพทองธารตอบว่า เรื่องนี้ต้องพูดคุยกัน รัฐบาลเข้มแข็ง นั่นคือสิ่งที่ดีของประชาชน เพราะฉะนั้นจำไว้ว่า เราอยากให้รัฐบาลเข้มแข็งต่อไป ขอให้นักข่าวไม่ถามอะไรที่เป็นการยุแยง เมื่อถามอีกว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่วาระเร่งด่วนใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ณ ขณะนี้ สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดคือสถานการณ์น้ำท่วม ถ้าดูหน้ารัฐมนตรีทุกคน มีความกังวลใจจะแก้ปัญหาให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด พูดภาษาง่ายๆอันนี้คือสิ่งที่เราโฟกัส และเมื่อสักครู่ ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนปัจจุบันที่กำลังจะเกษียณอายุ ได้ส่งมอบงานให้ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ ลงพื้นที่ จ.เชียงรายบูรณาการแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้ว นายอนุทินส่งไปแล้วไม่ต้องห่วงพื้นที่เชียงราย มีคนไปดูแลเต็มที่แล้ว“ภูมิธรรม” โบ้ย พท.ไม่ใช่ต้นคิดนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงพรรค พท.และพรรค รทสช.แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญเกี่ยวกับมาตรฐานจริยธรรม ว่า พยายามจะนัดหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลคุยกันเร็วที่สุด ถ้าไม่เห็นด้วยก็ยังไม่ต้องไป ยืนยันว่าการแก้รัฐธรรมนูญเรื่องดังกล่าวจุดเริ่มต้นไม่ได้มาจากพรรค พท.แต่เป็นข้อเสนอจากหัวหน้าพรรคการเมืองหลายพรรค ที่แสดงความไม่สบายใจ และก่อนถวายสัตย์ฯได้คุยกัน เริ่มต้นจากพรรคร่วมรัฐบาล พรรค พท.ในฐานะแกนนำถึงหยิบมาพิจารณา ผลจะเป็นอย่างไรต้องรอการประชุมหัวหน้าพรรคร่วม เมื่อถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนอยากให้แก้ นายภูมิธรรมตอบว่า ที่ฟังดูเกือบทุกพรรค แต่ถ้าคุยทางการต้องคุยหลายพรรค เมื่อถามว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท.ระบุควรแก้ปัญหาให้ชาวบ้านก่อนแก้รัฐธรรมนูญ ที่ถูกมองว่าแก้เพื่อตัวเอง นายภูมิธรรมตอบว่า ก็คิดไม่ต่างกัน แต่สิ่งที่คิดเหมือนกันคือ มันเป็นปัญหา ไม่ใช่เรื่องจริยธรรมอย่างเดียว มีหลายประเด็นหลายอย่างหลายเรื่อง เราจะนำไปสู่การแก้ทั้งฉบับอยู่แล้วพท.เพิ่งกระจ่างผ่อนแรงไม่ดันต่อเมื่อเวลา 15.00 น. ที่อาคารชินวัตร 3 มีการประชุม สส.พรรค พท.นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.มีรัฐมนตรี แกนนำพรรค และ สส.เข้าร่วมประชุม อาทิ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายก รัฐมนตรี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย โดยนายชูศักดิ์ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ในประเด็นจริยธรรม โดยระบุว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เกิดจากพรรค พท.แต่เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ในพรรคร่วมรัฐบาล เป็นผู้เสนอเข้ามา ทำให้ สส.ในพรรคเห็นตรงกันว่า เมื่อเป็นเช่นนั้นพรรคก็จะไม่ผลักดันต่อ เพราะถึงอย่างไรพรรคเพื่อไทยก็ไม่ใช่คนริเริ่มภท.มีมติตั้ง ส.ส.ร. รื้อ รธน. ทั้งฉบับที่พรรค ภท.ถนนพหลโยธิน ย่าน ม.เกษตรศาสตร์ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง กรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค ภท.แถลงภายหลังประชุม สส.พรรค ภท.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการทำประชามติ ผ่านการแก้ไขโดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เป็นวิธีทำให้สังคมเกิดการยอมรับในกติกาการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม และควรแก้ทั้งฉบับ ยกเว้นในหมวด 1 และหมวด 2 ด้านนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรค ภท. กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากพรรค พท.