ฝุ่นจิ๋วพิษ “PM 2.5” นำไปสู่โรคร้ายมากมายที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ทั้งโรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งปอด และโรคปอด...ย้ำว่า “PM 2.5” มีขนาดเล็กกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางเส้นผมเกือบ 30 เท่าสามารถเข้าไปลึกถึงหลอดลมฝอย ถุงลมปอด และกระแสเลือดได้ประเด็นสำคัญมีว่า “PM 2.5” เกิดได้ทั้งจากธรรมชาติและกิจกรรม ของมนุษย์ แต่ “ฝุ่นพิษ” ในเมืองส่วนใหญ่มาจากฝีมือมนุษย์นี่แหละ ทั้งยังมีข้อมูลด้วยว่าแหล่งที่มาของ “สารก่อมะเร็ง” ในหัวเมืองหลักของไทย กรุงเทพมหานคร...มาจากไอเสียจากดีเซล 20% ไอเสียอื่นๆ 44% ก่อสร้าง อุตสาหกรรมอื่นๆ 36%ส่วน “เชียงใหม่” เกิดจากการเผาเศษชีวมวล 72% และไอเสีย ยานพาหนะ 28%ภัยร้ายจากมนุษย์ก็ต้องแก้ด้วยมนุษย์...“ปลูกต้นไม้ช่วยกรองอากาศ จัดสวนภายในและนอกอาคาร” เป็นหนึ่งในวิธีการสร้างอากาศดีง่ายๆ ด้วยตัวเราเองโครงการใหม่หมาด “ลำพูน สุขก๋าย สบายใจ๋” (Lamphun Healing Town) หนึ่งในโมเดลเล็กๆของจังหวัดลำพูนที่เกิดจากความร่วมมือ ร่วมใจจากทุกฝ่ายในภาคีเครือข่าย “สู้ฝุ่นจิ๋วพิษด้วยการปลูกต้นไม้” เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แก่เมืองลำพูนบนพื้นที่ถนนรถแก้ว เส้นทางพระธาตุ-เชื่อม-พระรอดพุ่งเป้าพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาที่เกิดผลดีต่อผู้อยู่อาศัยในพื้นที่และดึงดูดนักท่องเที่ยว พร้อมจัดกิจกรรมตรวจสมรรถภาพปอด คัดกรองผู้ป่วยทางเดินหายใจเชิงรุกในช่วงฝุ่น PM 2.5 เพื่อสุขภาพปอดที่ดีอนุพงษ์ วาวงศ์มูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน บอกว่า จังหวัดลำพูนได้มีมาตรการเพื่อลดและป้องกันปัญหา PM 2.5 ได้แก่ หนึ่ง...มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ในพื้นที่ป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ พื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่หมู่บ้าน...ชุมชนสอง...มาตรการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง (แหล่งกำเนิด) ในการควบคุมและลดมลพิษด้านการคมนาคมและขนส่ง ภาคอุตสาหกรรม ด้านการก่อสร้าง ภาคครัวเรือนและสุดท้าย...มาตรการการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ ผ่านระบบบัญชาการเหตุการณ์“การสร้างความตระหนัก สร้างการรับรู้กับประชาชน การควบคุมการบริหารจัดการเชื้อเพลิง การบังคับใช้กฎหมาย และการใช้ทีมประชารัฐในการบูรณาการทุกภาคส่วนในการป้องกัน...แก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ของจังหวัด”ประภัสร์ ภู่เจริญ นายกเทศมนตรีจังหวัดลำพูน บอกว่า เทศบาลเมืองลำพูนมีความพร้อมในการให้ความร่วมมือการพัฒนาโครงการ “ลำพูน สุขก๋าย สบายใจ๋” อย่างเต็มความสามารถวางแผนไว้ว่าในปี 2567 และ 2568 “ถนนรถแก้ว” ที่จะเป็นพื้นที่ต้นแบบพื้นที่แห่งความสุขกาย สบายใจ มีการปรับปรุงผิวถนน การปรับระบบไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ สวยงาม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีต่อผู้อยู่อาศัย และดึงดูดนักท่องเที่ยวการที่โครงการฯเดินหน้ามาอย่างต่อเนื่องเป็นเพราะกระบวนการการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคท้องถิ่น โดยเทศบาลที่อำนวยความสะดวกและสนับสนุนโครงการทั้งงบประมาณ การปฏิบัติงาน ทั้งฝั่งกองช่างโยธาและกองแพทย์ อสม.ชุมชน ร่วมกับเครือข่ายภาคเอกชน...ลำพูน ซิตี้ แลป, GSK และบริษัทอื่นๆมาเรีย คริสติช กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศ ไทย) จำกัด (GSK) เสริมว่า เราตระหนักดีว่าปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมส่งผล กระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและชีวิตของผู้คนมากขึ้น เช่น ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ จึงขอมีส่วนร่วมเชิงรุกอย่างเต็มที่ในการปกป้องและฟื้นฟูอย่าง...