เพื่อหารือถึงการแก้ไขในประเด็นมาตรฐานจริยธรรมรทสช.ชี้มาตรฐานเดิมดีอยู่แล้วที่พรรค รทสช.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช.เป็นประธานประชุม สส.พรรค มีกรรมการบริหารพรรค รัฐมนตรี สส.ร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรค รทสช.แถลงว่า พรรคได้หารือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญมาตรฐานทางจริยธรรมของนักการเมือง พรรคเห็นว่า มาตรฐานทางจริยธรรมของนักการเมืองที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมีความเหมาะสมแล้ว เพื่อให้ได้นักการเมืองที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ไร้ประวัติด่างพร้อย ดังนั้นพรรค รทสช. มีมติไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรฐานทางจริยธรรมของนักการเมือง โดยนายพีระพันธุ์ได้แจ้งที่ประชุมว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในส่วนของมาตรฐานทางจริยธรรมของนักการเมืองนั้นไม่เคยมีการหยิบยกขึ้นมาหารือในระดับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลมาก่อนแต่อย่างใดพปชร.ค้านแก้ รธน.-นิรโทษสุดลิ่มที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานประชุม สส.พรรค ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค พปชร. แถลงว่า พล.อ.ประวิตร ยืนยันไม่เห็นด้วยแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราและทั้งฉบับ โดยเฉพาะลดมาตรฐานจริยธรรม และไม่เห็นด้วยการแก้มาตรา 112 ไม่ว่าจะเกิดประโยชน์กับบุคคลใด นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการ พปชร.กล่าวว่า พรรคคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ตัวเอง ไม่สร้างประโยชน์ให้ประชาชน แต่ช่วยให้พวกตัวเองพ้นผิด ให้ผู้ตัดสิทธิทางการเมืองกลับมาเป็นรัฐมนตรีได้ จะค้านถึงที่สุด รวมถึงคัดค้านนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112ซัดไร้สาระปิดสวิตช์ “ลุงป้อม”นายไพบูลย์ยังกล่าวถึงกรณีนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต สส.พรรค พท.จะยื่นเรื่องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ป.ป.ช. ตรวจสอบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.กรณีลาประชุมไม่อยู่ร่วมลงมติกฎหมายว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ไร้สาระ ไม่ใช่หน้าที่นายพร้อมพงศ์ มาจี้หาเหตุผล คนในพรรค พท. ลาเป็นประจำ พล.อ.ประวิตรไปสภาหลายครั้งแล้ว ถ้าไม่ไปก็ยื่นใบลาอย่างถูกต้อง ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีนายพร้อมพงศ์ที่นำคลิปเสียง พล.อ.ประวิตร ถูกดักฟังมาเปิดเผยนั้น เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระมาก มีอายุความ 10 ปี ยังมีเวลาดำเนินการ แต่จะไปยื่นฟ้องศาลคดีหมิ่นประมาทเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท กับนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ รวมมถึงรักษาการ ผอ.บมจ.อสมท ในวันที่ 30 ก.ย.ปชน.ย้ำไม่ได้แก้เอื้อพวกพ้องที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.)ให้สัมภาษณ์ว่า ภายในสัปดาห์นี้ประธานรัฐสภาจะนัดคณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย กำหนดกรอบเวลาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรค ปชน.เสนอไว้ทั้งหมด 4 ร่าง พรรคอยากได้เวลาเต็มที่พิจารณาสาระรายละเอียด เมื่อถามว่า การเสนอแก้ไขมาตรฐานจริยธรรมเพื่อพวกพ้อง นายณัฐวุฒิตอบว่า สส. 44 คน อดีตพรรคก้าวไกล ที่ได้รับผลกระทบคดีจริยธรรม ไม่ได้ร่วมลงชื่อในร่างแก้ไขของพรรค ปชน. เพราะไม่ต้องการให้เอื้อประโยชน์ และได้หารือกับ สว. อย่างไม่เป็นทางการเพื่อขอเสียงสนับสนุน เชื่อว่า สว.จะตัดสินใจเป็นอิสระ ยังมั่นใจจะได้เสียง 1 ใน 3 จาก สว.