เทศกาลวาเลนไทน์ที่ผ่านมาเราร่วมกับเทศบาลเมืองลำพูน และลำพูน ซิตี้ แลป จัดกิจกรรมรักษ์โลก “ปลูกรักที่รถแก้ว” ภายใต้โครงการ “ลำพูน สุขก๋าย สบายใจ๋” เชิญชวนชาวลำพูนร่วมปลูกต้นไม้บนถนนรถแก้ว เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดมลพิษทางอากาศและเติมเต็มปอดให้กับชาวลำพูน“เชื่อว่า...โครงการฯจะถูกต่อยอดขยายผลออกไปอย่างไม่สิ้นสุดทั้งด้านสุขภาพ การตรวจสมรรถนะปอดและคัดกรองผู้ป่วยทางเดินหายใจ เชิงรุกและการปรับปรุงภูมิทัศน์เพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีบนถนนรถแก้วแห่งนี้ เพราะเรามีเป้าหมายเดียวกันคือการสร้างความสุขกายสบายใจให้ประชาชน”ประภัสร์ ทิ้งท้ายอีกว่า ส่วนสำคัญที่จะขาดเสียไม่ได้ คือ การมีส่วนร่วม ของประชาชนในพื้นที่ที่มีความแข็งแกร่งและให้ความสนับสนุนเป็นอย่างดี รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ลำพูน ซิตี้ แลป จำกัด ย้ำว่า โครงการ “ลำพูน สุขก๋าย สบายใจ๋” เป็นโครงการที่ทันสมัยในระดับโลก มุ่งเน้นความยั่งยืนหรือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ขับเคลื่อนไปพร้อมๆกับชุมชนและเดินหน้าในการสร้างสุขภาวะให้แก่ชุมชน ทั้งสุขภาวะทางกายและสุขภาวะทางใจจากแนวคิด Restorative City...“เมืองแห่งอนาคตไม่จำเป็นต้องอาศัยวิสัยทัศน์สุดโต่งหรือดูล้ำสมัย เพียงนำสุขภาพจิต ความป็นอยู่ที่ดี และคุณภาพชีวิตมาเป็นปัจจัยแรกสุดของการวางผังและออกแบบเมือง”ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่การลงนามความร่วมมือโครงการฯ ในเดือนมิถุนายน 2566 โครงการฯได้ทำงานเชิงลึกร่วมกับนักออกแบบ ชุมชน เทศบาลอย่างต่อเนื่อง โดยการออกแบบถนนรถแก้วโดย อาจารย์จุลพร นันทพานิช สถาปนิกผู้เชี่ยวชาญด้านระบบนิเวศน์ ได้วางผังและโครงสร้างทางระบบนิเวศน์เมืองในส่วนของการทำงานร่วมกับชุมชน ได้มีการประชุมระดมความเห็นและความต้องการของคนในพื้นที่จนสามารถตั้งเป็น “คณะกรรมการถนนรถแก้วสุขกายสบายใจ” ที่มีองค์ประกอบของภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญและผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ เพื่อร่วมดูแลสร้างโมเดลธุรกิจชุมชนต่อจากนี้“เพื่อให้ถนนรถแก้วเป็นพื้นที่ต้นแบบตามเป้าหมายของโครงการฯ ที่จะพัฒนาสิ่งแวดล้อม พัฒนาสุขภาพ และพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเทศบาลเมืองลำพูน รวมถึงกองช่างโยธาและกองแพทย์ ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน”นอกจากนั้นยังมีการติดตั้งงานศิลปะชื่อ “พิมพ์” ที่เป็นศิลปะสาธารณะชิ้นแรกที่ติดตั้งบนถนนรถแก้ว โดยเตาชวนหลง เตาเซรามิกในลำพูน ร่วมกับทีมวิจัยคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และการ จัดกิจกรรมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เช่น ลำพูนมิวสิกเฟสติวัล โดยวงดนตรีคนรุ่นใหม่ชาวลำพูนที่ผ่านมา...ยังมีกิจกรรมให้ความรู้แก่ประชาชน หัวข้อ “ชาวหละปูน ฮักปอด รู้เร็ว หายง่าย” โดย รศ.นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ ประธานเครือข่าย คลินิกโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอย่างง่าย ...หัวข้อ “การจัดการขยะเพื่อชุมชนของเรา” โดย เปรม พฤกษ์ทยานนท์ แอดมินเพจ “ลุงซาเล้ง กับขยะที่หายไป”หัวข้อ “ต้นไม้และระบบนิเวศน์เขตเมืองเก่า” โดย อาจารย์จุลพร นันทพานิช สถาปนิกป่าเหนือสตูดิโอ ให้มีความตระหนักรู้ในการดูแลสุขภาพปอด พร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มีความรู้ในการจัดการขยะในชุมชนอย่างถูกต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและความรู้ในการปลูกต้นไม้ระบบนิเวศน์ย่านเมืองเก่าทั้งหมดนี้เพื่อสร้างสรรค์พื้นที่ย่านใจกลางเมืองเก่าลำพูนให้เป็นพื้นที่แห่งความสุขทั้งกายและใจ ผ่านการพัฒนาในหลายมิติ ทั้ง...มิติด้านสุขภาวะ มิติสิ่งแวดล้อม มิติเศรษฐกิจ“ผนึกกำลัง” ภาคีเครือข่ายสุขกายสบายใจ เยียวยาเมือง...สิ่งแวดล้อมที่ดีของเมืองและย้อนกลับมาเยียวยาตัวเรา...สู้กับภัยสิ่งแวดล้อมที่เรื้อรัง ฝุ่นจิ๋วพิษ “PM 2.5” ได้อย่างเป็นรูปธรรม.คลิกอ่านคอลัมน์ "สกู๊ปหน้า 1" เพิ่มเติม