อย่างแน่นอนลุยขึ้นค่าแรง 400 บาท ให้ได้ในปีนี้อีกเรื่อง ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ แถลงภายหลังการประชุม ครม.ถึงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ที่ต้องเลื่อนบังคับใช้ไม่ทันวันที่ 1 ต.ค.ว่า ต้องรอข้อสรุปคณะกรรมการไตรภาคีจะเห็นอย่างไร รัฐบาลจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ยืนยันผลักดันค่าแรง 400 บาท ไม่เตะถ่วง ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย อยากให้ได้เร็วที่สุด ตั้งใจจะทำให้ได้ในปีนี้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง เพื่อพิจารณาค่าแรง 400 บาท ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากนายเมธี สุภาพงษ์ อดีตรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกษียณอายุราชการ ทำให้ไม่มีตัวแทน ธปท.เข้าร่วมหารือว่า ถ้าได้ตัวแทน ธปท.แล้ว จะเรียกประชุมทันที หากสัปดาห์นี้ไม่มีการประชุม มีโอกาสอีกครั้งวันที่ 30 ก.ย.นี้ ยืนยันไม่มีการเหนี่ยวรั้งการประชุม ส่วนจะเป็นเกมการเมืองหรือไม่นั้น ไม่สามารถตอบได้ อย่างไรก็ตามไม่สามารถยืนยันได้ว่า จะขึ้นค่าแรง 400 บาท ทันวันที่ 1 ต.ค.หรือไม่ลงทะเบียน “ทางรัฐ” ซ้ำซ้อน 10 ล้านคนนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงการโอนเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ในวันที่ 25 ก.ย.ว่า ยังไม่พบปัญหา เริ่มคิกออฟโอนเงินตั้งแต่เวลา 00.00 น.โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ จะเป็นประธานพิธีโอนเงินอีกครั้งในเวลา 09.00 น. การเติมเงินหมื่นราบรื่นเดินหน้าแน่นอน กระบวนการทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว คาดว่าวันที่ 25 ก.ย.จะโอนได้ 4 ล้านคน เนื่องจากการโอนผ่านพร้อมเพย์มีข้อจำกัด โอนได้วันละไม่เกิน 4 ล้านคน แบ่งไปตามเลขท้ายบัตรประชาชน สามารถเช็กสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.และจากการตรวจสอบผู้ลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐพบว่า ซ้ำซ้อนกับกลุ่มเปราะบางที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการถึง 10 ล้านคน ส่วนการแจกเงินหมื่นเฟส 2 น่าจะยาก เพราะติดปัญหาเรื่องระบบ แต่จะทันไตรมาสแรกของปี 2568 หรือไม่นั้น จะรีบที่สุดเพราะประชาชนเร่งรัดครม.ต่ออายุ “ปลัดตุ๋ม” คุม ทส.อีกปีที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกฯ แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ครม.มีมติแต่งตั้งนางนลินี ทวีสิน และนายชัย วัชรงค์ เป็นผู้แทนการค้า นอกจากนี้ ครม.มีมติอนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ต่อไปอีก 1 ปี เป็นครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ถึงวันที่ 30 ก.ย.2568“อังคณา” จับสลากคว่ำ สว.สีน้ำเงินเมื่อเวลา 09.00 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ วุฒิสภา 21 คณะ เพื่อเลือกประธาน กมธ.คณะต่างๆ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์มีการล็อบบี้วางตัว สว.สายสีน้ำเงิน เป็นประธาน กมธ.ไว้เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีจำนวนสว.สายสีน้ำเงินเป็น กมธ.ในสัดส่วนที่มากกว่ากลุ่มอื่นๆ ยกเว้นคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค ที่เสียง สว.สายสีน้ำเงินกับ สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่เท่ากันฝ่ายละ 9 คน ทำให้การ ขับเคี่ยวแย่งเก้าอี้ประธาน กมธ.เป็นไปอย่างดุเดือด ระหว่างนางอังคณา นีละไพจิตร สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ กับนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงสี สว.อดีต ผวจ.อ่างทอง ทั้งนี้การประชุมเป็นไปอย่างดุเดือด มีนายกัมพล สุภาแพ่ง สว.ที่อาวุโสสูงสุดทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมชั่วคราว ผลการโหวตรอบแรก ทั้ง 2 คนได้คะแนนเสมอกัน 9 ต่อ 9 โหวตรอบ 2 ยังมีคะแนนเท่ากันอีก ต้องใช้วิธีจับสลาก ปรากฏว่า นางอังคณา จับสลากได้เป็นประธาน กมธ.พัฒนาการเมืองฯสีน้ำเงินฮุบเกลี้ยง 20 ประธาน กมธ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ผลการเลือกประธาน กมธ.คณะอื่นๆ อีก 20 คณะ ล้วนแต่เป็น สว.สายสีน้ำเงิน ยึดตำแหน่งประธาน กมธ.ไว้หมด อาทิ พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา เป็นประธาน กมธ.ทหารและความมั่นคงของรัฐ นายธวัช สุระบาล เป็นประธาน กมธ.เกษตรและสหกรณ์ นายอลงกต วรกี เป็นประธาน กมธ.ติดตามบริหารงบประมาณ นายอภิชาติ งามกมล เป็นประธาน กมธ.การปกครองท้องถิ่น นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร เป็นประธาน กมธ.คมนาคม นายกัมพล สุภาแพ่ง ประธาน กมธ.การเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง นายนิเวศ พันธุ์เจริญวรกุล เป็นประธาน กมธ.เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและการโทรคมนาคมป.ป.ช.เปิดกรุสมบัติสภาสูงวันเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ สว.และอดีต สว. 92 ราย อาทิ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา กรณีเข้ารับตำแหน่งมีทรัพย์สิน 41,475,008 บาท มีหนี้สินจากเงินกู้ 764,031 บาท ขณะที่อดีต สว.นายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธานวุฒิสภา กรณีพ้นตำแหน่งมี 63,440,408 บาท ไม่มีหนี้สิน พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร อดีตรองประธานวุฒิสภา มี 57,456,629 บาท เป็นทรัพย์สิน พล.อ.สิงห์ศึก 30,563,491 บาท และนางศรีสุดา สิงห์ไพร คู่สมรส 26,893,138 บาท ไม่มีหนี้สิน นายศุภชัย สมเจริญ อดีตรองประธานวุฒิสภา มี 46,149,113 บาท เป็นของนายศุภชัย 24,125,918 บาท และนางแน่งน้อย สมเจริญ คู่สมรส 22,023,194 บาท ไม่มีหนี้สิน คุณหญิง พญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์ มี 32,915,465 บาท พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ มี 39,819,633 บาท นายคำนูณ สิทธิสมาน มี 38,411,946 บาท นายถวิล เปลี่ยนศรี มี 26,686,653 บาท พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม น้องชายนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ มี 280,128,937 บาท และ พล.อ.นพดล อินทปัญญา มี 23,863,403 บาท เป็นต้นนายกฯซอยเท้ายังไม่โชว์ทรัพย์สินที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ยื่น กำลังทำรายละเอียดอยู่ โดยจะทำตามที่กฎหมายแนะนำทุกอย่าง มือใหม่ไม่เคยยื่นเลย กลัวผิดพลาดเหมือนกัน เลยพยายามถามรายละเอียดมา และยื่นให้ครบที่สุด เมื่อถามว่า ในส่วนของการโอนหุ้นบริษัท ประไหมสุหรี ให้พี่สาวและแม่ เป็นการโอนหรือขาย น.ส.แพทองธารตอบว่าตรงนี้ขอชี้แจงอีกครั้ง เมื่อถามว่าโซเชียลจับตากรณีเครื่องประดับของนายกฯ ที่มีเยอะมาก น.ส.แพทองธารตอบว่า ไม่ค่ะ ต้องขอบคุณโซเชียล และจะไปดูในโซเชียลที่เคยลงไว้ อันไหนที่ยังไม่ได้ถ่ายภาพจะไปดูรายละเอียดเพื่อประกอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินนำทีม รมต.ร่วมงานฉลอง 75 ปีชาติจีนเมื่อเวลา 18.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่ง ชาติสิริกิติ์ ถนนรัชดาภิเษก เขตคลองเตย น.ส. แพทองธาร พร้อมด้วยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพิพัฒน์ รัชกิจ ประการ รมว.แรงงาน เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงรับรอง เนื่องในโอกาสวันสถาปนาครบรอบ 75 ปี สาธารณรัฐ ประชาชนจีน ประจำปี 2567 โดยมีนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศ ไทย ให้การต้อนรับ และรับมอบช่อดอกกุหลาบสีแดงแสดงความยินดีจากนายกฯอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่